‘อานนท์ ฟาร์มจิ้งหรีด’ เลี้ยงจิ้งหรีดอย่างมีคุณภาพ ตัวใหญ่ สมบูรณ์ ขายได้ราคาสูง

ชาวขอนแก่น พบวิธีเลี้ยงจิ้งหรีดแบบลดต้นทุนจากกากมอลล์แล้วเสริมคุณภาพด้วยวิตามินเร่งการเติบโตจิ้งหรีด ย่นเวลาการจับขาย ช่วยให้ได้เงินเร็วขึ้น มีรายได้เพิ่ม มีตลาดรับซื้อแน่นอนในราคาสูง มีรายได้เดือนละเกือบแสนบาท พร้อมมีไข่จิ้งหรีดคุณภาพส่งขายออนไลน์

คุณเอกลักษณ์ บัวระบัดทอง หรือคุณกุ้ง

คุณเอกลักษณ์ บัวระบัดทอง หรือ คุณกุ้ง มีบ้านพักอยู่เลขที่ 126 หมู่ที่ 1 ตำบลขามป้อม อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น ผ่านอาชีพส่วนตัว ไม่ว่าจะเปิดร้านขายอาหาร อู่ซ่อมรถ ที่ล้วนแต่เจอคู่แข่งมากมายแต่ไม่ค่อยมีลูกค้า จึงมองหาอาชีพทางเลือก ด้วยการทดลองเลี้ยงจิ้งหรีดเพราะมองว่าใช้เวลาเลี้ยงสั้น มีรายได้เร็ว ไม่ยุ่งยาก ไม่เปลืองพื้นที่ ที่สำคัญตลาดจิ้งหรีดเพิ่งโตไม่มาก มีกลุ่มเลี้ยงที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ไม่มาก จึงทำให้มีรายได้ดี

จิ้งหรีดที่เลี้ยงเป็นพันธุ์ทองดำ ทองแดง เริ่มต้นทดลองเลี้ยงจำนวน 5-10 บ่อ ที่นครสวรรค์ ไปซื้อไข่พร้อมอุปกรณ์แล้วทางร้านแนะนำวิธีเลี้ยงเสร็จสรรพ โดยได้ศึกษาทางอินเตอร์เน็ตร่วมด้วย แต่ด้วยความที่ยังไม่รู้วิธีบริหารจัดการต้นทุนอย่างระมัดระวัง รอบคอบ แต่ไปมุ่งหากำไรเพียงอย่างเดียว ฉะนั้น ในขวบปีแรกนักเลี้ยงจิ้งหรีดมือใหม่รายนี้จึงขาดทุนตลอด

จากประสบการณ์จึงทำให้คุณกุ้งกลับมาทบทวนวิธีเลี้ยงให้รอบคอบ ขณะเดียวกัน ได้ความรู้จากอาจารย์และกลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในโลกออนไลน์ จึงนำข้อมูลของแต่ละแหล่งมาประยุกต์ใช้กับฟาร์มตัวเองด้วยการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพจิ้งหรีด จากนั้นจึงเริ่มมองเห็นกำไรเหลือ จึงตัดสินใจขยับขยายเพิ่มพื้นที่เลี้ยงอย่างมั่นคงมาที่ขอนแก่นบ้านเกิด

ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในอดีตสอนให้คุณกุ้งเลี้ยงจิ้งหรีดอย่างเป็นระบบมากขึ้น นำแนวทางการลดต้นทุนด้วยวิธีต่างๆ มาใช้ ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มคุณภาพควบคู่ไปด้วยเพื่อสร้างจุดแข็งให้เป็นที่สนใจของตลาด และแรงจูงใจด้านราคาขาย สำหรับแนวทางต่างๆ ที่หนุ่มหมอแคนรายนี้วางไว้ ได้แก่

