ว่านขันหมากป่า ผลไม้มหัศจรรย์ ยอดยาอายุวัฒนะ

ชื่ออื่นๆ พรหมตีนสูง, ขันหมากเศรษฐี

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aglaonema tenuipes Engl.

วงศ์ : ARACEAE

ว่านขันหมากป่า ในตำราฝรั่งบันทึกไว้ว่า อยู่ในจำพวก Aglaonema เช่นเดียวกับ เขียวหมื่นปี กวักทองคำ กวักใบลาย กวักมรกต ฯลฯ ที่เป็นไม้ประดับทั่วไปตามท้องตลาด แต่คงไม่มีว่านชนิดไหน หรือต้นไม้อะไรที่จะมีช่วงระยะเวลาการสุกของผลนานเท่ากับว่านขันหมากป่านี้อีกแล้ว โดยปกติผู้เขียนเองก็เป็นคนดื้อ ไม่ค่อยยอมเชื่ออะไรง่ายๆ จากการที่เคยอ่าน เคยศึกษาค้นคว้ามาบ้าง ถ้านับจากเมล็ดเริ่มงอกจนถึงต้นสมบูรณ์พอที่จะให้ลูกติดผลได้ก็ปาเข้าไป 6-7 ปีโน่น

ด้วยเหตุและผลประมาณนี้เอง จากการที่ว่านขันหมากป่ามีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้ามากๆ จึงพอจะเป็นสมมุติฐานได้ว่า เมื่อตัวว่านขันหมากป่าเองยังแก่ช้า ก็ย่อมมีสรรพคุณชะลออายุ ชะลอความเหี่ยวชราได้เป็นอย่างดี มีส่วนจริงนะ ขนาดมะพร้าวต้นสูงๆ ผลโตกว่าว่านขันหมากป่าตั้งหลายเท่ากว่าจะแก่ยังใช้เวลาแค่ปีเดียวเอง แล้วเจ้าว่านนี่ผลเล็กนิดเดียวเท่าปลายก้อย ทำไมมันจึงได้สุกยากสุกเย็นพรรค์นี้ก็ไม่ทราบ ด้วยความอยากรู้ อยากพิสูจน์ จึงได้ขุดลงมาจากยอดเขาสองต้น ติดลูกเขียวๆ มาด้วยสองช่อ เอามาปลูกไว้ที่บ้าน เฝ้าคอยสังเกต กาปฏิทินไว้ทุกเช้า ปรากฏว่ากว่าลูกว่านขันหมากป่าจะสุกกลายเป็นสีส้มแดงทั้งช่อ ปาเข้าไปปีกว่า เฉียดๆ สองปีจริงๆ ของเขาด้วย

สรุปได้ว่า คนโบราณไม่ได้มั่วนิ่มนะ เขาคงมีการลองผิดลองถูกกันมานาน จึงได้เขียนจดบันทึกไว้ ตามตำราสมุนไพรเขาว่า ว่านชนิดนี้เป็นว่านอาถรรพ์ ใครได้รับประทานผลว่านขันหมากป่าเป็นประจำ จะทำให้ดูอ่อนกว่าวัย ฟันฟางไม่โยก ผมดกดำ ไม่หงอก สุขภาพแข็งแรง เดินเหินแคล่วคล่องไปหมด ผู้เขียนเคยคุยกับพระธุดงค์บางรูปท่านก็รู้ เวลาเดินในป่าท่านก็เก็บมาปรุงยาฉันได้เหมือนกัน ท่านเล่าว่าอาจารย์ของท่าน (ขอสงวนนาม) อายุเฉียดร้อยปียังดูไม่แก่ก็เพราะฉันลูกว่านนี้ดองน้ำผึ้ง

ผู้เขียนก็เลยเอาตัวเองเข้าทดลองดูบ้าง ผลที่ได้ก็อย่างที่เห็นแหละครับ หลักห้าเลยดอนเมืองไปแล้ว ยังมีคนทักว่ายังไม่ถึงหลักสี่อยู่บ่อยๆ ไป แต่ที่แน่ๆ หลังจากรับประทานลูกว่านที่ตัวเองหามาได้โดยการแช่น้ำผึ้งทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน เพื่อฆ่าฤทธิ์ยางว่านหมดแล้ว รับประทานก่อนนอน วันละ 2 ผล บอกได้เลยว่ารู้สึกดีมาก โรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ จามบ่อย คัดจมูก น้ำมูกไหลที่เคยเป็นบ่อยๆ หายไปเลยอย่างกะปลิดทิ้งครับ เลยต้องรับประทานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้แหละ แต่กว่าจะขึ้นไปเอาผลเขามาได้ก็ลำบากเลือดตาแทบกระเด็น เจ้าว่านนี้ไม่ใช่ว่าจะไปหาแล้วได้เจอได้พบเขาง่ายๆ หรอกนะ พวกขึ้นไปอยู่ตามภูเขาหินปูนสูงๆ ที่ชื้นมากๆ แดดส่องไม่ค่อยจะถึง แถมยังต้องผ่านดงตำแยไปตลอดทางกว่าจะถึงถิ่นของเขาจริงๆ ปีที่แล้วขึ้นไปก็ได้มานิดหน่อย เพราะโดนน้ำป่าพัดหายไปแทบทั้งลานที่เคยไปเก็บ น่าเสียดายมาก

ปัจจุบันมีคนตื่นตัว สนใจในเรื่องของสรรพคุณจากลูกว่านขันหมากป่ากันมากมาย เชื่อว่าชะลอความแก่ชรา ยับยั้งความเสื่อมของเซลล์ แก้ภูมิแพ้ หอบหืด เส้นเอ็นตึง ฯลฯ ป้องกันโรคสารพัด รวมไปถึงโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วย อันนี้สำคัญเลย หันมามองกันใหญ่เชียว เชื่อกันว่าในลูกว่านชนิดนี้ยังมีเอนไซม์หลายตัวที่สำคัญๆและจำเป็นกับร่างกายมนุษย์ด้วย คอยซ่อมแซมอวัยวะหรือเซลล์ที่สึกหรอ ช่วยการสร้างเม็ดโลหิต บำรุงน้ำดี รักษาไต ช่วยเรื่องสายตา ลดอาการเบาหวาน สกัดไขมันส่วนเกิน ฯลฯ เยอะแยะไปหมด

นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งก็แล้วกันนะครับ เท่าที่เห็นเขาเอามาบดเป็นผงบรรจุแคปซูลสำเร็จรูปขายกันก็เยอะแยะมากมายหลายยี่ห้อ ใครอยากลองก็หาที่น่าเชื่อถือได้หน่อยละกัน โปรดใช้วิจารณญาณกันเอาเองด้วยนะครับ แต่ผมยืนยันว่ารับประทานแล้วดีครับ ไม่รักกันจริงไม่บอกนะเนี่ย

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560