มอบไม้ดอกไม้ประดับ เป็นของขวัญแทนใจ ในวันปีใหม่

ไม้ดอกไม้ประดับ หมายถึง พันธุ์ไม้ที่มีลักษณะ รูปร่างของลำต้น กิ่ง ก้าน  ดอก ที่มีสีสันสวยงาม สามารถนำไปประดับตกแต่ง ทั้งภายในและภายนอกตามบ้านเรือน เพื่อให้มีความร่มรื่นน่าอยู่มากขึ้น

ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ โดยเฉพาะคนเมือง นับวันยิ่งห่างไกลจากธรรมชาติมากขึ้นทุกขณะ ไม้ดอกไม้ประดับจึงถือได้ว่ามีความสำคัญ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เพราะมีแหล่งผลิตอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ทำให้ผู้ปลูกสามารถประกอบเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับครอบครัว จึงมีการผลิตไม้ดอกไม้ประดับจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ เป็นการนำเงินตราเข้าประเทศปีละหลายพันล้านบาท

ปัจจุบัน มีการเพาะและผสมพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ให้เป็นที่ถูกตาต้องใจของผู้ซื้อมากขึ้น สายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการผสม นำมาตั้งชื่อใหม่ให้มีความเป็นมงคล เพื่อดึงดูดใจสำหรับคนที่มีความนิยมชมชอบไม้มงคล เพื่อนำมาประดับบ้านเรือน ตามความเชื่อที่สืบทอดต่อๆกันมา

ไม้ดอกไม้ประดับเป็นสิ่งจรรโลงใจ ให้แก่ผู้ปลูกได้รับความสุข ความเพลิดเพลิน ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ทำให้สุขภาพทางจิตใจมีความสุข สดชื่น ผ่อนคลายความเครียด พร้อมทั้งช่วยให้ผู้พบเห็นมีความสุขกายสุขใจ เจริญตาเมื่อมองพักสายตา

ไม้ประดับชื่อเป็นมงคล
ไม้ประดับชื่อเป็นมงคล

สำหรับปีใหม่นี้ใครที่กำลังมองหาของขวัญมอบให้กับคนที่เคารพรัก หรือเพื่อน ญาติ พี่น้อง ขอให้มามอบไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อเป็นสิ่งแทนใจให้แก่กัน ในช่วงปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ เพราะอย่างน้อยผู้รับ ยังสามารถมองเห็นพรรณไม้เหล่านั้นเจริญเติบโต จากการดูแลเอาใจใส่ของตนเอง และทุกครั้งที่เห็นพรรณ ผู้รับยังสามารถนึกถึงหน้าผู้ให้ได้อีกด้วย ผู้ที่จะมอบความรู้ในหัวข้อต่างๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ และสามารถนำไปใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณทวีพงศ์ สุวรรณโร เลขานุการกรม กรมส่งเสริมการเกษตร มาอธิบายในหัวข้อต่างๆ ให้ดังนี้

 

ทำไมถึงให้ดอกไม้เป็นของขวัญเนื่องในวันปีใหม่

          คุณทวีพงศ์ อธิบายว่า การให้ของขวัญ ทั้งวันปีใหม่และเทศกาลในโอกาสต่างๆ นั้น ในสมัยก่อนจะให้สิ่งของ เช่น อาหาร น้ำผลไม้ ฯลฯ ต่อมามีการห่วงเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น จึงมอบของขวัญที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยนิยมให้ดอกไม้หรือไม้ประดับเป็นของขวัญ ส่วนใหญ่จะมอบให้กันในวันรับปริญญา หรืองานแต่งงานเท่านั้น

คุณทวีพงศ์ สุวรรณโร
คุณทวีพงศ์ สุวรรณโร

แต่ปัจจุบันมีการให้ไม้ดอกไม้ประดับเป็นของขวัญมากขึ้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคนเมือง นับวันจะยิ่งห่างไกลธรรมชาติค่อนข้างมาก จึงนิยมให้ไม้ดอกไม้ประดับเพื่อเป็นสิ่งทดแทนธรรมชาติ ที่นับวันลดลงเต็มที

