มีดกรีดฝิ่น

ฝิ่น บางถิ่นเรียกว่า “แม่ทองดำ”

ประเทศไทยมีถิ่นปลูกที่สามเหลี่ยมทองคำ เขตจังหวัดเชียงราย บริเวณติดต่อกับพม่าและลาว เมื่อประมาณ พ.ศ. 2520 ย้อนขึ้นไป ชาวเขาเผ่าต่างๆ นิยมปลูกฝิ่นกันเป็นล่ำเป็นสัน เพราะเจ้าหน้าที่ยังเข้าไปดูแลไม่ทั่วถึง ประกอบกับชาวบ้านลำบากยากจน นอกจากทำไร่เลื่อนลอยแล้ว ก็ไม่มีรายได้อื่นๆ ที่จะดีไปกว่าปลูกฝิ่น

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ฝิ่น มี 23 สายพันธุ์ แยกย่อยๆ ได้ถึง 250 ชนิด แต่มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่กรีดยางมาทำฝิ่นได้ นั่นคือ Papaver somniferum

สรรพคุณของฝิ่นมีคุณอนันต์ คนโบราณใช้ทำยาแก้ท้องร่วง ยาแก้ปวด และส่วนประกอบยาอีกหลายชนิด แต่ก็มีโทษมหันต์ เมื่อผลิตเป็นยาเสพติด และยังเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดชนิดร้ายแรงอื่นๆ

ถ้าแม่ทองดำเป็นสาว ถ้าแต่งมาแล้วดูแลเธอในทางถูกต้อง เธอจะเป็นสุดยอดกุลสตรี ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่ดูแลให้ดีเธอย่อมแสดงฤทธิ์เดชร้ายกาจ นำภัยมาสู่ครอบครัวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

กว่าจะได้แม่ทองดำมา ชาวบ้านต้องเก็บยางฝิ่นมาก่อน

การเก็บ “ยางฝิ่น” ในประเทศไทยมีเครื่องมือกรีด เรียกว่า มีดกรีดฝิ่น เป็นมีดขนาดเล็ก งอเหมือนเคียวเกี่ยวข้าว แต่ขนาดเล็กกว่ามาก ด้านปลายคม ถัดขึ้นมาใช้เชือกเส้นเล็กๆ พันไว้ป้องกันคมมีดกดนิ้วมือ และให้ถนัดขณะประคองมีดกดกรีดกระเปาะฝิ่น

การกรีดฝิ่น ต้องจับมีดให้กระชับ จรดปลายลงบนกระเปาะฝิ่น ให้ยางไหลจากแผลกระเปาะนั้นออกมา เวลากรีดฝิ่นทำในยามบ่าย วิธีกรีดผิวกระเปาะฝิ่น ต้องทำในแนวตั้ง โดยเรียงเป็นแนวขนานกันไปบนกระเปาะนั้น แต่ละแผลห่างกันประมาณ 1 เซนติเมตร

หลังกรีดแล้ว ปล่อยให้ยางเยิ้มไหลออกมาตามรอยกรีด รอให้จับอยู่กับผิวกระเปาะ รอจนถึงรุ่งเช้าค่อยออกไปเก็บยาง ยางฝิ่นสดแรกกรีดมีสีชมพู สีจะเข้มขึ้นเมื่อถูกลมในที่สุดจะกลายเป็นสีดำ

ฝิ่นแต่ละกระเปาะกรีดได้ 2-3 ครั้ง

ยางฝิ่น ต้องนำไปเคี่ยว ผ่านขั้นตอนต่างๆ จนกระทั่งปั้นให้เป็นก้อนกลม เพื่อเก็บไว้ หรือนำออกไปจำหน่าย

การใช้ฝิ่นของมนุษยชาติ ตามหลักฐานโบราณคดี พบว่า คนเรารู้จักการใช้ฝิ่นมาไม่ต่ำกว่าสมัยอียิปต์รุ่งเรือง และยังพบหลักฐานสมัยโรมันเรืองอำนาจ นั่นคือเมื่อหลายพันปีมาแล้ว

ใกล้ตัวเราเข้ามา เมื่อกลางพุทธศตวรรษที่ 21 จีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซื้อฝิ่นจากอินเดียเพื่อใช้ปรุงยา

ส่วนชาวยุโรป ปรากฏว่าพ่อค้าชาวโปรตุเกสเข้ามารับซื้อฝิ่นจากอินเดีย เข้ามาซื้อครั้งแรกใน พ.ศ. 2202 เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ต่อจากนั้น 100 ปี บริษัทอีสอินเดียของชาวดัทช์ได้ขนฝิ่น 1,400 หีบ สู่ชวา

ความรุ่งเรืองในการค้าของชาวดัทช์ ทำให้อังกฤษได้กลิ่น ห้วงนั้นอังกฤษนักล่าอาณานิคมได้เข้าปกครองอินเดีย และใช้บริษัทอีสอินเดียแห่งอังกฤษ ผูกขาดการซื้อฝิ่นจากอินเดีย แล้วกดดันให้จีนเป็นผู้ซื้อฝิ่นจากบริษัทของอังกฤษ

การกระทำตัวเป็น “พ่อค้าฝิ่น” ของอังกฤษ นอกจากทำให้อังกฤษร่ำรวยแล้ว ยังทำให้เกิดสงครามกับจีน  เรียกว่า “สงครามฝิ่น”

ฝิ่นแม้โดยทั่วไปจะเป็นสินค้าผิดกฎหมาย แต่บางประเทศก็ปลูกได้ เพราะต้องนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยา ประเทศที่ปลูกฝิ่นขายในปัจจุบัน ได้แก่ ประเทศอินเดีย เป็นต้น ส่วนประเทศไทยนั้น การปลูกฝิ่นเป็นการกระทำผิดกฎหมายไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ดังนั้น มีดกรีดฝิ่น จึงไม่ใช่เครื่องมือของใช้ที่พบได้ทั่วไป อาจเห็นได้แต่รูปภาพ หรือไม่ก็ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น

เครื่องมือผลิตขึ้นมาใช้ในอาชีพใดก็ตาม เมื่ออาชีพนั้นหมดไป เครื่องมือก็พลอยหายไปด้วย ผิดกันกับคนและการกระทำ แม้คนหนึ่งคนใดจะสิ้นไป แต่ผลของการกระทำยังเหลืออยู่

ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม