เกษตรกรอเมริกา ชีวิตนี้ไม่มีแค่ลมลวง

บ้านฉันที่อเมริกา อยู่ที่เมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน อยู่ในภาคที่เขาเรียกกันว่า mid-west หรือตอนกลางของภาคตะวันตก แต่เวลาคุยกับใคร ฉันจะบอกง่ายๆ ว่า มันอยู่ตอนบนๆ ของแผนที่อเมริกา อยู่ไปทางใกล้ประเทศแคนาดา แบบนี้จะเห็นภาพง่ายกว่าสำหรับคนไม่เคยไป

วิสคอนซิน เป็นรัฐเกษตรกรรม ด้วยว่าดินดี น้ำดี มีทะเลสาบมากมายเก็บกักน้ำไว้ให้ใช้ เขาเรียกว่าเป็นรัฐแห่งสี่หมื่นทะเลสาบ ตัวเลขชัดเจนจะเท่าไรนั้น ไม่รู้แน่ ฉันก็แย่ไม่รู้จักถามไถ่ให้ถ่องแท้ แต่ก็คงประมาณว่ามันมีมากมายเหลือคณา ซึ่งอันนี้ฉันยืนยัน

เอาแค่บ้านที่ฉันอยู่ ก็มีทะเลสาบประกบหน้าหลัง ที่มหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ออกไปไม่ไกลก็มีทะเลสาบเป็นของตนเอง ให้นักศึกษาได้ใช้แล่นเรือ แข่งเรือ ตกปลา และนั่งทอดหุ่ยอย่างมีความสุข

วิสคอนซิน เป็นรัฐเกษตรกรรม เพื่อนฉันล้อว่าเป็นรัฐวัวรัฐควาย คือมีแต่วัว (หามีควายไม่ อันนี้เพื่อนเว่อร์) แต่ชื่อเล่นอย่างเป็นทางการของวิสคอนซิน คือ Dairy State หรือรัฐนมรัฐเนย คือเขาเลี้ยงวัวมาก ทั้งวัวเนื้อ วัวนม ดังนั้น เขาจึงเป็นรัฐที่ผลิตน้ำนม และเนื้อวัวมาก

ประสาบ้านนอกคอกตื้อ ประสารัฐเกษตรกรรม วิสคอนซินก็จะถูกล้อมากมายหลายฉายาหน่อย อีกเรื่องที่ถูกล้อมากคือ เขาว่า วิสคอนซิน มีวัวมากกว่าคน อันนี้ก็ไม่จริงหรอก เว่อร์ไป แต่วัวมีมากไหมอันนี้ก็จริง

ส่วนที่เขาล้อนิวซีแลนด์มีแกะมากกว่าคนนั่น มีคนยืนยันว่าจริงนะ เขายืนยันกันมา ฉันไม่เกี่ยว

พอมีนมมีเนยมาก มีเนื้อวัวสดๆ ใหม่ๆ คุณภาพดีมาก คนวิสคอนซิน ก็เหมือนคนฮอกไกโดที่ญี่ปุ่น คือจะไม่ไปกินนมกินเนื้อที่อื่นอีก เพราะบ้านตัวเองนั้นมีนมมีเนื้อชั้นเลิศของโลกแล้ว

ฉันก็ติดนิสัยนั้นมาเหนียวแน่น เมื่อได้กินนมวิสคอนซิน เฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยของฉัน คือ University of Wisconsin at Madison ผลิตนมเอง ผลิตชีสเอง มีเนื้อสเต๊กขายเอง มีไอศกรีมเป็นของตนเอง มากมาย อร่อย และถูก ฉันกินจนชินแล้วฉันก็ไม่คิดจะไปกินของพวกนี้ที่ไหนอีก

บ้านฉันอยู่ใกล้ศาลาว่าการรัฐ (เมืองหลวงของรัฐ อยู่ที่ มิลวอล์กี้ ขับรถไปอีกราว 2 ชั่วโมง แต่ศาลาว่าการดันมาอยู่แมดิสัน เข้าใจว่าเพราะเป็นเมืองมหาวิทยาลัย จะเพราะอะไรก็ตาม ฉันขอบคุณและชอบใจ)

ลานโดยรอบศาลาว่าการนี่เองที่จะมีตลาดนัด ที่เรียกกันว่า Farmers Market ทุกวันเสาร์ ไม่เคยได้ขาด จนช่วงที่หนาวจัดจนคนไม่อยากกระดิกกระเดี้ยนั่นแหละ เขาจึงจะหยุด แต่ก็หยุดอยู่ราวเดือนสองเดือน ช่วงที่หิมะตกหนักทั้งวันทั้งคืน ทับถมหนาหลายฟุต เดินทางไปไหนมาไหนลำบากเท่านั้น

