แนะเทคนิคเลือกซื้อ “ เมล่อน ” รสอร่อย

“ เมล่อน ” เป็นผลไม้เนื้อกรอบ รสชาติหวานฉ่ำ กินแล้วชื่นใจ แถมมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เอนไซม์ในน้ำเมล่อนชื่อว่า “superoxide dismutase” มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ลดกระบวนการทางเคมีภายในร่างกาย สามารถลดระดับความเครียดได้ดี แถมมีวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ไม่มีไขมัน และปริมาณแคลอรี่ต่ำ เมล่อน จึงเป็นไม้ผลตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

แต่ทว่า “ เมล่อน ” ที่วางขายในท้องตลาดทั่วไป มีราคาค่อนข้างสูง ซื้อเมล่อนลูกหนึ่งน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 1.5-2 กิโลกรัม ต้องจ่ายเงินไม่ต่ำกว่าร้อยกว่าบาท ไหนๆ จะควักเงินซื้อเมล่อนสักที ก็ควรจะได้เมล่อนคุณภาพดีกลับไปกินให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปสักหน่อย

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกเมล่อนบ้านหนองคาง อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี มีข้อแนะนำผู้ซื้อว่า ควรเลือกซื้อเมล่อนจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ เมล่อนคุณภาพดี จะมีลายตาข่ายชัดเจนสมบูรณ์เต็มผลอย่าซื้อเมล่อนที่ลายตาข่ายแหว่งขาด ลายไม่สมบูรณ์ เพราะปริมาณความหวานจะน้อย รสชาติไม่อร่อย

หากใครอยากชิมเมล่อน รสอร่อย ต้องดูที่ “ ขั้ว ” เป็นหลัก หากเจอเมล่อนที่มีขั้วสีเขียวสดวางขายอยู่ในท้องตลาด ก็ซื้อติดมือกลับบ้านได้ แต่อย่าใจร้อนผ่ากินทันที เพราะเพิ่งตัดมาใหม่ ต้องปล่อยให้ลืมต้นสักหน่อย เมื่อขั้วสีเขียวเหี่ยวแห้งลง จึงค่อยนำไปรับประทาน เมล่อนจะมีเนื้อนุ่ม รสฉ่ำตามที่ต้องการ ไม่แนะนำให้เลือกเมล่อนที่มีขั้วเหี่ยวสีน้ำตาล เพราะมีรสชาติจืด เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ เป็นเมล่อนผลอ่อน ที่ต้นแห้งเหี่ยวตาย ก่อนที่ผลจะแก่นั่นเอง

เมล่อนพันธุ์มรกต ของเจียไต๋ เนื้อสีเขียว รสชาติหวานนุ่มๆ มีกลิ่นหอม

หากต้องการทานเมล่อนให้อร่อย  ก่อนทานควรแช่เมล่อนทั้งผลไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 – 1.30 ชั่วโมงก่อนนำมาผ่าครึ่ง  บริเวณไส้กลางที่มีเมล็ด ถือเป็นส่วนหวานที่สุดของเมล่อน ไม่ควรใช้มีดปาดไส้กลางทิ้ง แค่ใช้ช้อนเขี่ยเมล็ดทิ้งก็พอแล้ว หลังจากนั้นนำเมล่อนมาผ่าเป็นเสี้ยว หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำก่อนนำไปเสริฟ์ เพียงเท่านี้ ทุกคนก็จะได้กินเมล่อนรสหอมหวานอร่อยกันแล้ว ไม่แนะนำให้หั่นเมล่อนเป็นชิ้นๆแล้วทิ้งไว้ในตู้เย็น เพราะจะทำให้เสียรสชาติความอร่อย