ภายในโรงเรือนตอนค่ำต้องปิดฝาเพื่อป้องกันศัตรู

อุปกรณ์ใช้เลี้ยง
บ่อที่คุณกุ้งใช้เลี้ยงทำจากสมาร์ทบอร์ดขนาดกว้างยาวบ่อ 2.40 คูณ 1.20 เมตร สูง 90 เซนติเมตร เพราะเป็นวัสดุที่ทนทาน อยู่ได้นาน แล้วยังไม่สะสมความชื้นเหมือนซีเมนต์อันอาจทำให้สะสมโรค จากนั้นนำแผงไข่ (มือสอง) ราคาใบละ 1.50 บาท มาเรียงในบ่อ แล้วนำถาดอาหารมาใส่จำนวน 12 อัน ต่อบ่อ พร้อมติดตั้งท่อน้ำ 1 ชุดสำหรับให้จิ้งหรีดกิน

ไข่จิ้งหรีด

การเลี้ยง
นำไข่จิ้งหรีดมาใส่ในกล่องพลาสติกปิดให้อบเพื่อต้องการให้ไข่ฟักตัวได้ง่ายและรวดเร็ว จากนั้นย้ายไปใส่ในบ่อประมาณ 2-3 ขัน ต่อบ่อ โดยวางไข่บนขุยมะพร้าวเพื่อให้ฟักเป็นตัวในเวลาเพียง 1 วัน จึงย้ายตัวอ่อนออก ไปเลี้ยงต่อในถาดไข่ที่วางเรียงในบ่อ ส่วนไข่ที่ยังไม่ฟักจะทิ้ง เพราะต้องการให้ได้จิ้งหรีดที่มีขนาดเท่ากันในแต่ละรุ่น แล้วยังไม่ต้องยุ่งยากมาคัดขนาดภายหลัง อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวใหญ่ไปทำร้ายตัวเล็กจนเกิดความเสียหายตามมา ใช้อาหารข้นผสมกับอาหารลดต้นทุน ติดตั้งท่อพีวีซี สำหรับให้น้ำ

ควรจะดูแลหมั่นทำความสะอาดบ่อและบริเวณโดยรอบโรงเรือนทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้สะอาด เนื่องจากโรคต่างๆ จะเกิดขึ้นจากการขาดความใส่ใจเรื่องความสะอาด เกิดการสะสมโรคต่างๆ ตามมา เพราะหากใส่ใจเรื่องความสะอาดอย่างดีแล้วจะช่วยทำให้จิ้งหรีดทุกตัวมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ขณะเดียวกัน ศัตรูทางธรรมชาติที่พบ ไม่ว่าจะเป็นนก จิ้งจก และจิ้งเหลน จะจัดการป้องกันด้วยการล้อมตาข่ายซาแรนให้มิดชิดโดยรอบโรงเรือน

“กากมอลล์” อาหารสร้างคุณภาพที่ให้โปรตีนสูง
แล้วช่วยลดต้นทุน

คุณกุ้ง บอกว่า แต่เดิมจะใช้อาหารข้นสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวซึ่งมีราคาสูงทำให้ประสบปัญหาขาดทุน ต่อมาพบวิธีลดต้นทุนด้วยการใช้กากมอลล์ผสมกับอาหารข้น ทั้งนี้ อาหารข้นจะใช้เลี้ยงเฉพาะจิ้งหรีดอ่อนเท่านั้น แต่หลังจาก 20 วันไปแล้ว จึงค่อยปรับเปลี่ยนเป็นอาหารแบบผสมตามอายุจิ้งหรีดทุก 1-2 วัน ตั้งแต่อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ไปจนถึงอัตราส่วน 1 ต่อ 6 ไปจนถึงการขายจิ้งหรีด ข้อดีของกากมอลล์เพราะมีโปรตีนสูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนสำคัญทำให้จิ้งหรีดมีคุณภาพ มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น มีความสมบูรณ์เห็นได้ชัดเจน