“ถ้าเราใช้ไม้ดอกไม้ประดับ ก็เหมือนเราอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ยิ่งคนอยู่ตามออฟฟิตต่างๆนี่ ยิ่งไม่ค่อยได้เห็นต้นไม้ ซึ่งโอกาสที่จะเห็นในห้องคงน้อย ทำให้ปัจจุบัน จึงนิยมมาให้เป็นของขวัญมากขึ้น และที่สำคัญยังมีความสวยงาม ผู้รับสามารถนำไปจัดตกแต่ง วางในตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน หรือนอกบ้าน ต่อมาไม่ได้มองด้วยความสวยอย่างเดียวแล้ว แต่มีประโยชน์ด้วย ช่วยสร้างออกซิเจน ทำให้อากาศดีขึ้น อีกทั้งยังมีงานวิจัย เมื่อหลายปีรับรองออกมาด้วยว่า ไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิด สามารถลดสารพิษได้ เพราะสารพิษเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ สารพิษมีอยู่ได้ตามในห้อง บ้านเรือนของเราเอง เช่น สีจากเฟอร์นิเจอร์ ตามผนัง ที่ระเหยออกมา แม้ปริมาณไม่มาก แต่ถ้าสะสมนานๆไป ก็มีผลต่อสุขภาพ ฉะนั้นจะเห็นว่า ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว ยังมีประโยชน์ ทำให้ปัจจุบัน มีคนนิยมมาให้ไม้ดอกไม้ประดับ เป็นของขวัญเยอะมากขึ้น” คุณทวีพงศ์ กล่าวถึงประโยชน์ของการมอบไม้ดอกไม้ประดับเป็นของขวัญ

 

ชนิด และพันธุ์ของไม้ดอกไม้ประดับที่นิยมให้เป็นของขวัญ

          เนื่องจากไม้ดอกไม้ประดับในเมืองไทย มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ ในแต่ละช่วงจะมีการปลูกและความนิยมแตกต่างกันไป ทำให้มีการพัฒนาสายพันธุ์มากขึ้น เพื่อให้มีสีสวยสดใส คงทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ทำให้ในแต่ละปีในประเทศไทยมีพรรณไม้ที่พัฒนาขึ้นใหม่เรื่อยๆ

new-3
กระเช้ากล้วยไม้แวนด้า
new-2
กวักมรกตจัดสวนถาด
new-5
บอนสีห่อพร้อมมอบเป็นของขวัญ

           “ไม้ดอกไม้ประดับมีค่อนข้างหลากหลาย ผู้ที่จะมอบดอกไม้ให้กับผู้รับนั้น ส่วนมากจะรู้รสนิยม ความชอบของผู้รับ ว่าชอบอะไร สีไหนอย่างไร ไม้ดอกไม้ประดับมีมากมายหลายกลุ่ม ไม้ดอก ไม้ต้น และก็ไม้ดอกกระถาง เช่น โป๊ยเซียน หน้าวัว โดยทั่วไปพืชพวกนี้ต้องการแสง ไม่นานดอกก็หายไป แต่ต้นยังสามารถนำมาปลูก เพื่อให้ออกดอกต่อไปได้ ส่วนด้านไม้ใบ เป็นไม้ที่ทนหน่อย เหมาะสมที่จะนำมาวางไว้ภายในอาคาร เพราะอยู่ได้นาน อยู่ที่ความชอบของผู้รับ ซึ่งผู้ให้จะสามารถเลือกได้หลากหลาย และเข้ากับคนที่เราจะให้ ไม่ตายตัวมีให้เลือกมากมายหลายแบบ เราก็ต้องเลือกให้เข้ากับคนที่เราจะให้” คุณทวีพงศ์กล่าว

 

รูปแบบการจัด และการเลือกที่เป็นสื่อแทนใจ

          คุณทวีพงศ์ เล่าว่า สมัยก่อนที่นิยมมากที่สุด คือ การให้ดอกไม้เป็นของขวัญมากกว่าต้นไม้ จึงจัดดอกไม้ลงในแจกัน กระถาง หรือเป็นช่อบูเก้ และกระเช้าดอกไม้สวยๆ แต่เนื่องจากดอกไม้ยังมีข้อจำกัด เพราะอายุการเก็บรักษาอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร ต่อมาจึงนิยมให้ต้นไม้มากขึ้น เพื่อให้มีอายุของดอกยาวนานขึ้น

