วัวฝูงไล่ทุ่ง ยังอยู่ได้เพราะคัดสายพันธุ์ ขายปีละไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท

แม่วัวพื้นฐานในฝูงแต่ละตัวสวยงาม

สวัสดีครับ ฉบับนี้ตั้งใจพาไปดูวัวฝูงไล่ทุ่งของคุณลุงมากประสบการณ์ ไปดูว่าเขาทำอย่างไรจึงมีรายได้จากการขายวัวปีละ 500,000 บาทเลยทีเดียว ตามไปดูกันครับ

อยู่กับวัวมาทั้งชีวิต

พาท่านไปพบกับ คุณสมเดช สอนใจ ที่บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 4 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี คุณสมเดชทำอาชีพเลี้ยงวัวมานานกว่า 40 ปี ทุกวันนี้มีอาชีพเลี้ยงวัวเป็นหลัก “ผมเริ่มเลี้ยงวัวตั้งแต่ออกจากโรงเรียนมา เลี้ยงมาเรื่อยๆ จนวันนี้นานกว่า 40 ปีแล้ว ผมเลี้ยงวัวแบบไล่ทุ่งอย่างเดียวเพราะพื้นที่ในตำบลดอนเจดีย์เป็นที่ราบ ชาวบ้านใช้ทำนาเป็นหลัก พอหมดจากหน้านาก็จะปล่อยเป็นท้องทุ่งเวิ้งว้าง ผมก็อาศัยประโยชน์จากตรงนี้ไล่เลี้ยงวัวไปเรื่อยๆ หญ้าก็พอมีให้วัวกินได้ไม่ขาดแคลน ส่วนในฤดูทำนาก็ต้องออกหาหญ้าหรือซื้อต้นข้าวโพดมาให้วัวกินแทนการออกไปเลี้ยงไล่ทุ่ง” คุณสมเดช เริ่มต้นเล่าให้เราฟัง

คุณสมเดช สอนใจ

คัดพันธุ์สร้างฝูงวัวเนื้อสายพันธุ์ดี

คุณสมเดช เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมีวันนี้เขาต้องใช้ความพยายามไปไม่น้อย “ผมเลี้ยงวัวมาตั้งแต่เด็กก็พยายามมอง พยายามสังเกตว่าวัวที่ดี วัวที่สวยเป็นอย่างไร ก็พอจะบอกได้ว่า วัวเนื้อที่ดีต้องตัวใหญ่ เนื้อเยอะ สูง ยาว อ้วน ผมก็เลยเริ่มทำการคัดพันธุ์แม่วัวที่ผมมองแล้วว่าสวยเก็บไว้ในฝูง เมื่อก่อนผมเลี้ยงวัวพันธุ์ไทยเป็นส่วนมาก พอจะคัดพันธุ์ผมก็เลยเลือกเก็บแม่พันธุ์ไทยใหญ่เอาไว้ สังเกตตัวที่สูงใหญ่ให้ลูกดีเราก็เก็บไว้ ไปเจอแม่พันธุ์ตัวไหนถูกใจเราพอมีเงินก็จะซื้อมาเข้าฝูง แล้วผมก็จะใช้พ่อพันธุ์มาคุมฝูง คัดพ่อพันธุ์ที่หุ่นดี สูงใหญ่ เนื้อเยอะเข้ามาคุมฝูง อย่างตอนนี้ผมใช้พ่อพันธุ์ลูกผสมบรามันห์เข้ามาคุมฝูง ผมใช้ผสมจริงทั้งหมด ไม่เคยผสมเทียมเลย” ตอนนี้คุณสมเดชมีวัวทั้งหมด 57 ตัวที่มาจากการคัดแม่พันธุ์หุ่นดีเอาไว้เป็นเวลาต่อเนื่องนานกว่า 30 ปี 

แม่วัวพื้นฐานในฝูงแต่ละตัวสวยงาม

เลี้ยงทุกพันธุ์สนองทุกตลาดทุกความต้องการ

ในเรื่องของสายพันธุ์วัว คุณสมเดช บอกว่า “วัวเนื้อแต่ละพันธุ์ก็จะมีข้อดีข้อด้อยของตัวเอง ผมจึงเลือกจะเลี้ยงทุกสายพันธุ์ ไม่ว่าจะฮินดูหูยาว บรามันห์ ชาโรเลส์ ไปจนถึงลูกผสมที่ระบุพันธุ์ชัดเจนไม่ได้ ผมมีหมดขอให้หุ่นก้านดี เนื้อมาก เลี้ยงง่ายเป็นใช้ได้ แล้วผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนพ่อพันธุ์ต่างๆ เข้ามาคุมฝูง ใช้เวลา 3-4 ปีก็เปลี่ยนพ่อพันธุ์ บางทีก็ใช้พ่อพันธุ์ลูกผสมชาโรเลส์ บางช่วงก็พ่อพันธุ์ลูกผสมฮินดูที่หูยาวไม่มากนัก กล้ามเนื้อดีๆ หมุนเวียนกันไป แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้พ่อพันธุ์ลูกผสมบรามันห์ ตลาดเขาต้องการวัวสีแดง แต่ผมมองว่าวัวสีขาวจะโตเร็ว กล้ามเนื้อดี ผมก็เลยเก็บแม่พันธุ์เอาไว้ทั้ง 2 สี ใครมาถามหาซื้อผมก็มีขายทั้ง 2 สี”

