เมนูแซ่บ หนุ่มกู้ภัยสุรินทร์ 10 บาท อิ่มทั้งบ้าน ‘ยำกุ้งเต้น’ ไม่หวงสูตร

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้พบกับ สมาชิกอาสากู้ภัยสุรินทร์ จุด อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ คนหนึ่ง ซึ่งกำลังจะเดินทางลงไปทุ่งนา เพื่อไปเก็บตุ้มดักกุ้งฝอย หลังได้นำไปวางดักกุ้งไว้แล้วในช่วงค่ำเมื่อวานที่ผ่านมา ใกล้กับที่ตั้งของ อาสากู้ภัย สอบถามทราบชื่อกู้ภัยนายนี้ คือ นายสุบรรณ์ คำผม สมาชิกอาสากู้ภัยสุรินทร์ อายุ 39 ปี ชาว ต.สำโรงทาบ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่าเป็นวิถีชีวิตชนบทในการหากินที่เรียบง่าย และหาดูได้ยาก รวมทั้งยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารได้เป็นอย่างดี

นายสุบรรณ์ กล่าวว่า หลังจากดักกุ้งไว้ในช่วงเย็น พอรุ่งเช้าก็ไปเก็บกับดักกุ้ง ที่ดักไว้ที่ทุ่งนาริมถนนที่มีน้ำไม่เยอะมาก ความลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร เท่านั้น หลังจากนั้น ในช่วงเช้าตนเองจึงจะลงไปยกตุ้มที่ดักกุ้งฝอยไว้นำขึ้นมา แล้วเดินกลับเข้าที่ตั้งอาสากู้ภัย พอถึงที่พัก ก็จัดการเปิดปากตุ้ม เทกุ้งฝอยที่เข้าไปติดกับดักออกมานำใส่หม้อ

วันนี้ดักกุ้งฝอยได้เยอะพอสมควร ประมาณ 1 กิโลกรัม ตุ้มที่ใช้ไปดักกุ้งฝอย มีแค่ 4 หลัง เท่านั้น เมื่อก่อนใช้ตุ้มเยอะ เป็น 10 หลัง ใส่ไปใส่มาค่อยๆ หายไปทีละอันสองอัน จนทุกวันนี้มีเหลืออยู่พียงแค่ 4 หลัง

สำหรับตุ้มที่ว่านี้ มีลักษณะไม่ใหญ่มาก ทำด้วยกรงไม้ไผ่ แล้วใช้ตาข่ายพลาสติกสีเขียวพันรอบ ส่วนช่วงปลายบนจะไว้ตาข่ายให้ยาว เพื่อไว้มัดปิด-เปิดได้ สำหรับเทกุ้งที่เข้าไปอยู่ภายในออกทางด้านบน ส่วนด้านข้างๆ ก็จะเจาะเป็นรู ใส่ด้วยปากขวดน้ำพลาสติก ที่ตัดทำไว้เป็นรูไม่ยาวมาก ประมาณนิ้วกว่าๆ และเย็บติด เพราะกุ้งจะเข้าตรงปากขวดที่ทำเป็นช่องๆ ไว้

ส่วนเหยื่อนั้นจะเป็นหัวอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาดุก นำมาผสมกับรำอ่อนๆ คลุกให้เข้ากัน แล้วทำเป็นก้อน ขนาดเท่ากับลูกมะนาว ห่อด้วยตาข่ายพลาสติกเขียวแล้วนำไปใส่ไว้ในตุ้ม แล้วนำไปวางดักไว้ตามหนองน้ำหรือลำห้วย เพื่อที่จะรอให้กุ้งเข้ามา

นายสุบรรณ์ เล่าอีกว่า อาหารที่ใช้ดักกุ้งฝอย จะใช้รำผสมกับหัวอาหารปลาดุก จะมีความหอม พอกุ้งได้กลิ่นก็จะพากันเข้ามากิน จนหาทางออกไม่ได้ และจะติดอยู่ภายในตุ้ม เวลาเราไปกู้หรือไปเก็บตุ้ม ก็จะใช้วิธียกมาทั้งตุ้ม และจะนำมาเทออกที่บ้าน แล้วก็จะนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดๆ เพื่อคัดแยกทำเมนูอาหาร

เพราะกุ้งฝอยมีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ กุ้งที่ตัวใหญ่ส่วนมากจะเอาไปทำเป็นเมนูอย่างอื่น เช่น ทำกุ้งจ่อม หรือทอดใส่ไข่ หากเป็นกุ้งตัวเล็กๆ จะนำมาทำเป็นกุ้งเต้นและยำกุ้ง หากว่าเอาตัวใหญ่มาทำมันจะไม่ค่อยเข้ากับเครื่องปรุง รสชาติจะไม่อร่อย

อย่างเช้าวันนี้ที่ได้มาก็แบ่งไว้ให้กับเพื่อนบ้านที่เขาสั่งไว้ ก็ไม่ได้ขายหรอกครับ แต่ว่าคนที่เขาสั่งไว้ เขาก็มีน้ำใจเอาตังค์ให้ 50-60 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง ไม่รับเขาก็บอกว่ารับไปเถอะเอาไว้ซื้อหัวอาหาร เพราะว่าตนเองก็ใส่ทุกวันอยู่แล้ว ในช่วงที่ได้เยอะ ก็จะประมาณ 2 กิโลกรัม หาดักกุ้งฝอยตามหนองน้ำได้ทุกวัน ส่วนเมนูที่ทำวันนี้คือ ยำกุ้งเต้น

พอล้างเสร็จแล้วภรรยาก็จะออกไปหาซื้อเครื่องปรุง เช่น ต้นหอม ผักชี ใบมะกรูด ประมาณ 10 บาท เครื่องที่เตรียมไว้สำหรับทำกุ้งเต้นมี ต้นหอม ผักชี ใบมะกรูด มะนาว ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา ปลาร้าต้มสุก ใส่หม้อคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักออกใส่จานซิมดู บอกได้เลยว่าสุดยอด ยกนิ้วให้เลยกับยำกุ้งสดๆ กุ้ง เต้นออกนอกจานกันเลย สดจริงๆ รับประทานกับข้าวร้อนๆ หุงสุกเท่านั้นล่ะครับ สุดยอดแล้วกับอาหารมื้อนี้แค่ 10 บาท อิ่มทั้งครอบครัวประหยัดไปอีกมื้อ