| เผยแพร่ |
|---|
“งาขี้ม้อน” อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูของใครหลายต่อหลายคนมากนัก เมื่อกล่าวถึงงาขี้ม้อน หลายคนก็อาจนึกภาพไม่ออกว่างาขี้ม้อนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร มีเม็ดเล็กและมีรูปร่างคล้ายกับงาแบบทั่วไปที่เรารู้จักหรือไม่ แล้วงาขี้ม้อนมาจากพืชชนิดไหน สามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านชวนมาทำความรู้จักกับงาขี้ม้อน เจ้างาเม็ดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสรรพคุณและการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายกัน
งาขี้ม้อน หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Perillafrutescens (L.) Britton อยู่ในวงศ์กะเพรา Labiatae (Lamiaceae) เป็นพืชล้มลุกและถือเป็นพืชน้ำมันที่มีถิ่นกำเนิดในทางภาคเหนือ โดยงาขี้ม้อนนี่จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ออกดอกในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน มีใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่ มีขอบหยักฟันเลื่อย ออกดอกเป็นช่อ มีขนปกคลุม และออกผลรูปทรงกลม สีน้ำตาลขนาด 2 มิลลิเมตร ซึ่งเจ้าผลของาขี้ม้อนนี้เองที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ โดยงาขี้ม้อนนั้นจะติดผลในช่วงฤดูหนาวในเดือนธันวาคมและมกราคม
การใช้ประโยชน์งาขี้ม้อน
ในพื้นที่ถิ่นกำเนิดอย่างภาคเหนือ จะนิยมนำงาขี้ม้อนไปคั่วในกระทะให้หอมแล้วนำไปตำเข้ากับข้าวเหนียว และนำไปปรุงรสด้วยเกลือ ก็จะได้เมนูของกินเล่นอย่าง “ข้าวปุกงา” ของว่างแสนอร่อยจากวัตถุดิบท้องถิ่นของภาคเหนือ หรือในบางพื้นที่ก็นิยมนำไปตำกับน้ำอ้อนเพื่อกินคู่กับข้าวเหนียว หรือทำเป็นเมนู “ข้าวเหนียวยัดไส้งาตำน้ำอ้อย” ก็ได้รสอร่อยไม่แพ้กัน
และนอกจากจะนำไปประกอบอาหารแล้วนั้น งาขี้ม้อนยังนิยมนำไปแปรรูปเป็น “น้ำมันงาขี้ม้อน” และอาหารเสริมชนิดแคปซูล เนื่องจากงาขี้ม้อนนั้นมีสรรพคุณที่เป็นได้ทั้งยาและอาหาร จึงทำให้งาขี้ม้อนถูกนำไปแปรรูปและนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ มากมาย
ประโยชน์ของงาขี้ม้อน
งาขี้ม้อน ถือได้ว่าเป็นธัญพืชที่สามารถสกัดกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ที่ใกล้เคียงกับปลาทะเล ซึ่งมีคุณประโยชน์ ดังนี้
- ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและความจำ
- มีประโยชน์ต่อระบบประสาท ป้องกันโรคความจำเสื่อม
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล เนื่องในงาขี้ม้อนนั้นมีกรดไขมันอิ่มตัวน้อยกว่ากรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันจากพืชชนิดอื่นๆ จึงทำให้การบริโภคงาขี้ม้อนนั้นไม่เป็นการเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดอัตรการเสี่ยงเกิดเส้นเลือดอุดตันและการเกิดโรคหัวใจ
- มีแคลเซียมสูงสามารถป้องกันโรคกระดูกพรุน ซึ่งในการนำงาขี้ม้อนมาประกอบอาหาร หากบดงาขี้ม้อนให้ละเอียดก็จะทำให้ร่างกายดูดซับแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น
- มีประโยชน์อย่างมากต่อการซ่อมแซมกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- เต็มไปด้วยวิตามินบี ซึ่งช่วยในการทำงานของสมองและลดอาการไมเกรน
- สามารถป้องกันอาการเหน็บชาและปากนกกระจอก
- มีสารเซซามอลที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและชะลอความแก่ชรา
จะเห็นได้ว่าแม้ว่างาขี้ม้อนจะมีขนาดเล็ก แต่กลับเปี่ยมไปด้วยประโยชน์และสรรพคุณนานาประการ จึงทำให้ในปัจจุบันงาขี้ม้อนเป็นธัญพืชที่เป็นที่นิยมและทั้งการซื้อขายและการเพาะปลูก และอาจกล่าวได้ว่างาขี้ม้อนนี้อาจกลายเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.matichonweekly.com/column/article_176558#google_vignette
https://www.thaiheartfound.org/Article/Detail/140153
https://www.hrdi.or.th/Articles/Detail/9
