เลี้ยงแบบนี้ก็มีหรอ! เห็นแล้วช็อคมากที่มากาแฟสุดหรู “กาแฟขี้ชะมด” กับสไตล์การเพาะเลี้ยงที่เห็นแล้วคุณจะอึ้ง!

รสชาติอันแสนนุ่มนวลละมุนลิ้นและกลิ่นอันหอมหวานที่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เองที่ทำให้ “กาแฟขี้ชะมด” กลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมีความต้องอย่างสูงสุดในตลาดกาแฟทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยของเราเช่นเดียวกัน แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์ของธุรกิจกาแฟขี้ชะมดนี้ค่อนข้างถูกนำเสนอในเชิงลบ ทั้งในด้านของการเลี้ยงดูจากฟาร์มแบบปิด ทารุณกรรมสัตว์ บังคับให้อยู่ในพื้นที่แคบๆ ได้ทานเพียงแค่ผลกาแฟจนทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารและเจ็บป่วยล้มตายในที่สุด

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในประเทศไทย เพราะอย่างห้างสรรพสินค้าชื่อดังของอังกฤษอย่างเซลฟริดจ์สเองได้ประกาศยกเลิกการจำหน่ายกาแฟขี้ชะมดที่ถูกส่งมาจากฟาร์มแบบปิดแล้ว โดยทางสมาคมพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือ WSPA ได้รณรงค์เน้นย้ำถึงปัญหาดังกล่าว ด้วยการประกาศให้ผู้บริโภคเลือกซื้อแต่กาแฟขี้ชะมดที่มาจากตามธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ไปในทิศทางเดียวกับ กาแฟขี้ชะมดแบรนด์ไทยอย่าง Blue gold ฟาร์มชะมดระบบเปิดรายใหญ่แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย

“ฟาร์มของผมตั้งอยู่ที่จังหวัดนครพนม มีเนื้อที่ 100 ไร่ มีชะมด 300 ตัว ฟาร์มของผมจะเป็นระบบนิเวศแบบเปิด ซึ่งก็คือเราจะไม่มีการกักขัง ชะมดจะสามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ ปืนปายต้นไม้ตามใจชอบ สามารถเลือกกินอาหารได้เองโดยมีให้เลือกทั้งผลกาแฟสุกและผักผลไม้ ซึ่งพวกมันจะกินผลกาแฟสุกในฤดูกาแฟเท่านั้นดังนั้นปัญหาเรื่องการทารุณหรือชะมดต้องทุกข์ทรมานในที่แคบหรือได้รับสารกาหารไม่เพียงพอจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลของเราเลยครับ” คุณเฟลม เกียรติศักดิ์ คำวงษา ผู้สรรสร้างกาแฟขี้ชะมดแบรนด์ไทยอย่าง Blue gold กล่าวถึงความแตกต่างของไร่กาแฟของตนต่อภาพลักษณ์ที่สังคมมองเห็น

คุณเกียรติศักดิ์กล่าวต่อว่า ในอดีตเมื่อยังเล็กตนเคยเลี้ยงชะมดเป็นสัตว์เลี้ยง จึงเกิดความรู้สึกรักและผูกพันธ์เหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ดังงั้นปัจจุบันชะมดกว่า 300 ตัว ที่ตนมีในฟาร์มนั้นจึงไม่ได้เกิดจากการเข้าไปลักลอกจับมาจากป่าแต่อย่างใด เพราะในฟาร์มของตนจะมีการเพาะเลี้ยงชะมดเองโดยมีการจัดสถานอนุบาลสัตว์ และมีสัตว์แพทย์คอยดูแลใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา และนอกจากที่นี้จะเป็นไร่กาแฟแล้ว ฟาร์มของตนนอกจากจะเลี้ยงชะมดแล้ว ยังมีการเลี้ยงม้า,ม้าแคระเพื่อส่งไปบำบัดเด็กพิเศษ มีวัว,ไก่ขน,ลาและสิงโตเผือก จนทำให้ฟาร์มกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครพนมอีกด้วย

“การทำกาแฟขี้ชะมดจะไม่ได้เป็นเรื่องของการทารุณกรรมสัตว์เลย หากพวกเราทุกคนนึกถึงใจเขาใจเราสัตว์เองก็มีชีวิตจิตใจและเหล่าผู้บริโภคเองก็คงไม่ต้องการที่จะได้ทานกาแฟอร่อยๆโดยต้องแลกมาด้วยทุกข์ทรมานของชะมดเหล่านี้ ดังนั้นเหล่าผู้ประกอบการเองก็ต้องมีจิตสำนึกมีจรรยาบรรณในทำธุรกิจให้มากอีกด้วย” คุณเกียรติศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เมื่อวันที่วันพฤหัสที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2560