เผยแพร่ |
---|
เคยสังเกตไหมว่าผลไม้ที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าส่วนใหญ่มักจะมีสติกเกอร์แปะอยู่ ซึ่งสติกเกอร์เหล่านั้นไม่ได้มีไว้แค่บอกราคา หรือตกแต่งผลไม้ให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีตัวเลขสำคัญที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปลูกและการผลิตผลไม้นั้นๆ ด้วย! วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจะพามาไขความลับว่าตัวเลขเหล่านี้บอกอะไรบ้าง

“สติกเกอร์ที่มีตัวเลขบนผลไม้” ซึ่งเราจะเห็นบนแอปเปิ้ล กล้วย ส้ม ฯลฯ ที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้น เรียกว่า Price Look-Up (PLU) numbering codes หรือ รหัสเลข PLU สำหรับดูราคา สินค้าทางการเกษตรที่เป็นของสด ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิต
กำหนดตัวเลขโดยหน่วยงาน the International Federation for Produce Standards (IFPS) ที่คอยดูแลรายการรหัสตัวเลข 5 ตำแหน่ง (ที่บางที เห็นเป็น 4 ตำแหน่งนั้น ก็เพราะว่ามันมีเลขศูนย์ นำหน้า) ซึ่งใช้ระบุคุณลักษณะของสินค้า ตั้งแต่สายพันธุ์ ชนิด ขนาด พื้นที่เพาะปลูก และวิธีการเพาะปลูก (เช่น เป็นเกษตรอินทรีย์)
ตัวเลขนี้ได้เริ่มนำมาใช้ในห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ ตั้งแต่ยุค ค.ศ.1990 เพื่อให้สามารถตรวจสอบและจัดจำแนกสินค้าทางการเกษตร ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้น จะได้ให้แคชเชียร์คิดเงินลูกค้าได้อย่างสะดวกและถูกต้อง
เปิดความหมาย “ตัวเลขบนสติกเกอร์ผลไม้” บอกอะไร
- ตัวเลข 4 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 3 หรือ 4 หมายถึง ผลไม้ที่ปลูกด้วยวิธีการปกติ มีการใส่ปุ๋ย ใช้ยาฆ่าแมลงตามวิธีการดูแลรักษาผลผลิตทั่วๆ ไป ตัวอย่างเช่น รหัส 4011 เป็นรหัสของกล้วยที่ปลูกแบบทั่วไป
- ตัวเลข 5 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 9 หมายถึง ผลไม้ออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ในการปลูก จึงปลอดภัยแต่ผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น รหัส 94011 เป็นรหัสของกล้วยที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์
- ตัวเลข 5 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 8 หมายถึง ผลไม้ที่ปลูกด้วยวิธีการดัดแปลงทางพันธุกรรม หรือที่เรียกว่า GMO (Genetically Modified Organism) ซึ่งถูกดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อให้ทนทานต่อศัตรูพืชหรือให้ผลผลิตสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น รหัส 84011 หมายถึงกล้วยที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม (ปัจจุบันการใช้รหัสนี้ไม่แพร่หลายมากนัก)

รหัส PLU เป็นเพียงตัวเลือกที่แนะนำให้ใช้เท่านั้น ผู้ผลิตอาจเลือกที่จะไม่ติดหรือไม่ใช้ก็ได้ เพราะรหัสนี้เป็นแค่เครื่องมือช่วยผู้ขายในการจัดหมวดหมู่และคำนวณราคาสินค้า ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์รับรองคุณภาพหรือมาตรฐานของสินค้า
ด้าน “เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า “เลขฉลาก PLU บนผลไม้นำเข้า ไม่ค่อยบอกอะไร สำหรับผู้บริโภค หรอกครับ”
เพราะแท้จริงแล้วมันมีไว้สำหรับทางเกษตรกรและห้างร้าน ในการจำแนกแยกผลิตภัณฑ์ผักผลไม้ เพื่อการขนส่งและจัดจำหน่าย แค่นั้นเอง ไม่ได้เอาไว้บอกว่า ผลไหนมียาฆ่าแมลงตกค้าง หรือผลไหนปลอดภัยในการบริโภค
ประโยชน์ของการรู้จักรหัส PLU
การรู้ความหมายของรหัส PLU จะช่วยให้คุณเลือกซื้อผลไม้ที่เหมาะกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของคุณได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าคุณอยากเลี่ยงสารเคมี คุณก็สามารถเลือกผลไม้ที่มีรหัสเริ่มต้นด้วยเลข 9 ซึ่งเป็นผลไม้ออร์แกนิก หรือหากต้องการเลี่ยงผลไม้ดัดแปลงพันธุกรรม ก็ควรเลี่ยงรหัสที่เริ่มด้วยเลข 8
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสติกเกอร์ผลไม้
- สติกเกอร์เหล่านี้ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกาวที่ใช้ติดสติกเกอร์ก็ปลอดภัยต่อการบริโภค แม้ว่าคุณจะเผลอทานเข้าไปเล็กน้อย แต่ก็ควรลอกสติกเกอร์ออกก่อนกินเพื่อความสะอาด
- แม้ผลไม้บางชนิดอาจไม่มีรหัส PLU แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผลไม้นั้นมีคุณภาพต่ำหรือไม่มีข้อมูล แต่เป็นไปได้ว่ามาจากแหล่งที่ไม่ใช้รหัสมาตรฐานสากล
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9400334 , Kapook.com