บุหรี่ใบจาก วิถีชาวบ้านสมัยก่อน

ผู้ชายที่สูบบุหรี่ในสมัยก่อนถือว่าเป็นชายจริง สมัยนั้นร่างกายชายไทยจะต้องเต็มไปด้วยรอยสัก กินหมากจนฟันดำ และดื่มสุรายังกะน้ำ ถือเป็นมาตรฐานของชายในแถบสุวรรณภูมิ เมื่อความเจริญเข้ามาสภาพแบบนี้ค่อยๆ เลือนไป ผู้ชายสักยันต์มีน้อยลง หมากก็เลิกกิน แต่ข้อดื่มสุรากับสูบบุหรี่ยังเหลืออยู่มาก

บุหรี่ของแต่ละท้องถิ่นไม่เหมือนกัน ส่วนมากจะใช้ใบพืชที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมามวนใส่ยาเส้น

ในสมัยก่อนใช้ใบตองนำมารีดให้เรียบตัดให้ได้รูปสี่เหลี่ยมก็นำมามวนสูบได้ กลีบบัวหลวงก็มีคุณสมบัติที่จะนำมาใช้มวนบุหรี่ได้เช่นกัน แต่พื้นที่จังหวัดในบ้านเราที่ติดชายทะเลจะมีต้นจาก เป็นพืชประจำท้องถิ่น นิยมนำใบจากมามวนยาเส้นสูบ

ต้นจากเป็นพืชเก่าแก่อายุถึง 70 ล้านปี มีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ พบได้ทั้งบริเวณน้ำจืดและน้ำกร่อย และเป็นพืชในสกุลปาล์ม เพียงชนิดเดียวที่ขึ้นในป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลองที่มักมีน้ำจืดและน้ำเค็มปนกัน ส่วนมากจะขึ้นเป็นดงขนาดเล็กใหญ่ เรียกกันว่า ดงจาก หรือป่าจาก ในอดีตมีการใช้ประโยชน์จากต้นจากอย่างมากมายโดยการใช้มุงหลังคา หลังคาจาก แฝกที่ทำจากหญ้าคา ใบตองตึง แผ่นไม้สัก แผ่นดินเผา ล้วนเป็นวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อน สังกะสีและกระเบื้อง จนมาถึงเมทัลชีทในปัจจุบันนี้

จังหวัดพังงาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในฐานะที่มีเกาะแก่งและหาดทรายที่สวยงาม แต่ความจริงแล้วในพื้นที่ที่ไกลนักท่องเที่ยวยังมีบรรยากาศของความเป็นสังคมชนบทอยู่มาก เนื่องจากยังเป็นสังคมเกษตรกรรม คนส่วนใหญ่ในสังคมแบบนี้ยังเป็นคนพื้นที่ดั้งเดิมอาศัยอยู่เกือบทั้งหมด ไม่มีสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่ต้องจ้างแรงงานจำนวนมาก จึงไม่มีคนต่างถิ่นเคลื่อนย้ายเข้ามาตั้งรกราก

ลุงวิจิตร ลิ่มจำเริญ เป็นชาวบ้านในจังหวัดพังงา เดิมเกิดที่เกาะพระทอง พอเป็นหนุ่มก็มีอาชีพรับจ้างทำสวนยางให้กับเถ้าแก่รายใหญ่ของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ต่อมาเปลี่ยนอาชีพมาเป็นชาวเรือขุดทำงานอยู่ในเรือขุดแร่กลางทะเล จนกระทั่งเรือขุดประสบอุบัติเหตุจมลงก็ขึ้นบกเปลี่ยนมาเป็นอาชีพรับจ้างทั่วไปหักร้างถางพงจนได้เป็นเจ้าของสวนปาล์มและยางบนพื้นที่ 11 ไร่ และบ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่ บ้านนายทุย ตำบลแม่นางขาว อำเภอคุรุบุรี จังหวัดพังงา