พอหิมะละลายเขาก็ออกมาทำมาหากินค้าขายกันใหม่

ทุกเสาร์ฉันจะเดินตลาดอย่างมีความสุข ชิมนมชิมเนยที่เขาเอามาให้ชิมจนอิ่มหนำ แล้วซื้อผักสดๆ ผลไม้สดๆ กลับบ้าน บ้านฉันอยู่ในทำเลทองอย่างแท้จริงนะจะบอกให้ นอกจากเดินไม่กี่ก้าวถึงตลาดนัด และถึงศาลาว่าการแล้ว เดินต่ออีกนิดหนึ่งก็ถึงมหาวิทยาลัย วันไหนอากาศดีๆ ฉันจะเดินไปมหาวิทยาลัย จะนั่งรถเฉพาะช่วงที่หิมะลงหนักๆ เท่านั้น

 

เขาให้ความสำคัญกับเกษตรกรมาก ให้ใช้พื้นที่ลานรอบศาลาว่าการที่สวยงามมาก ไว้เป็นที่จัดตลาดนัด เขาไม่ได้รังเกียจอี๊อ๊ากลัวว่าจะสกปรก เพราะเขาถือว่าที่ตรงนั้นเป็นของประชาชน และพ่อค้าแม่ขายเกษตรกรของเขาก็ค้าขายกันมีระเบียบและสะอาดดี

คนม้ง ซึ่งอพยพไปจากทางตอนเหนือของลาวเมื่อ 40 ปีก่อน ไปตั้งหลักแหล่งที่วิสคอนซิน และรัฐใกล้เคียง ก็จะเอาผักที่ตัวเองปลูกมาขายเช่นกัน ผักเมืองร้อนที่เราคุ้นเคยอย่าง มะเขือเปราะ พริกขี้หนู หาซื้อได้จากคนม้งเหล่านี้

ผักสด ผลไม้สด ปลาสด เนื้อสด หมูสด ดอกไม้สด ข้าวโพดสด ขายด้วยตัวเกษตรกรเอง ทั้งสดทั้งราคาถูก เกษตรกรอเมริกาก็เหมือนเกษตรกรไทยและทั่วโลก คือเป็นมิตรและไม่คิดเอากำไรมากมาย บางทีฉันรู้สึกว่าเขากำหนดราคาขายโดยไม่ได้คิดค่าแรงตัวเอง ค่าน้ำมันขับรถมาจากฟาร์ม เพราะมันถูกมากมาย

อย่าง มะเขือเทศ นี่เขาจะขายเป็นตะกร้า ตะกร้าจะเหรียญหรือราว 30 บาท ข้าวโพดฝักละเหรียญ ชีสหอมมันถุงละ 5 เหรียญ ปลาแซลมอนรมควัน ถุงละ 5 เหรียญ เหล่านี้ฉันสามารถเก็บไว้กินได้จนวันที่มีตลาดนัดครั้งต่อไป

ค่าครองชีพที่แมดิสันจึงถูกมาก ต่ำกว่าชิคาโกที่อยู่ห่างไปราว 200 กิโลเมตรเกือบครึ่ง ต่ำกว่านิวยอร์กเป็นเท่าตัว อันนี้ฉันลองมาหมดทุกเมืองแล้วจึงยืนยัน

นอกจากให้พื้นที่รอบศาลาว่าการที่งามสง่ามาจัดตลาดนัดแล้ว ช่วงหน้าหนาวซึ่งไม่อาจค้าขายกลางแจ้งได้อีกต่อไป เพราะหิมะจะตกหนัก เขายังให้พื้นที่ในศูนย์ประชุมที่สวยเลอค่า ปูพรมทั้งอาคาร สำหรับให้เกษตรกรขนผลผลิตเข้าไปขายโดยไม่คิดค่าเช่า ฉันไม่เห็นเขารังเกียจรังงอนหวงพรมของเขาจะเปียกจะสกปรก

เพราะเอาเข้าจริงแล้ว เกษตรกรเหล่านั้นก็เป็นเจ้าของศูนย์ประชุมเลอค่านั้นเหมือนกัน

ศูนย์ประชุมเลอค่าไม่ได้มีไว้จัดการประชุมหรูหราเท่านั้น เขามีกิจกรรมให้คนของเขาตลอด แต่ละเดือนเขาจะจัดดนตรี จัดฉายหนังให้ดูฟรี ทุกเช้ามีครูมาสอนโยคะ ใครใคร่เรียนเรียน ไม่คิดเงิน ไม่มาจุกจิกจู้จี้อะไรทั้งสิ้น แถมสอนในจุดที่หันหน้าเข้าหาทะเลสาบ (หนึ่งในสี่หมื่น) เป็นจุดที่สวยที่สุด เป็นพื้นที่ที่หากจะขายก็จะขายได้แพงที่สุด

แต่เขาเอามาให้เกษตรกรขายผัก และให้คนเล่นโยคะโดยไม่เสียดาย เพราะเขารู้สึกว่าทั้งหมดเป็นของเกษตรกร และประชาชนธรรมดา ที่เป็นกระดูกสันหลัง เป็นลมหายใจของรัฐ

ไม่ใช่พูดอวยชวนปลื้ม แต่ไม่เคยชายตาแล เหมือนที่เราทำกับเกษตรกรยากจนที่เมืองไทย