ที่มา	เทคโนโลยีปศุสัตว์
ผู้เขียน	ปิยพร วิสระพันธุ์
เผยแพร่	วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ.2566

แท้จริงแล้วมนุษย์เรามีการบริโภคเนื้อจระเข้มานานแล้ว มีการบริโภคอยู่ทุกแถบประเทศในหลายวัฒนธรรมที่มี จระเข้อาศัยอยู่ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ซึ่งในปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงจระเข้ระบบฟาร์มเพื่อกินเนื้อหรือนำหนังจระเข้มาทำเครื่องหนัง

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนถึงกินเนื้อจระเข้ ต้องบอกเลยว่า เนื้อจระเข้มีความอร่อยเฉพาะตัว ให้โปรตีนที่สูง ไขมันต่ำ คอเลสเตอรอลน้อย ซึ่งดีต่อหัวใจและระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย ในหนังจระเข้นั้นมีเพคตินสูง เชื่อว่าป้องกันโรคกระดูกพรุน และมีคอลลาเจน คนจีนเชื่อว่าเนื้อและหนังจระเข้เป็นทั้งอาหารและยา ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ป้องกันโรคความดันโลหิต เป็นต้น

และเนื้อจระเข้มีการบริโภคมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเนื้อจระเข้คือโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ยอดเยี่ยม คนแต่โบราณกินสัตว์ทุกชนิดเพราะต้องการโปรตีน ตั้งแต่แมลง สัตว์ปีก สัตว์บก สัตว์เลื้อยคลาน แมงมุม แมงป่อง ค้างคาว มด ไข่มด เป็นต้น ดังนั้น การกินเนื้อจระเข้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ไข่จระเข้นั้นมีเลซินทินสูงกว่าไข่ไก่ถึง 2 เท่า คนจีนโบราณเชื่อว่าอวัยวะในจระเข้ตัวผู้ มีสรรพคุณทางยามากกว่าเสือ ในทางยาบอกว่ามีกรดอะมิโน สังกะสี และวิตามินเอ ช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุล เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยชะลอวัยได้ดีอีกด้วย และในส่วนของน้ำมันจากจระเข้ ชาวจีนเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อผิวคน ใช้กันมาหลายปีในหลายวัฒนธรรม ตั้งแต่อียิปต์โบราณจนถึงการแพทย์สมัยใหม่ ระบุว่าช่วยรักษาระบบไหลเวียนเลือด รักษาผิวไหม้แดด น้ำร้อนลวก ช่วยเยียวยาแผลให้หายเร็วขึ้น

เนื้อจระเข้อาจไม่เป็นที่นิยมนักในประเทศไทย เนื่องด้วยเนื้อจระเข้มีราคาที่สูงกว่าเนื้อหมู เนื้อไก่ แต่ในปัจจุบัน สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ฟาร์มจระเข้หลายแห่งในประเทศไทยไม่สามารถทำการค้าส่งออกต่างประเทศได้ ปัจจุบัน จึงทำให้ฟาร์มจระเข้หลายแห่ง ต่างมาตีตลาดในประเทศ ทำให้เนื้อจระเข้มีราคาที่ถูกลงอย่างมาก ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ และเข้าถึงตลาดเนื้อจระเข้ได้อย่างแพร่หลาย

คุณสมศักดิ์ วัฒนมงคล หรือ เฮียสัก  อาศัยอยู่ที่ ชาตรี ฟาร์มจระเข้ เลขที่ 45 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ปัจจุบัน ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะเลี้ยงจระเข้ระบบฟาร์มเพื่อกินเนื้อและส่งออกหนังจระเข้เพื่อทำเครื่องหนัง

คุณสมศักดิ์ กล่าวว่า ธุรกิจเพาะเลี้ยงจระเข้ระบบฟาร์ม เป็นธุรกิจที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำมาตั้งแต่สมัยอากง จนถึงปัจจุบันก็หลายสิบปีแล้ว ฟาร์มของเราแต่เดิมที จะเน้นเป็นการขายหนังจระเข้ส่งออก ส่งออกหลายประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และแถบตะวันออกกลาง แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้ฟาร์มของเราไม่สามารถส่งออกหนังจระเข้ได้ เคยส่งออกแล้วเกิดความล่าช้าอย่างมาก ทำให้หนังจระเข้เสียหาย ทางฟาร์มจึงจำเป็นต้องหยุดการส่งออก และกลับมาคิดหาทางออกกับวิกฤตครั้งนี้ ครอบครัวจึงหันมาตีตลาดในประเทศแทน