ลูกวัวในฝูงชุดนี้กำลังอ้วนท้วนรอวันคัดขาย

เลี้ยงไล่ทุ่งยังอยู่ได้

อย่างที่บอกไปว่าในตำบลดอนเจดีย์เป็นที่ราบ ชาวบ้านใช้ทำนาเป็นหลัก พอหมดจากหน้านาก็ไม่ได้ทำการเกษตรอื่นๆ จึงยังเป็นช่องทางที่ดีของการเลี้ยงวัวไล่ทุ่ งคุณสมเดช บอกว่า “ผมจะปล่อยวัวออกมาเลี้ยงในทุ่งทุกวัน อาหารหลักของวัวคือหญ้า ในช่วงหน้าแล้งก็จะมีฟางเสริมให้บ้างในตอนเย็น ส่วนในช่วงหน้าฝนฤดูทำนาผมจะซื้อต้นข้าวโพด หาเกี่ยวหญ้าตามหัวคันนามาให้กิน ผมจะคัดวัวตัวผู้ที่อดนมแล้วออกขายปีละ 15-20 ตัว ราคาก็ตั้งไว้ที่ตัวละ 30,000 บาทขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน ปีหนึ่งผมจะขายวัวได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาททุกปี ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อนา ส่งลูกเรียนจนจบปริญญาก็เพราะวัวนี่แหละ”

นี่ก็แม่วัวพื้นฐาน สีเข้ม ตัวใหญ่หุ่นดี

วัวเนื้อในประเทศไทยลดลงเพราะอาหารสัตว์ขาดแคลน

ผมเคยเขียนเรื่องพื้นที่สาธารณะสำหรับเลี้ยงสัตว์จะหมดไป อาหารสัตว์จะขาดแคลน การปลูกหญ้าอาหารสัตว์จะเป็นช่องทางทำเงิน จนถึงวันนี้ผมว่าเรายิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเราขาดแคลนหญ้าอาหารสัตว์ (แต่พืชอาหารสัตว์ยังมีช่องทางอื่นๆ เช่น สิ่งเหลือใช้ทางการเกษตร ต้นข้าวโพด ฯลฯ) จากข้อมูลสถิติของกรมปศุสัตว์ (มีตัวเลขล่าสุดถึงปี พ.ศ. 2558)

จากข้อมูลทั้ง 2 กราฟนี้ จะเห็นว่าเมื่อจำนวนพื้นที่ทุ่งหญ้าสาธารณะลดลงมีผลให้จำนวนวัวเนื้อในประเทศไทยลดลงมาเรื่อยๆ จนมาสมดุลกันระหว่างจำนวนพื้นที่ทุ่งหญ้าสาธารณะกับจำนวนวัวเนื้อในช่วงปี 2556 เป็นต้นมา แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อดูที่จำนวนครัวเรือนเกษตรกรที่เลี้ยงวัวเนื้อกลับไม่ได้ลดลงเลย นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวเนื้อยังคงปักหลักตั้งใจอยู่ในอาชีพนี้ แต่มีปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยนั่นก็คือเรื่องของจำนวนพื้นที่ทุ่งหญ้าสาธารณะที่ลดลง ซึ่งหมายถึงหญ้าอาหารของวัวที่หากันได้ฟรีๆ ลดลง แต่เมื่อไปดูที่จำนวนพื้นที่ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ก็ไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2554 ก็ยิ่งส่งผลชัดว่าหญ้าอาหารสัตว์ขาดแคลน

ดังนั้น ในช่วงที่สินค้าเกษตรราคาแพง ทุ่งหญ้าสาธารณะลดน้อยลง การเลี้ยงวัวไล่ทุ่งหาของฟรีกินทำได้ยากลำบากขึ้น จะเลี้ยงไล่ทุ่งได้ก็จะต้องเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมจริงๆ อย่างในพื้นที่ของคุณสมเดช ในอนาคตใครก็ตามที่จะอยู่หรือจะเข้ามาในวงการวัวเนื้อบ้านเรา หากจัดการเรื่องหญ้าอาหารสัตว์ให้มีต้นทุนต่ำหรือหาของฟรีมาให้วัวกินได้มากเท่าไร กำไรก็จะมากขึ้นด้วย ใครสนใจอยากสอบถาม พูดคุยกับคุณสมเดช กริ๊งกร๊างไปได้ที่โทร. (086) 160-7236 หรือที่เบอร์ (087) 083-0571 ครับ ฉบับนี้ลากันไปก่อน สวัสดีครับ

 

เอกสารอ้างอิง

http://ict.dld.go.th/th2/index.php/th/report/447-report-thailand-livestock/reportservey2558-1/869-report-survey58