ที่มา | เทคโนโลยีปศุสัตว์ |
---|---|
ผู้เขียน | ปิยพร วิสระพันธุ์ |
เผยแพร่ |
กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เลี้ยงง่าย สามารถแพร่พันธุ์ได้เร็ว มีประสิทธิภาพในการผลิตอาหารสูง และมีวงจรในการผลิตสั้น แม่กระต่าย 1 ตัว สามารถผลิตลูกให้เนื้อเทียบเท่าลูกวัว 1 ตัว ใน 1 ปี กระต่ายเป็นสัตว์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ทั้งเนื้อ หนัง และขน รวมทั้งเป็นสัตว์ที่ใช้ทดลองในงานวิจัยด้านต่างๆ กระต่ายที่เลี้ยงในปัจจุบันทั่วโลกมีหลายร้อยสายพันธุ์ หากแบ่งแยกประเภท สามารถแบ่งออกได้เป็นกระต่ายเนื้อ กระต่ายขน กระต่ายสวยงาม และกระต่ายใช้เป็นสัตว์ทดลอง

สำหรับคนไทย เมื่อพูดถึงกระต่ายทุกคนคุ้นเคยกับการเลี้ยงกระต่าย เพื่อเป็นเพื่อนยามเหงาหรือเพื่อความเพลิดเพลิน น้อยคนนักที่จะเลี้ยงกระต่ายเพื่อเอาเนื้อมาเป็นอาหารหรือการเอาหนังมาทำผลิตภัณฑ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลี้ยงกระต่ายสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการเลี้ยงดูเล่น ในต่างประเทศทั่วโลก หลายประเทศมีการเลี้ยงกระต่ายเพื่อการค้า ในการเอาเนื้อไปทำอาหาร เอาหนังและขนไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ

กระต่ายเป็นสัตว์ที่มีอัตราการให้เนื้อสูงเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์เศรษฐกิจชนิดอื่น ให้ลูกต่อครอกจำนวนมาก เฉลี่ย 8 ตัวต่อครอก ให้ลูกได้ถึง 10-11 ครอกต่อปี การตั้งท้องสั้น ประมาณ 1 เดือน และผสมพันธุ์ใหม่ได้เพียงไม่กี่วันหลังคลอด เนื้อกระต่ายมีความนุ่ม หนึบ ให้รสชาติที่โดดเด่น หรือมีความคล้ายคลึงกับไก่บ้าน มีมัดกล้ามเนื้อขนาดเล็ก เนื้อมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ สามารถนำไปประกอบอาหารคาวได้ทุกประเภท หากเปรียบเทียบคุณค่าทางอาหารของเนื้อกระต่าย 100 กรัม ให้พลังงานได้ถึง 102 กิโลแคลอรี โปรตีน 22.4 กรัม และมีไขมันเพียง 1.4 กรัม

ปัจจุบันเกษตรกรไทยมองเห็นความสำคัญ ประโยชน์ของกระต่ายมากขึ้น จึงเกิดการเลี้ยงกระต่ายเนื้อระบบฟาร์ม ทำให้วงการเลี้ยงกระต่ายของไทยมีการพัฒนามากกว่าที่เป็นอยู่แต่เดิม การเลี้ยงกระต่ายเนื้อสามารถสร้างอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักที่มีรายได้ดีได้ ไม่แตกต่างจากการเลี้ยงไก่หรือปลา ซึ่งสามารถเลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลินหรือเป็นอาหารได้ การนำเนื้อกระต่ายมาบริโภคเป็นอาหารในต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกานิยมบริโภคเนื้อกระต่ายอย่างมาก และประเทศฝรั่งเศสถือเป็นประเทศที่เกษตรกรเลี้ยงกระต่ายเนื้อเพื่อการค้าเป็นจำนวนมาก
คุณปิยะนัฐ ยาบุญ หรือ คุณนัฐ อายุ 30 ปี อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 6 บ้านสี่แยกเขาดิน ตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ และฟาร์มกระต่ายเนื้อ คุณปิยะนัฐ กล่าวว่า เริ่มจากเราเองมีอาชีพเป็นเกษตรกร ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ เป็นวิถีปกติอยู่แล้ว เรามีความคิดอยากต่อยอดจากสิ่งที่เรามี เมื่อเราพร้อมจึงเริ่มมองหาและศึกษาความต้องการของตลาดท้องถิ่นเพิ่มขึ้น