“ตอนเริ่มแรกใช้อาหารข้นสำเร็จรูปเลี้ยงอย่างเดียว มีราคากระสอบละ 500 บาท ภายหลังที่ปรับมาใช้กากมอลล์ร่วมกับอาหารข้น จึงลดต้นทุนค่าอาหารจากกิโลกรัมละ 50 บาท (รวมค่าแรงและอื่นๆ) ลงเหลือประมาณกิโลกรัมละ 30 กว่าบาท”

ภายหลังประสบผลสำเร็จจากการใช้กากมอลล์ผสมอาหารข้นเลี้ยงจิ้งหรีดจนทำให้มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น มีความสมบูรณ์ แล้วเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้เลี้ยงรายอื่น จึงตัดสินใจนำกากมอลล์มาขายด้วย

ท่อพีวีซี ใส่น้ำผสมวิตามินเพื่อให้จิ้งหรีดกิน

เติมความแข็งแรงด้วยวิตามิน

น้ำผสมวิตามินเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สร้างคุณภาพจิ้งหรีด คุณกุ้ง บอกว่า ลองนำวิตามินที่ให้วัวกินมา ทดลองผสมน้ำให้จิ้งหรีดกินบ้าง ปรากฏว่าได้ผลดี ทำให้จิ้งหรีดมีคุณภาพแข็งแรง ตัวโต สีสวย โดยนำวิตามิน (แบบน้ำ) ผสมกับน้ำใส่ในท่อพีวีซี แล้วสอดผ้าให้โผล่ออกมา (คล้ายกับไส้ตะเกียง) ผ้าจะดูดซับน้ำที่ผสมวิตามินไว้ให้ชุ่ม เพื่อให้จิ้งหรีดมาดูดน้ำจากผ้า ระยะเวลาการเติมน้ำถ้าในช่วงจิ้งหรีดเล็กจะต้องเติมน้ำทุก 2 สัปดาห์ แต่พอมีตัวโตขึ้นจะต้องเติมน้ำทุกวันเนื่องจากจิ้งหรีดโตกินน้ำเก่ง

วิธีนี้เป็นการช่วยทำให้จิ้งหรีดกินน้ำที่สะอาด (ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้า) ปลอดภัย และได้ประโยชน์จากวิตามิน เนื่องจากพบว่าจิ้งหรีดที่กินน้ำผสมวิตามินจะเจริญเติบโตเร็วในเวลาสั้น ทั้งนี้ มีผู้เลี้ยงหลายรายมักให้น้ำจิ้งหรีดด้วยการใส่ในภาชนะวางในบ่อเลี้ยงทำให้จิ้งหรีดลงไปถ่ายมูลบ้าง หรือลงไปตายบ้าง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการเน่าเหม็น สร้างปัญหาเรื่องโรคตามมา เป็นผลทำให้จิ้งหรีดตายเป็นจำนวนมาก

วิตามินขายขวดละ 300 บาท หากซื้อจำนวน 4 ขวดขายในราคา 1,000 บาท
ผ้าซับน้ำนน. 1 กิโลกรัมราคาขาย 250 บาท หากสั่งซื้อจำนวน 5 กิโลกรัมขึ้นไปราคากิโลกรัมละ 200 บาท

ขายไข่จิ้งหรีดทางออนไลน์

สำหรับการขยายพันธุ์จิ้งหรีดรุ่นต่อไปจะใช้วิธีเก็บไข่ที่อยู่ในถาดตามจำนวนที่ต้องการ ซึ่งต้องเก็บไข่ล่วงหน้าประมาณ 3 วันก่อนจะจับจิ้งหรีด และการใช้ประโยชน์จากไข่จิ้งหรีดแบ่งเป็น 2 ทาง คือไข่ส่วนหนึ่งนำไปขายให้ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้ ก่อนจับไข่จะเปิดรับออเดอร์ล่วงหน้าทางออนไลน์เช่นกัน กับอีกส่วนหนึ่งเป็นไข่ที่ไว้สำหรับใช้ขยายพันธุ์ในฟาร์ม อย่างไรก็ตาม ในแต่ละรอบจะเก็บไข่ที่ขายและไว้ใช้งานรวมกันประมาณ 100 ขัน ขนาดขันที่ใช้ใส่ไข่จิ้งหรีดเป็นขันพลาสติกทั่วไปมีขนาดประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งสามารถตักไข่จิ้งหรีดได้ประมาณ 3 ขีด ขายขันละ 50 บาท

