ผู้เลี้ยงโคกาฬสินธุ์กัดฟัน สู้วิกฤตตลาดซึม เชื่อดีขึ้นหลังทราบข่าวรัฐเข้าช่วย

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 นายสราวุฒิ วังภูสิทธิ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคบ้านดอนขี้เหล็ก หมู่ 2 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถึงแม้หลายปีที่ผ่านมาบรรยากาศการเลี้ยงโค โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงโคพันธุ์เนื้อและโคขุนจะเงียบเหงาเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรที่มีใจรักในการเลี้ยงโคยึดอาชีพเลี้ยงโคอย่างเหนียวแน่น ซึ่งมั่นใจว่าบรรยากาศจะกลับมาสดใสขึ้นอีก เนื่องจากโคเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน เนื้อรวมทั้งอวัยวะต่างๆ ของโคยังสามารถนำมาแปรรูป ประกอบอาหาร และแยกส่วนสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย

นายสราวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับตนนั้นได้เปิด “อีสานวัวดีฟาร์ม” เป็นฟาร์มเลี้ยงโคพันธุ์เนื้อสายพันธุ์อินดูบราซิล โดยจำหน่ายน้ำเชื้อเพื่อให้เพื่อนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนำไปผสมเทียม รวมทั้งผลิตลูกโคหรือโคขุนจำหน่ายด้วย เหตุที่เลือกเลี้ยงสายพันธุ์นี้เพราะเป็นโคที่มีลักษณะโครงสร้างที่ใหญ่ เนื้อหนาและแน่น เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่บริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

“ในฟาร์มมีวัวพ่อพันธุ์ชื่อแดงปฐพี ซึ่งเป็นลูกของพ่อพันธุ์สายพันธุ์อินดูบราซิลชื่อคิงส์โพธิ์ดำ ขณะที่แม่พันธุ์เป็นลูกของบอยอุบล ซึ่งสายพันธุ์นี้นำเข้าจากประเทศบราซิลเมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่แห่งแรกของภาคอีสานที่ได้นำเข้าโคสายพันธุ์เนื้ออินดูบราซิลมาเลี้ยง และผสมสายพันธุ์กับโคพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งเดิมมีโครงสร้างเล็ก เนื้อไม่เยอะ สร้างกำไรให้ผู้ที่เลี้ยงน้อย หลังนำโคสายพันธุ์อินดูบราซิลมาผสมกับโคพันธุ์พื้นเมือง ทำให้ลูกที่ออกมามีลักษณะโครงสร้างใหญ่ เนื้อหนังหนาและเพิ่มน้ำหนักขนาดของเนื้อ สร้างกำไรและเพิ่มมูลค่าที่สูงกว่าการเลี้ยงโคพื้นเมือง จึงฉุดกระแสความตื่นตัวในการเลี้ยงโคพันธุ์ผสมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ถึงขั้นจับมือรวมกลุ่มและจัดประกวดโคสวยงามในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย” นายสราวุฒิกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายสราวุฒิกล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทำให้บรรยากาศการเลี้ยงโคในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างซบเซา ฟาร์มโคหลายแห่งเลิกกิจการไป แต่ตนและกลุ่มผู้เลี้ยงโคที่มีใจรักยังประคับประคองเลี้ยงเรื่อยมา ทั้งจำหน่ายน้ำเชื้อและเลี้ยงโคขุน จะให้เลิกกิจการก็คงทำไม่ได้ เพราะรักผูกพันกับโคมาก และจากการที่ได้ข่าวว่าภาครัฐจะเข้ามาให้การส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคให้ฟื้นตัวขึ้นอีก จึงเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคว่าอาชีพเลี้ยงโคจะมีอนาคตที่สดใสขึ้น