คุณสมศักดิ์ กล่าวว่า เนื้อจระเข้ที่ไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เนื่องจากในอดีตเนื้อจระเข้มีราคาที่สูง 200-300 บาทต่อกิโลกรัม จึงทำให้มีการบริโภคเฉพาะกลุ่ม ทางฟาร์มจึงมาตีตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคในประเทศ ลดราคาลงเพื่อผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ โดยราคาขายปลีก 105 บาทต่อกิโลกรัม ขายส่ง 30 กิโลกรัมขึ้นไป ราคา 70 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมค่าจัดส่ง)

การเพาะเลี้ยงจระเข้ระบบฟาร์มจำเป็นที่จะต้องได้รับการรับรองจากกรมประมง เพื่อได้รับมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย และความถูกต้อง จระเข้เป็นสัตว์กินเนื้อ ทางฟาร์มจะให้เนื้อไก่เป็นอาหารเพื่อสร้างโปรตีนให้แก่จระเข้ ถึงแม้ต้นทุนเพิ่ม ทางฟาร์มก็ยืนยันราคาขายที่ไม่ปรับเพิ่ม เพื่อให้ผู้บริโภคยังสามารถซื้อได้

คุณสมศักดิ์ อธิบายถึงขั้นตอนการเพาะเลี้ยงจระเข้ระบบฟาร์มว่า เมื่อจระเข้ออกไข่แล้ว จะถูกนำไข่ไปใส่ตู้ฟักที่มีอุณหภูมิ 37-38 องศา เป็นระยะเวลา 2 เดือน จากนั้นนำลูกจระเข้ออกจากตู้ฟักในเดือนที่ 2 ไปยังบ่ออนุบาล โดยให้อาหารเป็นไก่บด จนกระทั่งลูกจระเข้มีอายุได้ 2-3 เดือน จะถูกปล่อยลงบ่อ เมื่อถูกปล่อยลงบ่อแล้ว จะเข้าสู่การเลี้ยงด้วยเนื้อไก่สด ปริมาณการให้อาหารควรให้แต่พอดี เพื่อไม่ให้เกิดการเน่าเสียของน้ำและพื้นที่ในบ่อ และปริมาณจระเข้ ในแต่ละบ่อควรมีปริมาณที่ไม่หนาแน่น เพื่อลดความเครียดให้แก่จระเข้

“ต้องบอกเลยว่าตลาดของเนื้อจระเข้ เข้าถึงผู้บริโภคในไทยได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคหันมากินเนื้อทางเลือกจากจระเข้มากขึ้น ยิ่งในกลุ่มคนรักสุขภาพ ผู้สูงวัย หันมาบริโภคเยอะมาก เนื่องจากเนื้อจระเข้มีไขมันที่ต่ำ แต่ยังคงให้โปรตีนสูง ลูกค้าสั่งจองเข้ามาเยอะมาก ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ทางฟาร์มก็ยังยืนยันราคาเดิมไม่คิดจะขึ้นราคา และทางฟาร์มยังรับซื้อจระเข้มาจากเกษตรกรเพาะเลี้ยงจระเข้ระบบฟาร์มอีกด้วย”

“จระเข้ระบบฟาร์มเป็นจระเข้ที่ไม่ได้ดุร้ายอย่างที่ทุกคนเคยพบเห็นในทีวี จระเข้ระบบฟาร์มไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ ทำให้สัญชาตญาณนักล่าลดน้อยลงไป จระเข้ระบบฟาร์มที่เลี้ยงเพื่อกินเนื้อ แตกต่างจากจระเข้ที่เลี้ยงไว้เพื่อการอนุรักษ์ อยากให้คนไทยลองเปิดใจหันมากินโปรตีนจากเนื้อจระเข้ ไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพ ให้รสชาติคล้ายเนื้อไก่ สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย และสามารถแปรรูปได้หลากหลายเช่นกัน ราคาสามารถจับต้องได้”

สำหรับท่านใดที่สนใจเนื้อจระเข้สด และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากจระเข้ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสมศักดิ์ วัฒนมงคล หรือ เฮียสัก ชาตรี ฟาร์มจระเข้ เลขที่ 45 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 73000 โทรศัพท์ 087-046-9157 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก จำหน่ายเนื้อจระเข้ ลอกหนังแบบยกตัว – เฮียสักฟาร์ม

…………

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2565