| ที่มา | เทคโนโลยีปศุสัตว์ |
|---|---|
| ผู้เขียน | จิตรกร บัวปลี |
| เผยแพร่ |
“ขาใหญ่ ไอ้ตีนโต” จั่วหัวเรื่องก็จำต้องถอยฉากไปตั้งหลักแล้วตั้งสติ กับวลีกระแทกหูใครหลายๆ คน ที่ยังไม่คุ้นชินให้พากันตื่นตระหนก แตกตื่น…
แต่ถ้าผู้อ่านได้พบเห็นก็คงต้องตกตะลึง เพราะพี่เขา “ขาใหญ่” จริงๆ แถม “ตีนโต” อีกต่างหาก ไม่เพียงใหญ่ตรง “แข้ง ขา” และก็ “ตีน” ตัวก็ใหญ่ น้ำหนักก็มาก
เขาเป็นใครมาจากไหน “คุณสุธน สังข์จันทร์” คนไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ไปคว้าตัว “พี่ขาใหญ่ ไอ้ตีนโต” มาจากดินแดนเหงียน ทางตอนเหนือของเวียดนาม ที่เมืองดองต่าว (DongTao) จังหวัดฮึงเอียน เมื่อราวๆ 5 ปีก่อน
อ้อ..! ลืมบอกไปว่า “พี่ขาใหญ่ ไอ้ตีนโต” ที่ว่านี้เขาคือ “ไก่” นำเข้าจากเมืองดองต่าว ประเทศเวียดนาม ที่ใครๆ เห็นก็ต้องร้องโอ้วววว พี่เขาขาใหญ่จริงๆ
อย่างที่เกริ่นไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คุณสุธน นำเข้าไก่สายพันธุ์แท้ต้นตำรับจากเวียดนาม ที่ว่านี้มาเพาะขยายพันธุ์ ครั้งนั้นนำเข้ามา 13 ตัว แยกเป็นตัวเมีย 10 ตัว ตัวผู้ 3 ตัว โดยติดต่อผ่านเพื่อนที่รู้จักกันในเวียดนาม และซื้อมาในราคาตัวละ 2,500 บาท เป็นไก่ลูกเจี๊ยบตัวเท่ากำปั้น เอามาปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติอยู่ในเล้าที่มีตาข่ายอวนล้อมรอบเพื่อป้องกันหมา แมว เมื่อตกเย็นก็จะต้อนให้เดินเข้าไปนอนในเล้า ปิดประตูอย่างมิดชิดเพื่อป้องกันศัตรูไก่ในเวลากลางคืน ช่วงเวลานั้นไก่ดองต่าวจากเวียดนาม ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยและรู้จักกันของคนไทย…
วันเดือนผ่านไป ไก่สายพันธุ์ดองต่าวจากเวียดนาม เริ่มมีสีสันสดใส ไล่โทนแข้งขาไต่ระดับสีส้มไปจนถึงสีแดงฉาดดูเด่นจัดจ้าน และที่เด่นก็ตรง แข้งขาที่ใหญ่โต ขนก็ฟูตัวก็ใหญ่ อีกทั้งเหนียงคอหัวหูยาน ดูแปลกตาและน่าเกรงขาม และนับวันเมื่อโตเต็มวัยความโดดเด่นก็ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ คล้ายๆ เหมือนไก่นักรบขุนศึกสมัยโบราณ เวลาออกรบต้องสวมเสื้อเกราะ หมวกและโล่ ตลอดแขนและขา
คุณสุธน เล่าให้ฟังผ่านจากปากเพื่อนที่อยู่เวียดนามมาอีกทีว่า ไก่ดองต่าว เจ้าตีนโต มันคือไก่เนื้อสายพันธุ์เวียดนาม ในยุคสมัยโบราณระบบกษัตริย์ จักรพรรดิ ขุนนาง ชั้นสูง รุ่งเรือง เขาเลี้ยงไว้ในวังเพื่อทำเป็นไก่เนื้อ ฉะนั้น ชาวบ้านธรรมดาๆ จึงไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ
ถึงแม้จะหมดยุคระบบกษัตริย์ จักรพรรดิ ขุนนาง ชั้นสูง ของเวียดนามเมื่อครั้งสมัยโบราณแล้วก็ตาม ไก่ดองต่าว ชาวบ้านธรรมดาๆ ก็ยังไม่มีโอกาสได้ครอบครอง หรือหากินได้ง่ายๆ เพราะเป็นไก่ที่รสชาติอร่อยจึงมีราคาแพง ฉะนั้น คนเวียดนามที่จะหาซื้อกินต้องมีเงินถุงเงินถัง ระดับชั้นภัตตาคาร อาหารเหลา หรูๆ เท่านั้น
