สนุกคลุกในสวน ชวนเด็กเก็บดอกไม้มาทำกิน

สนุกคลุกสวน คนบ้านนอกแค่เห็นหัวข้อนี้ก็ยิ้มออก หรือไม่ใช่คนบ้านนอกก็เถอะ คุณว่าไหม…

ฉันไปงานสนุกคลุกในสวนมา เรียกว่ากิจกรรมทำมือก็ได้ค่ะ เพราะสร้างด้วยสองมือแบบธรรมชาติๆ ไม่ได้สร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่

ฉันไม่ได้ไปร่วมงานเฉยๆ ครั้งนี้ไปเพื่อทำกิจกรรมกับเด็กๆ โดยชวนเด็กไปเก็บผักที่เจ้าของบ้านปลูกไว้แล้วเอามาทำกินกัน

ฝนตกทุกวัน ฉันจึงไม่ได้ไปสำรวจว่ามีอะไรที่เก็บมาทำกินได้บ้าง เจ้าของสวนซึ่งเป็นสวนในบ้าน ไม่ใช่สวนจริงจัง  ทำแบบปลูกผักริมรั้วนั่นแหละ บอกว่า มีอัญชัน มีมะรุม มีผักหวานบ้าน มีตำลึง หน่อไม้ ชะอม พริกขี้หนู เป็นต้น

คุยกันไปพลางๆ รอเปลี่ยนตา
คุยกันไปพลางๆ รอเปลี่ยนตา

“มีเด็กที่เป็นผู้ช่วยอยู่ห้าคน ที่จะไปเก็บผักกับพี่มาทำกิน พี่ต้องการให้เตรียมอะไรบ้าง”

“ตระกร้าเก็บผัก ผ้ากันเปื้อนแบบสวยๆ เครื่องครัว พวกหม้อ กระทะ มีด เขียง ไข่ น้ำมัน ซีอิ๊วขาว หัวหอมแดง กระเทียม”

“แค่นี้เองหรือพี่”

“แค่นี้แหละ”

“พวกผักอาจจะไม่พอ เราต้องเตรียมมาบ้าง”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่จัดการเอง สนุกคลุกในสวนก็ต้องเอาของในสวนซิ”

แล้วก็ถึงวันคลุกในสวนจริง ที่นี่เขาสร้างสวนสนุกให้เด็กได้เล่นบนดิน คือ คลุกดินกันจริงๆ ทำสะพานโค้ง โดยเอาบ่อซีเมนต์มาวางแล้วเอาดินกลบให้เด็กลื่นลงมา เป็นสะพานดินโค้ง มีมุมจำลองให้เด็กเล่นขายของแบบหม้อข้าวหม้อแกงเลียง มี กระทะ ตะหลิว หม้อ ถ้วย จานเล็กๆ วางอยู่ เหมือนสมัยป้ายังเด็ก

“เด็กๆ ที่ไหนมันจาเล่น” เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้น

แต่เมื่อเด็กๆ มา พวกเขาก็ตรงไปที่สะพานดินโค้ง และก็เริ่มขึ้นไปเล่นลื่นไหลลงมา บางคนก็วิ่งไล่จับ

3

เด็กหญิงตาน้ำข้าววัยเจ็ดขวบ ลูกสาวเพื่อนรุ่นน้องที่ฉันชวนไปด้วย โดยบอกเธอว่า ไปเป็นผู้ช่วยป้าทำกับข้าว เธอใส่กระโปรงฟูฟ่องสีชมพูอ่อน ผ้ากันเปื้อนเป็นของตัวเอง เธอหยุดยืนดูอยู่พักหนึ่งและบอกว่า พาหนูเข้าไปหน่อย ฉันบอกเธอว่า เข้าไปเลย เธอถอดกระโปรงฟูออก ใส่กางเกงขาสั้นสีเหลืองลงไปเล่นกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน

เห็นได้เลยว่า คำกล่าวที่ว่า เด็กๆ ไม่เล่นหรอก หรือว่าพวกเขาเล่นแต่เกม ติดออนไลน์ ซึ่งความจริงแล้วเราไม่ได้ให้ทางเลือกแก่เขาหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มีเด็กอยู่กับหน้าจอมือถือเลย เป็นการเอาเด็กออกจากหน้าจอได้เป็นอย่างดีเลย

ยืนมองเด็กเล่นอยู่พักหนึ่ง เจ้าของสถานที่ผู้ร่วมกันจัดงานมาบอกว่า เด็กๆ พร้อมแล้วที่จะไปเก็บผักมาทำกิน ฝนตก มีร่ม มีหมวก เดินไปท่ามกลางสายฝนพรำ ถามเด็กๆ ว่า พร้อมที่จะเดินกลางฝนไหม ทุกคนพร้อม

7

“ฝนตกก็ดีนะ ช่วยให้ต้นไม้โตเร็ว”

บรรยากาศเหมาะมาก เด็กๆ เดินตากฝนเก็บผัก ไม่มีใครบ่นกลัวเปียก กลัวลื่นล้มหรืออะไรเลย พวกเขาถามว่า เก็บขนาดไหน ใบแก่ ใบอ่อน และต่างช่วยกันดูว่ามีอะไรบ้าง เจอเห็ด สรุปกันว่าไม่น่าวางใจเอาไปกิน

มีบางคนบ่นว่า เหม็นเขียวผัก

“ผักบางอย่างจะมีกลิ่นเมื่อยังไม่สุก พอต้ม แกง ผัด กลิ่นที่ว่าก็จะหายไป แต่ผักบางอย่างกินสดก็ได้เลย เช่น ผักบุ้ง”