new-8 new-11 new-7

“สมัยก่อนนี้ จะเน้นที่ให้แต่ดอกไม้ ก็จะเป็นการจัดเป็นช่อ หรือว่าจะใส่แจกัน แต่ตอนนี้ก็ให้เป็นต้นมากขึ้น ก็เลยไม่ต้องเน้นการตกแต่งมาก อย่างดีก็แค่ห่อด้วยกระดาษของขวัญ ผูกโบว์ส่งให้เลย ก็ง่ายและสะดวก ไม่ยุ่งยากในการจัดมากนัก ความนิยม ที่ชอบให้กันก็จะอยู่ที่ความเชื่อ อาจไม่ได้เน้นที่ความสวยงาม เพียงอย่างเดียว จะเน้นที่ความเชื่อด้วย เช่น โป๊ยเซียน ถ้าออก 8 ดอก นี่จะถือว่าจะโชคดี หลังๆมาก็จะตั้งชื่อ ไม้ต่างๆให้เป็นมงคลมากขึ้น เช่น วาสนา หยกนำโชค ทำให้คนที่ปลูก ก็ได้หวังทางจิตวิทยาเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น มีโชคลาภ ไม้อื่นๆเช่นต้นหยก ก็มีตั้งชื่อให้ดูดี ตามความเชื่อนั้นๆ จึงทำให้คนซื้อนิยมมากขึ้น” คุณทวีพงศ์กล่าวด้วยใบหน้าที่นึกถึงช่วงยุคสมัย ที่มีความนิยมแตกต่างกันไป

 

แหล่งที่จำหน่าย ควรเลือกซื้อที่ไหน 

          คุณทวีพงศ์ เล่าว่า ปัจจุบันร้านจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ มีการพัฒนามากขึ้นโดยเปิดเป็นชุปเปอร์มาร์เก็ต สำหรับขายด้านนี้โดยเฉพาะ ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกพรรณไม้ที่ดีมีคุณภาพ เพราะถือว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งบริการห่อเป็นของขวัญ และมีการจัดแบบพิเศษตามเทศกาล หรือตามที่ลูกค้าต้องการ พรรณไม้ที่นำมาขายเป็นพรรณไม้ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้า ทำให้สามารถเลือกซื้อได้ตามที่ต้องการ ซึ่งไม้ที่แปลกใหม่อาจมีราคาที่แพงสักเล็กน้อย แต่ผู้ซื้อต้องทำความเข้าใจด้วยว่า เป็นของแปลกใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมเกษตรกร ให้มีความภาคภูมิใจ และคุ้มค่ากับการเสียเวลากับความตั้งใจทำพันธุ์ใหม่ขึ้นมา ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศ ที่สามารถนำเงินตราเข้าประเทศปีละหลายพันล้านบาท ส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

“แหล่งที่ซื้อไม้ดอกไม้ประดับ สำหรับคนที่มีเวลา ก็จะมีแหล่งใหญ่ๆ ถ้าจะเอาไม้ดอก ก็ปากคลองตลาด ถ้าเป็นไม้กระถางต่างๆ ก็ต้องที่ตลาดจตุจักร ซึ่งทุกวันพุธ พฤหัสบดี ก็จะมีไม้มาขาย เพราะที่เหล่านี้เป็นแหล่งใหญ่ ส่วนใครที่อยู่ต่างจังหวัด ก็ลองหาตามแหล่งใกล้บ้าน ทำให้เรามีโอกาสเลือก ทำให้ซื้อได้ถูกลง แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็ดูตามความเหมาะสม เพราะบางทีอาจจะไม่แพงกว่ากันเท่าไหร่นัก แต่มีของให้เลือกน้อยกว่า ซึ่งดูได้ตามความพอใจเรา ส่วนงานที่มีการจัดนิทรรศการไม้แปลกๆ อันนี้ก็น่าไป โดยเฉพาะที่สวนหลวง ร.9 มีการจัดงานกันทุกปี ก็เป็นอีกหนึ่งจุด ที่ทำให้ได้ดูของใหม่ๆมากขึ้น รวมทั้งซื้อของใหม่ๆมามอบให้แก่กันด้วย” คุณทวีพงศ์กล่าวแนะนำ

 

ผู้ประกอบการ ควรเตรียมตัวอย่างไร

             เมื่อเทศกาล หรือวันสำคัญต่างๆ มาถึง ด้านผู้ประกอบการเองต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อให้ไม้ดอกไม้ประดับมีทันจำหน่าย หากพลาดโอกาสนาทีทองเหล่านี้ไป อาจจะต้องรอเวลานานไปอีกเป็นแรมปี จนกว่าโอกาสในช่วงปีใหม่หรือเทศกาลนั้นจะมาถึง