“เมื่อยุคสมัยกาลเวลาเปลี่ยนมีการเพาะขยาย และพัฒนาพันธุ์ไก่ดองต่าวในเวียดนาม จึงเริ่มมีมากขึ้น ชาวบ้านในเวียดนามจึงมีโอกาสเข้าถึงและได้ลองลิ้มชิมรสไก่ดองต่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดอันดับไก่เลิศรสอาหารที่อร่อยที่สุดของประเทศเวียดนาม เพราะด้วยคุณสมบัติที่กรุบกรอบของเนื้อและหนัง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ไขมันแทรกเนื้อน้อย ส่วนขาจะห่อหุ้มด้วยหนัง และมีเนื้อแทรกเป็นไขวุ้นคล้ายๆ กับคอลลาเจนจากธรรมชาติ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย” คุณสุธน ว่าอย่างนั้น
แต่ในความแปลกตาและรสชาติที่อร่อย ทั้งเนื้อและหนังของไก่ดองต่าว ที่คุณสุธนว่านี้ คนไทยยังไม่คุ้นชิน และรู้จัก “ไอ้เจ้าตีนโต ไก่ดองต่าว” เท่าใดนักในปีแรกๆ เมื่อผ่านไปปีที่ 2-3 คนเริ่มรู้จักเยอะขึ้น จากการโพสต์เจ้าตีนโตโชว์ผ่านสื่อออนไลน์เพื่อให้ดูความแปลก จากนั้นสมาชิกก็เริ่มติดต่อค้นหาและขอซื้อเพื่อต้องการเอาไปเลี้ยงเพราะความแปลกของเจ้าไก่ดองต่าวนั่นเอง
ไอ้เจ้าตีนโตจากเวียดนาม เริ่มจากตัวเล็กๆ 13 ตัว แล้วเพาะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นมาเป็น 20-30 ตัว เมื่อมีลูกค้าติดต่อมาจึงเห็นช่องทำเงินไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านเลยไป ขายลูกพันธุ์อายุ 1 เดือน ที่เพาะได้จนหมดเกลี้ยง ในราคาตัวละ 1,500 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะลูกค้ารอคิวจนไก่โตไม่ทันกับจำนวนคนที่อยากได้ จึงตัดสินใจแบ่งขายพ่อแม่พันธุ์ที่มีอยู่ ในราคาคู่ล่ะ 20,000-25,000 บาท ในเวลานั้น
ปีที่ 3 จึงนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ดองต่าวจากเวียดนาม เข้ามาอีกหลายรอบเพื่อสมทบสับเปลี่ยนสายพันธุ์แท้ของพ่อแม่เดิมที่มีอยู่ในเล้า เรียกว่าแม่ไก่ เบ่งไข่ ฟักไข่ โตไม่ทันขายเลยทีเดียว เมื่อความแปลกกระจายไปถึงหูเกษตรกรที่หลากหลายก็เริ่มหันมาเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ถ้าตัวที่ไม่สวยก็ทำเป็นไก่เนื้อ ส่งต่อความอร่อย จนไก่ดองต่าว ไอ้ตีนโต เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมากขึ้น
ปัจจุบันไอ้ตีนโตจากเวียดนาม เดินกร่างอยู่เต็มเล้า ที่กงไกรลาส ไม่น้อยกว่า 100 ตัว รวมทั้งพ่อแม่พันธุ์ แบ่งเป็นไก่รุ่น ไก่ลูกเจี๊ยบราว 70 ตัว พ่อแม่พันธุ์ 70 ตัว ส่วนราคาคุณสุธนปรับลงมาเหลือตัวละ 1,000 บาท ในขณะที่พ่อแม่พันธุ์ ราคาก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของไก่และอายุ เริ่มต้นที่คู่ล่ะ 15,000-25,000 บาท
ในเล้าไก่และขยายจนใกล้จะเป็นฟาร์มของคุณสุธน ที่กงไกรลาศ ไม่เพียงมีเฉพาะ ไอ้ตีนโต ขาใหญ่ สายพันธุ์แท้ดองต่าวจากเวียดนามเท่านั้น ยังมีไก่แปลก ไก่สวยงามสายพันธุ์แท้ อีก 3 สายพันธุ์ ประจำเล้า ประกอบด้วย
ไก่โปแลนด์