เด็กๆ ช่วยกันเก็บผักบุ้ง

“ตรงโน้นมีอัญชันเยอะมาก” เด็กหญิงเตหน่า ซึ่งคุ้นเคยกับที่นี่บอก

“งั้นเราไปเก็บกันเถอะ”

6

นอกจากมีอัญชันแล้ว ยังมีผักหวานบ้าน พริกขี้หนู ออมแซบ

เปียกปอนแต่สนุกสนาน เดินเก็บผักไปรอบๆ บอกเด็กๆ ว่า ได้มากพอแล้วเรากลับกันเถอะ วนรอบพอดี แรกๆ คิดว่าไม่มีผัก พอเก็บเข้าจริงๆ ได้เยอะเลย

ยึดขั้นบันไดหลบฝนแล้วก็เด็ดผัก เอาแต่ใบอ่อนและยอด ก้านกับใบแก่ปลิดทิ้งไป ส่วนดอกไม้ที่ได้มาคือ พวงชมพู  อัญชัน ปลิดก้านขั้วเอาแต่ดอก ส่วนชบาก็เอาเกสรออกด้วย เพราะมันจะขม เด็กๆ ช่วยกันเตรียมผัก

“มาดูว่าเราได้อะไรกันมาบ้าง และเราจะทำอะไรกินกัน”

เรามีพริกขี้หนู ทำอะไรดี

“ทำน้ำพริก”

ใช่แล้วทำน้ำพริก เพราะเรามีผักกินกับน้ำพริก

4

เรามีดอกไม้ เราทำไข่เจียวดอกไม้ดีไหม และเราก็ทำแกงเลียงผัก

คราวนี้เรามาดูกันว่าผักอะไรแกงเลียงได้บ้าง

เด็กๆ ช่วยกันตอบ ออมแซบ ตำลึง ยอดและดอกมะรุม ผักหวานบ้าน ยอดผักเสี้ยว เห็ดฟาง บวบ ผักโขม

เริ่มที่ไข่เจียวกันก่อน เพราะเด็กๆ อยากทำไข่เจียวมาก พวกเขาเอาถ้วยมาคนละใบ ตีไข่คนละสองฟอง ป้าซอยเห็ดฟางเอาไว้ให้แล้ว ใส่เห็ดฟางลงไปหน่อยหนึ่ง ตามด้วยพวงชมพู ชบา ตีไข่รอน้ำมันเดือด แก๊สกระป๋องช้ามากๆ

ถามฝ่ายจัดการว่ามีเตาอย่างอื่นไหม เขาตอบว่าเตาถ่าน

“เอามาเลย ก่อไฟเตาถ่านเลย”

ไม่นานเราก็ได้เตาถ่านที่ไฟลุกร้อนแรงสมใจ แบบดั้งเดิมกันเลยทีเดียว เด็กๆ เตรียมไข่ของตัวเองพร้อมเข้าแถวเพื่อทอดไข่ ใส่ดอกไม้ตามที่ต้องการ ใส่ซีอิ๊วขาวเอาเอง ใครอยากได้รสจืด รสเค็ม ตามสบาย มีพ่อแม่พี่ป้าน้าอาคอยลุ้น ที่ตัวเล็กมากๆ ก็ต้องช่วยพลิกกลับให้ ต่างได้ไข่เจียวเป็นของตัวเอง และเอาดอกไม้ตกแต่งเพิ่มข้างบน เพราะดอกไม้ทั้งหมดในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นอัญชัน พวงชมพู ชบา เข็ม กินสดได้

1

แม่บางคนบอกว่า ไม่คิดว่าลูกเขาจะกินผักได้ กินไข่เจียวดอกไม้จนหมด กินแกงเลียง และยังทดลองเอาพักจิ้มน้ำพริกโจรอีก วันนี้ทำน้ำพริกโจรแบบเผ็ดน้อย คือ ใส่กุ้งเยอะๆ หัวหอมแดงซอยเยอะหน่อย น้ำตาล มะนาว กะปิพร้อม แต่ใส่พริกขี้หนูซอยนิดเดียว น้ำพริกโจรไม่ต้องตำ เด็กๆ ทำได้ เพราะทุกอย่างซอยๆ แล้วเอาไปคลุก เด็กโตชอบ เด็กเล็กคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ฉันว่าเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมความมั่นใจซึ่งเริ่มที่ไหนก็ได้ อย่างเช่น เริ่มที่การทำไข่เจียว และการกินไข่เจียวของตัวเอง การได้รับคำชม และการทำอาหารเป็นการแบ่งปันอย่างหนึ่ง เพราะเราไม่ได้กินคนเดียวตลอดไปแน่นอน

แม่คนหนึ่งได้กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ทำให้ตระหนักได้ว่า ความสนุกของเด็กๆ ไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งของมีราคาแพง เราต้องการเพียงพื้นที่ธรรมชาติ มีลานทรายให้เล่น มีท้องทุ่งให้สำรวจสิ่งมีชีวิตต่างๆ เราสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้จากสิ่งของรอบตัว ทั้งการพับกระดาษให้แปลงกายเป็นรูปร่างต่างๆ การทำอาหารจากดอกไม้และผักในบ้าน การทำโรงละครจากกล่องรองเท้าที่ไม่ใช้แล้ว การทำภาพพิมพ์สีจากดอกไม้ ฯลฯ เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้สนุก ได้ใกล้ชิดกัน และได้เพลิดเพลินร่วมกัน กิจกรรมดีๆ แบบนี้เป็นแรงบันดาลให้เราช่วยกันสร้างชุมชนเล็กๆ ของตัวเองขึ้นมาได้ง่ายๆ และแบ่งปันความสุขออกไปให้แผ่ขยาย