จนได้ข่าวสารการเลี้ยง “กระต่ายเนื้อ” จากสื่อออนไลน์ต่างๆ จึงได้เริ่มเข้าไปศึกษาความรู้จากแหล่งผู้เลี้ยงในพื้นที่ต่างๆ ทำให้เห็นความต้องการของตลาดในแต่ละพื้นที่ แต่ละตลาดที่แตกต่างกันไป จึงเริ่มหันมาสนใจพฤติกรรมของคนในท้องถิ่นและตลาดทั่วไป ทำให้เห็นว่าตลาดกระต่ายเนื้อมีโอกาสเติบโตได้เป็นอย่างมาก ประกอบกับความพร้อมของทรัพยากรที่เรามีอยู่แล้ว ทำให้ตัดสินใจเริ่มทดลองเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ในช่วงแรก หลังจากนั้นเราจึงเริ่มกำหนดสายพันธุ์และเกณฑ์ของกระต่ายเนื้อให้ชัดเจนมากขึ้น จนถึงปัจจุบัน ที่เราเริ่มการขยายฟาร์มเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง
หลายคนอาจเกิดคำถามว่าทำไมถึงเลือกเพาะเลี้ยงกระต่ายเนื้อ จริงๆ แล้วตลาดเนื้อทางเลือกมีความต้องการอีกเยอะมาก จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา มีเนื้อทางเลือกออกมาสู่ตลาดอย่างหลากหลาย เช่น เนื้อนกกระจอกเทศ เนื้อกบ เนื้อกวาง เนื้อจระเข้ หรือแม้แต่แมลงต่างๆ เป็นต้น แต่เนื้อเหล่านั้นอาจจะเป็นเนื้อทางเลือกในกระแสที่นิยมเฉพาะกลุ่ม เฉพาะช่วงเวลา แต่สำหรับเนื้อกระต่ายแล้ว มีการบริโภคมายาวนานมาก โดยเฉพาะในต่างประเทศ ไม่ว่าจะในยุโรปหรือแถบประเทศตะวันออกกลาง จะนิยมบริโภคเนื้อกระต่ายเป็นเมนูปกติของมื้ออาหาร ดังนั้น จึงมีการพัฒนาสายพันธุ์กระต่ายเนื้ออย่างจริงๆ จังๆ มายาวนาน

เราจึงได้พ่อแม่สายพันธุ์กระต่ายเนื้อจากมาเลเซีย และลูกผสมสายพันธุ์ยุโรปมาต่อยอดการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในตลาดบ้านเราเอง เนื้อกระต่ายมักจะได้รับความนิยมในกลุ่มคนชอบกินอาหารป่าเป็นส่วนมาก แต่ในความจริงมีอีกหลายกลุ่มที่ควรบริโภค เพราะเมื่อได้เห็นในคุณค่าทางโภชนาการของเนื้อกระต่ายแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเนื้อกระต่ายเป็นเนื้อคุณภาพสูงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เพราะมีไขมันที่ต่ำมาก แต่โปรตีนสูง ย่อยง่าย

ในการเลี้ยงกระต่ายเนื้อจะไม่มีการใช้สารเร่งโตหรือยาปฏิชีวนะในการเลี้ยง เนื้อกระต่ายจึงเป็นเนื้อที่มีคุณค่าทางอาหารและแร่ธาตุตามธรรมชาติสูงมาก ในปัจจุบันผู้บริโภคบางส่วนก็มีปัญหาในการเลือกบริโภคเนื้อกระต่าย เนื่องจากหาซื้อได้ยาก และมีจำหน่ายเฉพาะชุมชนบางพื้นที่ที่เพาะเลี้ยงเท่านั้น การกระจายตลาดยังไม่กว้างพอ จึงทำให้ความนิยมยังจำกัดอยู่เฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น

วิธีการจัดการและการดูแลภายในฟาร์ม คุณปิยะนัฐ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการดูแลกระต่ายเนื้อ คือเรื่องอาหาร เพราะกระต่ายจะค่อนข้างบอบบางต่ออาหารบางประเภทอย่างมาก อาหารในการเลี้ยงกระต่ายเกือบทั้งหมด จะคัดสายพันธุ์หญ้าที่มีประโยชน์ต่อกระต่าย โดยทางฟาร์มจะให้หญ้าขน เสริมด้วยผักชนิดต่างๆ ที่ทางฟาร์มปลูกเอง ปลอดภัยไร้สารเคมี ถือเป็นการลดต้นทุนทางอาหาร กระต่ายชื่นชอบกินเยอะก็ทำให้โตไวน้ำหนักดี การให้อาหารกระต่ายจะเป็นการให้อาหาร 2 มื้อต่อ 1 วัน ช่วงเช้า-เย็น ในส่วนของน้ำทางฟาร์มจะเดินสายยางให้น้ำในทุกๆ กรง กระต่ายสามารถดูดกินได้ตลอดเวลา