“ในแง่ผู้ประกอบเอง หรือแม้แต่ผู้ปลูก ก็จะมีการเก็งกำไรตลาดด้วย ก็จะมีการวางแผนการผลิต เพราะไม้ดอกสามารถกำหนดระยะเวลาได้ ว่าใช้เวลาปลูกลงกระถางกี่เดือน ถึงเวลาก็จะออกดอก เพื่อพร้อมขาย เขาจะมีวันนับย้อนหลัง แต่ก็จะอยู่ที่ชนิดของพรรณไม้ โดยเฉพาะไม้ดอกกระถาง ต้องมีการจัดการที่ดี เพื่อไม่ให้ออกดอกไวเกินไป เพราะหากหมดเทศกาลแล้ว หรือออกดอกก่อนเทศกาลมาถึง ก็ทำให้ขายไม่ได้ สิ่งจำเป็นคือต้องศึกษา ว่าไม้แต่ละชนิด ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ รวมทั้งการบำรุงรักษาด้วยครับ เพราะของที่มอบเป็นของขวัญ เรื่องคุณภาพนี่สำคัญ ดอกสวย แต่ใบเป็นโรค ก็ไม่ได้ คือทุกอย่างต้องสมบูรณ์ จึงอยากฝากผู้ประกอบการเรื่องนี้ด้วย เพราะการซื้อขายอยู่ที่ความพอใจ มีตำหนินิดหน่อยก็ทำให้ราคาตกได้ คนไม่อยากได้” คุณทวีพงศ์กล่าวพร้อมทั้งหัวเราะเล็กน้อย

new-13

การขนส่งควรทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

          คุณทวีพงศ์ อธิบายว่า สำหรับผู้ประกอบการ ช่วงขนส่งจะมีอยู่ช่วงเดียว คือ ช่วงจากสวนไปยังร้านจำหน่าย ซึ่งวิธีการเหล่านี้ในบ้านเราอาจจะยังทันสมัยสู้ต่างประเทศไม่ได้ เพราะอยู่ที่ต้นทุน และความพร้อมของพาหนะขนส่ง แต่ต่างประเทศค่อนข้างมีมาตรฐาน แต่ปัจจุบันเพื่อให้ความเสียหายน้อยลง บางร้านยอมลงทุนเพื่อให้มีการขนส่งที่ดีขึ้น โดยรถขนส่งเป็นแบบมีถาดลอง พร้อมทั้งจัดวางอย่างมีระเบียบ ทำให้เกิดความบอบช้ำน้อยลง เช่น ประเทศเนเธอแลนท์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ ก็มีการขนส่งที่มีมาตรฐาน ซึ่งไทยเองยังมีจำนวนน้อย ที่ทำการขนส่งในลักษณะนี้ คุณทวีพงศ์แนะนำว่า หากทำแบบนั้นต้นทุนสูง สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการนำกระดาษหนังสือพิมพ์ห่อต้นไม้ เพื่อให้ใบเสียหายน้อยที่สุด เพราะหากนำไปวางทับกันจำนวนมาก ทำให้เกิความเสียหายได้

          “การขนส่งอยากให้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะว่าช่วงปีใหม่นี้ใกล้มาถึง เพราะคนที่มาซื้อ เขาซื้อไปเพื่อส่งมอบต่อเป็นของขวัญ ถ้าใบเสียหาย ดอกเสียหาย คนก็ไม่อยากซื้อ ทำให้ผู้ประกอบการเองขายได้น้อยลง แทนทีจะมีกำไร อาจจะขาดทุน อย่างไม้ใบ ขอให้ห่อให้ดี เพื่อให้ใบกระทบกันน้อยลงจะดีที่สุด ถือว่าช่วยประหยัดต้นทุนได้ ของที่จำหน่ายจะได้ออกมาดีมีคุณภาพ” คุณทวีพงศ์กล่าว

 

สำหรับผู้รับ ทำอย่างไร ในกรณีดูแลรักษาได้

           คุณทวีพงศ์ อธิบายว่า สำหรับผู้รับที่ได้ดอกไม้เป็นของขวัญ อาจต้องดูแลให้มีอายุที่นานขึ้น เพื่อความคงทนสวยงาม เช่น ช่อบูเก้ ถ้ายังคงสภาพไว้เช่นนั้นดอกไม้อาจจะอยู่ได้ไม่นาน สามารถทำการยืดอายุให้คงนานด้วยการรื้อดอกไม้ออกจากช่อ จากนั้นนำไปตัดก้าน แล้วนำไปแช่น้ำ ปักลงในแจกันใหม่ ทำให้ยืดอายุของดอกไม้ชนิดนั้นได้นาน ดีกว่าให้คงสภาพอยู่ในช่อบูเก้