“แต๋ก๋อนลำบ๊าก” ลุงวิจิตร พูดภาษาใต้สำเนียงฝั่งอันดามัน หมายความว่า เมื่อก่อนลำบาก ทำงานรับจ้างได้วันละ 15 บาท บางทีก็รับจ้างเย็บจากที่เอามามุงหลังคา เถ้าแก่ให้ราคา 100 ตับ 35 บาท ซึ่งคิดเป็นตับแค่ 35 สตางค์ ว่างเมื่อไรต้องขึ้นเขาไปตัดหวาย ตัดไม้ มาขาย หรืออะไรก็ได้ที่เป็นเงิน ลุงวิจิตรรับทำสารพัด น้ำตาจิไหล สมัยนั้นข้าวสารถังละ 30 บาท ถ้าเป็นข้าวสารอย่างดีก็ถังละ 50 บาท ซักไปถามมา ตกใจหมดเลย ไม่ลำบากได้ไง ลุงวิจิตรมีลูกตั้ง 10 คน ก็สมัยนั้นยังไม่มีการคุมกำเนิด และไฟฟ้ายังไม่มี แต่อาศัยความขยันอดทนแบบคนสมัยก่อน ลุงวิจิตรก็สามารถเลี้ยงลูกได้ดีทุกคน

ถามว่าลุงได้วิชาการทำใบจากมาจากไหน ลุงบอกว่าก็ตอนเย็บจากมุงหลังคาขาย เพราะจะเหลือใบจากมาทำใบจากมวนบุหรี่ขายเช่นกัน พอตอนนี้อายุมากแล้วก็เลยหันมาทำงานเบาๆ ลุงว่าถ้าไม่ได้ทำใบจากก็ต้องถือมีดงอ (มีดพร้า) เข้าป่าทุกวันเที่ยวฟันโน่นฟันนี่อยู่เฉยๆ ไม่ได้ เดี๋ยวจะเฉาตาย ลืมบอกไปว่าลุงวิจิตรปีนี้อายุ 88 ปีพอดี

ใบจากที่นำมาทำบุหรี่จะต้องเป็นใบจากใบอ่อนที่ยังไม่คลี่ จะเห็นเป็นทางตรงชี้ฟ้าขึ้นไปเหมือนร่มหุบ โดยใช้มีดคมๆ ตัดที่สุดโคนให้ขาดทีเดียวโดยใบไม่ช้ำ เมื่อก่อนลุงว่าเป็นคนไปตัดเองเพราะยังหนุ่มอยู่แต่เดี๋ยวนี้ต้องสั่งซื้อเขา เพราะอายุมากแล้วและในธรรมชาติค่อนข้างหายาก สนนราคาต้นละ 30 บาท โดยจะสั่งครั้งละ 20-30 ลำ ไม่จำกัดความยาว ส่วนใหญ่จะยาวระหว่าง 4-6 เมตร คนตัดจะนำมาส่งที่บ้าน จำนวนที่สั่งขึ้นอยู่กับฤดู ถ้าเป็นหน้าฝนจะห่างหน่อยเพราะตากใบจากให้แห้งไม่ได้ ส่วนหน้าร้อนจะทำได้เร็วเพราะแดดค่อนข้างดี

 

วิธีทำง่ายๆ

เมื่อได้ยอดจากสำหรับทำมา ต้องพักไว้ในที่ร่มไม่ให้โดนแดด เพราะใบจะเหี่ยว ตอนที่นำมาทำก็จะสับออกทีละครั้งซึ่งจะได้ทีละใบ โดยสับจากโคนขึ้นมาหาปลายยอดจนกระทั่งหมดใบ แล้วพลิกอีกข้างสับต่อจนกระทั่งหมด จำนวนการสับมาคำนวณให้ดีว่าจะต้องทำให้หมดภายในวันเพราะใบจะแห้ง แล้วนำมาลอกเจี่ยหรือเยื่อบางเหมือนฟิล์มออก เนื่องจากเยื่อนี้ไวต่อไฟจะทำให้ใบจากไหม้เร็วเกินไปจึงต้องเอาออก เมื่อลอกเจี่ยออกตลอดทั้งใบแล้ว ก็นำมาม้วนกับนิ้ว เหลือโคนใบไว้ เพื่อแทงกลับเข้าไปในวงใบจากที่ม้วนแล้วดึงออกจะทำให้ใบจากกลายเกลียวยึดเข้าด้วยกัน แล้วนำไปตากแดด ถ้าแดดดีๆ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เป็นอันใช้ได้