ทางฟาร์มจะเลี้ยงกระต่ายระบบฟาร์มเปิด โดยจะมีช่วงเวลาที่ปล่อยกระต่ายออกจากฟาร์มให้ได้เดินเล่นและสามารถกินหญ้าปลอดสารที่ปลูกไว้ภายในฟาร์ม ทำให้กระต่ายอารมณ์ดี กินอาหารได้เยอะและไม่เครียด หากกระต่ายเกิดความเครียดจะทำให้กัดกัน

ภายในฟาร์มต้องมีการถ่ายเทอากาศที่ดี มีกรงแยก 1 กรงต่อกระต่าย 1 ตัว ใต้กรงจะมีถาดรองขี้กระต่าย ทางฟาร์มจะมีการทำความสะอาดถาดรองในทุกๆ วัน และมีการล้างทำความสะอาดกรงภายในฟาร์มทุกๆ สัปดาห์ เพื่อป้องกันเชื้อโรค เพราะกระต่ายถือเป็นสัตว์ที่รักสะอาดอย่างมาก กระต่ายจะทำความสะอาดตัวเองด้วยลิ้นในทุกๆ วัน
ในช่วงฤดูฝนอาจก่อให้เกิดความชื้นที่มากเกินไปภายในฟาร์มในช่วงฝนตก โรงเรือนของฟาร์มจึงจะเป็นแบบกึ่งปิด จึงทำให้กระต่ายผ่อนคลายรู้สึกปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อโรคจากสัตว์อื่นหรือคนภายนอก

กระต่ายเป็นสัตว์ที่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและมีลูกดก สามารถออกลูกได้เฉลี่ยปีละ 4-5 ครอก ครอกละ 6-8 ตัว และแม่กระต่ายใช้เวลาอุ้มท้องเพียง 1 เดือนเท่านั้น เมื่อคลอดออกมาแล้วลูกกระต่ายจะกินแต่นมแม่ จนกระทั่งมีอายุครบ 30 วัน จึงสามารถกินอาหารทั่วไปได้ เมื่อกระต่ายมีอายุครบ 2 เดือนขึ้นไป ต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 2 กิโลกรัม ก็สามารถขายเนื้อได้แล้ว
ปัจจุบันฟาร์มกระต่ายเนื้อถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ดี มีตลาดรองรับและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ราคาของกระต่ายเนื้อทางฟาร์มสามารถกำหนดราคาได้เอง เป็นราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ สำหรับเนื้อกระต่ายเอง หากผู้บริโภคได้ลองแล้ว มั่นใจว่าจะถูกใจ เพราะมีรสชาติโดดเด่นระหว่างความเข้มหนึบคล้ายไก่บ้าน แต่เนื้อนุ่มละมุนเหมือนเนื้อไก่เลี้ยง ทำให้เป็นเนื้อทางเลือก

“หากครั้งแรกที่ได้บริโภคเนื้อกระต่ายแล้วปรุงไม่ถูกปาก อาจทำให้เกิดอคติกับเนื้อกระต่ายในระยะยาวได้ ดังนั้น ฟาร์มจึงมีบริการ “ปรุงตามสั่ง” โดย พ่อครัวบ๊อบ ที่จะจัดการปรุงเมนูเนื้อกระต่ายตามที่ลูกค้าต้องการ เมนูขายดี “ผัดเผ็ด”, “ทอดกระเทียม”, “ย่างจิ้มแจ่ว”, “ผัดเผ็ดกระต่ายสับ” (เหมือนนกสับ) เป็นต้น เมื่อรสชาติถูกใจผู้บริโภค ก็เกิดการซื้อซ้ำ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลรวมตัวญาติๆ จะมีการสั่งจองทั้งแบบนำกลับปรุงเองและสั่งปรุงหลายๆ เมนู ฟาร์มจะมีเนื้อกระต่ายรองรับไม่เพียงพอ ทำให้ลูกค้าต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนเลย”
สำหรับท่านใดที่สนใจกระต่ายเนื้อ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณปิยะนัฐ ยาบุญ (หรือคุณนัฐ) อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 6 บ้านสี่แยกเขาดิน ตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร 66150 โทรศัพท์ 085-087-1537
………………
เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2565.