สำหรับไม้ประดับ ขอให้ทำการศึกษาเล็กน้อย เพราะอย่างน้อยจะได้รู้ว่าไม้ประดับชนิดนั้น ต้องการสภาพแวดล้อมอย่างไร เพราะบางอย่างสามารถปลูกไว้ในห้องได้เป็นเวลานานเป็นปี อาจจะต้องให้ได้รับแสงบ้างเล็กน้อย สิ่งที่สำคัญคือการรดน้ำ อาจจะไม่ต้องรดน้ำปล่อยครั้ง เพราะไม้ประดับอยู่ภายในห้อง ซึ่งบ้างครั้งดูแลดีเกินไปก็สามรถตายได้ เช่น รดน้ำบ่อย เหมือนไม้ประดับที่อยู่ภายนอกอาคาร ทำให้รากเน่าต้นไม้ตาย

new-10
บอนไซ

new-9

ไม้ประดับที่เหมาะสมจะอยู่ภายในอาคาร เช่น วาสนา เขียวหมื่นปี อโกนีมา ลิ้นมังกร ว่านงาช้าง ไม้ที่กล่าวมานี้ สามารถมอบให้กันเป็นของขวัญได้ เพราะมีความคงทนเมื่อนำมาตั้งประดับตกแต่งภายในห้อง ในหนึ่งสัปดาห์นำไปสัมผัสแสงแดด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะแสงจากหลอดไฟภายในอาคารไม่สามารถทดแทนแสงที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ หากไม้ประดับได้รับแสงจากหลอดไฟเพียงอย่างเดียว การสังเคราะห์แสงจะน้อยลง และไม้ประดับจะมีลำต้นยืดมากเกินไป ส่งผลต่อความสวยงาม เพราะทรงต้นสีสันอาจไม่เป็นดังสภาพเดิมเหมือนตอนที่ได้รับมา

ช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์ คุณทวีพงศ์ ได้กล่าวส่งท้ายว่า “ในฐานะที่ผมดูแลเรื่องไม้ดอกไม้ประดับ ผมมองว่าเหมาะที่จะมอบให้กันเป็นของขวัญ อาจจะดีกว่าของอย่างอื่น เพราะของอย่างนี้เป็นของธรรมชาติ และก็มีให้เลือกเยอะ มีสีสันสวยงาม ทำให้คนที่ได้รับเห็นแล้วก็สดชื่นนะครับ อาจจะไม่ใช่ของที่เก็บไว้ได้นาน แต่ถ้าเรารู้จักวิธีการดูแล คนที่รับไปเขาดูแลเป็น ทำให้เกิดการเรียนรู้ตามมา ของอย่างอื่นอาจจะวางไว้เฉยๆ แต่ไม้ดอกไม้ประดับนี่ ทำให้เกิดการศึกษาเรียนรู้ ธรรมชาติต่างๆของมัน เพื่อให้อยู่ได้นาน ที่สำคัญช่วยดูดสาร ทำให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น เพราะต้นไม้ช่วยดูดสายพิษบางตัวได้อีกด้วย”

“สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง ประเทศเราเป็นแหล่งที่ผลิตไม้ดอกไม้ประดับแหล่งใหญ่ สายพันธุ์เองก็มีหลากหลาย โดยประเทศรอบๆบ้านเรานี่ ก็มารอพันธุ์ใหม่ๆจากประเทศเรา เพราะประเทศเรามีการสะสมแหล่งพันธุ์เยอะ ทั้งกล้วยไม้ และไม้ใบต่างๆ เราก็มีการพัฒนาพันธุ์ โดยหาจากแหล่งต่างๆทั่วโลก นำมาเก็บไว้ที่ประเทศเรา เพื่อทำพ่อแม่พันธุ์ ดังนั้นการนำไม้ดอกไม้ประดับมาใช้นี่ นอกจากใช้ในแง่ความสวยงามแล้ว ยังช่วยการส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกร คือ ขอให้ใช้ไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกในบ้านเรา มันจะช่วยส่งผลกับเศรษฐกิจของประเทศด้วย” คุณทวีพงศ์กล่าวพร้อมนึกถึงประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมา บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

มีข้อสงสัย หรืออยากได้รับคำแนะนำเพิ่มเติม สอบถามได้ที่กลุ่มส่งเสริมไม้ดอกและไม้ประดับ สำนักส่งเสริมการเกษตร และจัดการสินค้าเกาตรกรมส่งเสริมการเกษตร โทร.(02) 940-6104