ยอดจากที่่ซื้อมา

หลังจากนั้น ก็นำมาคลี่และพับเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร แล้วใช้เศษใบจากมัดไว้เป็นท่อนๆ พร้อมสำหรับจำหน่าย ใบจากแบบนี้คนซื้อจะนำไปตัดหัวท้ายเอาเองเมื่อต้องการสูบ เนื่องจากวิธีทำนี้เป็นวิธีธรรมชาติ ลุงวิจิตรแนะนำให้ห่อหนังสือพิมพ์แล้วใส่ตู้เย็นไว้ แล้วค่อยนำมาใช้เพราะใบจากจะขึ้นราดำถ้าเก็บไว้ด้านนอกนานเกินไป วันหนึ่งๆ ถ้าแดดดี ลุงกับป้าจะทำได้อย่างมากสุดก็แค่ใบจากสามลำเท่านั้น ราคาจำหน่ายมารับที่บ้านชิ้นละ 3 บาท  ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวบ้านที่ซื้อไปสูบเองหรือแม่ค้าที่นำไปขายต่ออีกที ชาวบ้านที่รู้จักมักจะเลี่ยงการซื้อใบจากของโรงงานที่ส่วนใหญ่จะรมกำมะถันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดราดำซึ่งค่อนข้างเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ตัดมาทีละใบ

วิธีทำเป็นบุหรี่ก็นำใบจากมา 2 ใบ แล้วใส่ยาเส้นแล้วมวน สำหรับคนไม่เคยมวนจะยากในตอนแรกๆ เนื่องจากใบจากลื่นกว่ากระดาษ แต่สำหรับคอบุหรี่แล้ว มวนครั้งสองครั้งก็คงจะชำนาญ ใบจากที่ตากแห้งจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายใบลานตากแห้งที่นำมาสานหมวก คอบุหรี่อย่างชาวบ้านไม่เคยคิดที่จะสูบบุหรี่ก้นกรองของโรงงานยาสูบหรือบุหรี่นอกให้เปลืองเงิน บุหรี่ใบจากน่าสูบกว่าเป็นไหนๆ สมัยผู้เขียนเป็นเด็กเคยนำใบจากของผู้ใหญ่มามวนสูบเล่นอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้าใส่ยาเส้นเนื่องจากกลัวสำลัก เวลาสูบก็แอบๆ เพราะกลัวโดนดุ ดูดไม่ทันระวังไฟวาบเข้าใกล้ปากร้อนฉ่าต้องพ่นทิ้งแถบไม่ทัน เนื่องจากการไปแอบสูบแบบนี้เลยทำให้ผู้เขียนไม่ชอบบุหรี่ตั้งแต่นั้น ตอนเป็นผู้ใหญ่ก็เลยไม่สูบบุหรี่เหมือนเพื่อนเขา

ใบที่ตัดมาเตรียมไว้

ปัจจุบันลุงและป้ามีความสุขในการทำงาน เนื่องจากเป็นคนที่ไม่เคยอยู่นิ่งเฉย จนอายุ 88 ปีแล้ว แต่ลุงและป้ายังมีสุขภาพแข็งแรงช่วยเหลือตัวเองได้ มิหนำซ้ำยังมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ง้อเงินบำนาญแบบข้าราชการเกษียณ มีชีวิตตามอัตภาพในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ กินอาหารสด มีอารมณ์ดีแจ่มใสอยู่ตลอด ท่ามกลางลูกหลานเหลนหลายสิบคน ซึ่งต่างกับคนสูงวัยที่อยู่ในเมืองซึ่งมักจะอยู่ในห้องแคบๆ ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ต้องพึ่งคนอื่นอยู่ตลอดเวลา

สนใจใบจากไปมวนบุหรี่สูบ หวังถวิลสูดกลิ่นธรรมชาติชายฝั่งอันดามัน หรือโหยหาอดีตติดต่อสั่งซื้อได้ที่ ลุงวิจิตร เบอร์โทรศัพท์ (062) 582-6325

 

ลอกเยื่อหุ้มออก
ดึงให้ยืดออก

 

คลี่ให้สุด
นำไปตาก
เสร็จแล้ว