เป็นไก่พันธุ์แท้ต้นกำเนิดอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ คุณสุธนไม่ได้นำเข้าแต่หาซื้อจากฟาร์มที่รู้จักกันในประเทศไทย ที่นิยมเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ลักษณะความเด่นและแปลกตรงที่หัวเหมือน “ไก่ใส่หมวก” ส่วนราคาขายลูกไก่อายุ 1 เดือน 300-500 บาท พ่อแม่พันธุ์ตัวละ 1,000-3,000 บาท ไก่โปแลนด์ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงเป็นไก่เนื้อ เพราะมีน้ำหนักตัวน้อย โครงสร้างเล็ก เลี้ยงเพื่อความสวยงามเท่านั้น และยิ่งรู้จักนิสัยจะกินไม่ลงเลยทีเดียว เนื่องจากมีความเชื่อง ขี้เล่น ไม่ดุร้าย มีหลากหลายสี อาทิ ขาว ดำหัวขาว สีส้ม หรือสีชามอย เป็นต้น
ไก่มินิโคชิน
ต้นกำเนิดอยู่ประเทศจีน เจ้าไก่สายพันธุ์นี้คุณสุธนตามหาในเมืองไทยจนเจอ แล้วเอามาเพาะอนุรักษ์เพื่อความสวยงาม ลักษณะนิสัยก็จะเหมือนกับโปแลนด์ น้ำหนักไม่ถึงกิโล ตัวเล็ก คล้ายๆ ไก่แจ้ ลูกไก่ขายราคาเริ่มต้นที่ 300-500 บาท ต่อเดือน ขึ้นอยู่ที่ฟอร์มความสวยและสีสันของไก่ เป็นต้น
ไก่หัวเราะ
เป็นไก่สายพันธุ์อินโดนีเซีย ภาษาต้นกำเนิด Ayamketawa (อะยำคีตาวา ภาษาอินโดนีเซีย อะยำ แปลว่าไก่) ไอ้เจ้าตัวนี้มีความแปลก เพราะมันหัวเราะทั้งวัน หรือว่า ขันนั่นเอง ไม่เหมือนกับไก่ชาวบ้านทั่วไป เพราะมีลูกคอหลายชั้น เวลาขันคล้ายคนหัวเราะ และขันได้ยาวนานกว่าไก่ธรรมดาทั่วไป ส่วนจะขันได้ยาวนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับลูกคอสั้น หรือลูกคอยาว
คุณสุธน เพลิดเพลินเมื่ออยู่ข้างๆ เล้า เมื่อได้เห็นตัวเมียมาเดินยั่วเย้า ไอ้เจ้าตัวผู้มันก็จะขันโชว์ได้ตลอดทั้งวัน เรียกว่าขันได้ขันดี บางตัวขันทุกๆ สิบนาที เลยทีเดียว จึงได้ชื่อว่าเป็น “ไก่หัวเราะ” อีกหนึ่งสายพันธุ์ และที่สำคัญสีสันก็สวยแปลกตา โครงสร้างคล้ายไก่ป่า ไก่แจ้ ขนาดกลางหลากหลายสี
ส่วนราคาขายลูกไก่เริ่มต้นที่หน้าเล้า 500 บาท ขนาดอายุเดือน พ่อแม่พันธุ์ราคาเริ่มที่ 3,500-5,500 บาท คุณสุธน ให้ข้อมูลทิ้งท้ายว่า ตนเองเป็นคนปกตินะครับ แต่ชอบสะสมของแปลกโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ที่เพิ่มมูลค่า เพราะว่ามันสามารถทำเงินได้มากกว่าของธรรมดาทั่วๆ ฉะนั้น ตั้งใจที่จะทำให้เล้าไก่ของตนเองเป็นศูนย์รวมไก่สายพันธุ์แท้ ไก่แปลก ไก่สวยงาม ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
เอาเป็นว่าผู้อ่านท่านใดที่รักความสวยงาม และความแปลก ก็กริ๊งกร๊างหา คุณสุธน สังจันทร์ ได้ตลอดเวลา โทร. (082) 392-5656 หรืออยากไปดูไก่แปลกให้เห็นกับตา ก็ตามไปที่ เลขที่ 62/2 หมู่ที่ 14 ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย หรือทักเฟซหาดูความแปลกล่วงหน้า พิมพ์คำว่า สุธน สังจันทร์
อย่ารอช้า ทุกวันนี้ตลาดสัตว์แปลก สัตว์สวยงาม สัตว์หายาก ยังคงหมุนเวียนในตลาดไม่ขาดสาย จึงทำให้คุณสุธนมีรายได้ไม่น้อยกว่า 50,000 บาท ต่อเดือน เลยทีเดียว
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ.2564
