| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน |
| เผยแพร่ |
ระหว่างที่ “ตูน บอดี้สแลม”-ก้าวคนละก้าว ผ่านกรุงเทพมหานครไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือน วันนี้เริ่มเข้าไปใกล้หลักชัย “แม่สาย” เชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ได้รับบริจาคใกล้หลัก 700 ล้านบาท มีเงินบริจาคของคิง เพาเวอร์ถึง 100 ล้านบาท ขออนุโมทนา
ทุกย่างก้าวของ “ตูน” หมายถึงเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผ่านจากมือคนไทยสู่มือ “ตูน” ไปสู่มือหมอพยาบาล และที่สุดไปสู่คนไทยที่เจ็บป่วยในโรงพยาบาลให้ได้รับการรักษาจากเครื่องมือแพทย์ตามที่ “ตูน” อาทิวราห์ คงมาลัย “บอดี้สแลม’ ตั้งเป้าหมายไว้ มี รัชวิน “ก้อย” วงศ์วิริยะ แฟนสาว วิ่งเป็นกำลังใจตลอดเส้นทาง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา “ตูน” พูดถึงผู้ที่เสียสละกว่าเขา คือแพทย์และพยาบาล ไม่ใช่ตัวเขาเอง ทั้งยังยืนยันว่า การออกกำลังกายคือการสร้างสุขภาพให้ตัวเองแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
เรื่องของโรงพยาบาลที่มีไม่เพียงพอ ทั้งตัวโรงพยาบาล เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ทุกประเภท ขาดแคลนด้วยเหตุหลายประการ
โรงพยาบาลทุกแห่งโดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ ตั้งแต่สถานีอนามัย โรงพยาบาลตำบล อำเภอ ถึงจังหวัด และศูนย์พยาบาลขนาดใหญ่ที่เป็นสถาบันทางการแพทย์เฉพาะทางมีความจำเป็นต้องจัดตั้งขึ้นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของประชาชนที่ต้องเผชิญกับโรคที่ร้ายแรง และต้องเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนรับการรักษา ระหว่างการรักษา โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ไม่เพียงพอทำให้คนไข้ต้องเสียชีวิตไปก่อนรับการรักษา
นับแต่แรกเกิด
จำนวนทารกแรกคลอดต้องเสียชีวิตก่อนเกิด เสียชีวิตเมื่อแรกเกิด และเสียชีวิตตั้งแต่เป็นทารกและเติบโตจากเด็กด้วยโรคภัยไข้เจ็บ เป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลไปก่อนกำหนดอย่างน่าเสียดาย
นอกจากการบริจาคผ่าน “ตูน บอดี้สแลม” ยังมีสถานที่ซึ่งเราบริจาคให้เป็นประจำคือ โรงพยาบาล ทั้งขนาดใหญ่ เช่น ศิริราชพยาบาล รามาธิบดี วชิรพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และอีกหลายโรงพยาบาลทั้งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างศูนย์หรือสถาบันการแพทย์ขนาดใหญ่ และรับบริจาคเงินเพื่อหาซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ อีกแห่งหนึ่งที่รับบริจาคสม่ำเสมอคือสภากาชาดไทย
การบริจาคไม่แต่เพียงเงินเท่านั้น ยังบริจาคโลหิตผ่านสภากาชาดไทย และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง การรับบริจาคโลหิตทำได้ตลอดเวลา เนื่องจากความต้องการโลหิตเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกวันนี้ยังสามารถนำเกล็ดเลือดเก็บไว้มาแปรสภาพเป็นโลหิตให้กับคนไข้ที่ต้องการได้
นอกจากนั้น ที่สภากาชาดไทยยังรับบริจาคข้าวของเครื่องใช้ “มือสอง” ผ่านห้อง “ได้บุญ” จุดนัดหมายของคนใจดี แหล่งช้อปปิ้งของคนใจบุญ
นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์นำเสนอเรื่องนี้ไว้ในสองสามฉบับแล้ว คุณจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เล่าว่า
ห้อง “ได้บุญ” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 ชื่อห้อง “ได้บุญ” หมายถึงคนที่บริจาคก็ได้บุญ และคนมาเลือกซื้อสินค้าก็ได้บุญไปด้วย สินค้าที่มาจำหน่ายมีทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ สิ่งของบริจาคจากดารา ของตกแต่งบ้าน ของใช้จิปาถะ งานศิลปะ อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องอุปโภค ล้วนเป็นสินค้ามีคุณภาพครบ 3 ส. คือสภาพดีพร้อมใช้งาน สะอาดก่อนส่งต่อความสุขแก่ผู้ซื้อ และสมประกอบในสภาพที่สมบูรณ์ใช้งานต่อได้ทันที
ราคาถูก ชิ้นหนึ่งประมาณ 10-20 บาทเท่านั้น เวลาผ่านมา 23 ปี มีรายได้กว่า 50 ล้านบาทแล้ว
ใกล้ปีใหม่ ผู้ที่ต้องการบริจาคข้าวของหรือที่ต้องการของขวัญของฝาก เชิญที่ตึกอำนวยนรธรรม สภากาชาดไทย เปิดวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 09.00-17.30 น. รับรองไม่ผิดหวัง
อนึ่ง วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม สมาคมผู้ปกครองและครูบดินทรเดชา ร่วมกับโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เชิญเที่ยว “งานวัดบดินทรเดชา เฮฮา สุขสันต์ วันปีใหม่” ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป
งานนี้พบกับกวาง AB NORMAL เปาวลี พรวิมล จำอวดหน้าม่าน วงบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป ศิษย์เก่าบดินทรเดชา ปูเสื่อจับจองได้ที่ 0-2514-1403, 0-2538-2573