กากมอลล์และวิตามิน
ต่างเสริมสร้างคุณภาพจิ้งหรีด ให้ขายได้ราคาสูง

การนำกากมอลล์และวิตามิน มีส่วนสำคัญที่ไม่เพียงช่วยในเรื่องการลดต้นทุนลงได้อย่างมาก แต่ยังเสริมสร้างให้จิ้งหรีดของคุณกุ้งมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ช่วยย่นเวลาการเลี้ยงจากเดิม 45 วัน เหลือเพียง 35 วัน ก็สามารถจับขายได้เงินแล้ว อีกทั้งยังช่วยให้จิ้งหรีดมีขนาดตัวโตกว่าทั่วไป มีขนาดตัวเท่ากัน มีความสมบูรณ์ เป็นที่ชื่นชอบของตลาด แล้วเป็นจุดเด่นของฟาร์มแห่งนี้

ภายในโรงเรือนตอนค่ำต้องปิดฝาเพื่อป้องกันศัตรู

มีรายได้เฉลี่ยเดือนละแสนบาท

ปัจจุบัน คุณกุ้งเลี้ยงจิ้งหรีดขายอยู่จำนวนกว่า 100 บ่อ ใช้ชื่อฟาร์มว่า “อานนท์ ฟาร์มจิ้งหรีด” ราคาขายส่งให้กับลูกค้าประจำที่มารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ทั้งนี้ วิธีขายต้องได้รับออเดอร์จากลูกค้าก่อน จึงจะมาเตรียมผลิต เพื่อต้องการให้ขายหมด ได้ราคาสูง แล้วเป็นราคาที่ดีกว่าการวิ่งขายทั่วไป (ถ้าเป็นราคาขายตามตลาดทั่วไปกิโลกรัมละประมาณ 70-80 บาท)

โดยวิธีขายจะจับมาต้มประมาณ 40 นาที แพ็กใส่ถุงขนาด 5 กิโลกรัม แล้วนำไปแช่ในตู้เพื่อรอการขนย้ายขึ้นรถให้ลูกค้า จากที่เคยส่งให้ลูกค้ารายนี้ในช่วงเริ่มต้นเพียง 50 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ส่งให้รายเดิมเดือนละประมาณ 2 ตัน (จับขายเดือนละ 2 ครั้ง) มีรายได้ประมาณ 70,000-100,000 บาท ต่อเดือน โดยมีต้นทุนเฉลี่ยเดือนละประมาณ 50,000 บาท

นำจิ้งหรีดมาต้มก่อนบรรจุใส่ถุง

นอกจากขายตัวจิ้งหรีดและไข่แล้ว ทางอานนท์ฟาร์มยังมีจำหน่ายสินค้าอื่นๆ ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินที่ใช้ผสมน้ำ ขายขวดละ 300 บาท หากซื้อจำนวน 4 ขวดขายในราคา 1,000 บาท อาหารลดต้นทุนหรือกากมอลล์ถุงขนาด 30 กิโลกรัมขายราคาถุงละ 160 บาท หากสั่งซื้อจำนวน 100 ถุงขึ้นไปขายราคาถุงละ 140 บาท รวมทั้งผ้าซับน้ำจิ้งหรีด 1 กิโลกรัมราคาขาย 250 บาท หากสั่งซื้อจำนวน 5 กิโลกรัมขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 200 บาท

สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณเอกลักษณ์ บัวระบัดทอง (กุ้ง) โทรศัพท์ 098-746-1990

นำมาเก็บไว้ในตู้เตรียมขนย้าย

 

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563