เกษตรกรนครปฐม เลี้ยงโคลูกผสมชาโรเลส์ อาชีพที่ทำด้วยใจรัก สร้างรายได้หลักแสนต่อปี

โคเป็นอีกหนึ่งสัตว์ที่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงกันมากขึ้น เพราะการเลี้ยงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากเหมือนที่เข้าใจกันแบบในสมัยก่อน โดยผู้เลี้ยงสามารถกำหนดการเลี้ยงจะสร้างโรงเรือนตามความต้องการได้ เช่น การเลี้ยงภายในบริเวณบ้านที่ใช้พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ หรือเกษตรกรบางรายเลี้ยงด้วยวิธียืนโรงเพียงอย่างเดียว ก็สามารถผลิตลูกโคเพื่อสร้างรายได้เป็นเงินสำหรับเลี้ยงครอบครัวได้

ซึ่งสายพันธุ์โคที่เกษตรกรเลือกเลี้ยงแต่ละรายจะมีความชอบที่แตกต่างไป โดยที่พื้นนิยมเลี้ยงโคที่เป็นเลือกเลือดแท้ เช่น โคพันธุ์อเมริกันบราห์มันเลือดร้อย หรือบางรายจะพัฒนาเพื่อให้เป็นโคที่สามารถทำเป็นโคสายพันธุ์อื่นก็จะเลือกโคลูกผสมพันธุ์ชาโรเลส์ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ มาพัฒนาสายพันธุ์ต่อเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ไปเป็นโคพันธุ์กำแพงแสน

คุณโสภณ ตาก้อง เจ้าของฟาร์มโค ตั้งอยู่ที่ ตำบลทุ่งบัว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เป็นเกษตรกรที่เลือกเลี้ยงโคลูกผสมชาโรเลส์ เพราะราคาในการซื้อขายอยู่ในระดับที่เขาสามารถทำเรื่องการตลาดได้ และที่สำคัญยังสามารถพัฒนาเป็นโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสนได้อีกด้วย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

ชีวิตผูกพัน กับการเลี้ยงโคมาตั้งแต่เด็ก

คุณโสภณ เล่าให้ฟังว่า ทางครอบครัวเริ่มแรกเดิมทีก็มีอาชีพเลี้ยงโคมาตั้งแต่เขายังเด็ก แต่เป็นโคนมที่เลี้ยงเพื่อรีดน้ำนมดิบส่งขายให้กับแหล่งรับซื้อ ต่อมาคุณพ่อคุณแม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพเพราะการเลี้ยงโคนมต้องมีเวลาทุกวันในการรีดนม จึงทำให้มองว่าการเลี้ยงโคนมอาจจะเป็นอาชีพที่ยังไม่ใช่คำตอบ ต่อมาจึงได้หาซื้อโคเนื้อมาเลี้ยงทดแทนโคนม เพราะโคเนื้อไม่ต้องใช้เวลาดูแลทุกวัน ก็สามารถเจริญเติบโตและสร้างเงินให้กับเขาได้

คุณโสภณ ตาก้อง และคุณพ่อคุณแม่ พร้อมกับโคพันธุ์กำแพงแสนที่ประกวดได้รางวัล

“เรื่องโคนี่บอกเลยว่าผมชอบมาตั้งแต่เด็ก เราเห็นจากพ่อแม่เลี้ยงโคนม เสร็จแล้วก็เปลี่ยนมาเลี้ยงโคเนื้อ ผมก็ได้เลี้ยงและได้สัมผัสมากขึ้น จึงเกิดความชอบและอยากจะเลี้ยงจริงจัง แต่ด้วยความที่เรายังโตไม่พอต้องไปโรงเรียนทุกวัน ช่วงนั้นก็จะอาศัยว่างจากกลับจากโรงเรียน และวันหยุดเสาร์อาทิตย์เพื่อมาช่วยที่บ้านเลี้ยง เสร็จแล้วพอจบการศึกษาผมก็ไม่ไปทำงานที่ไหนเลย มายึดการเลี้ยงโคเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับตัวเอง” คุณโสภณ เล่าถึงที่มา

ซึ่งอาชีพเลี้ยงโคจึงเป็นสิ่งที่อยู่กับครอบครัวของเขามานานถึง 20 กว่าปี และเมื่อมาถึงช่วงรุ่นเขาที่ต้องสืบทอดอาชีพนี้ต่อ ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเลี้ยงโคเนื้อเป็นสายพันธุ์ลูกผสมชาโรเลส์เป็นส่วนใหญ่ โดยเน้นผสมเทียมเพื่อพัฒนาและผลิตลูกโคส่งขายให้กับลูกค้ารายอื่นๆ ที่สนใจต่อไป

 

ชาโรเลส์เลือด 75 เปอร์เซ็นต์ เลี้ยงได้ดีในสภาพแวดล้อมเมืองไทย

เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศที่อุณหภูมิค่อนข้างร้อน คุณโสภณ บอกว่า จึงนิยมผสมให้โคพันธุ์ชาโรเลส์มีสายเลือดอยู่ที่ 50-75 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่เน้นให้เป็นเลือดร้อยเพราะจะทำให้ทนต่อสภาพแวดล้อมในไทยได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งโคที่เขาเลี้ยงส่วนใหญ่จะเลี้ยงแบบระบบยืนโรง คือหาอาหารให้โคกินเป็นเวลา ในพื้นที่เลี้ยงประมาณ 1 ไร่

“พื้นที่บริเวณบ้านจริงๆ ผมก็มีเนื้อที่อยู่ 2 ไร่ แบ่งเป็นโรงเรือนสำหรับให้โคอยู่ประมาณ 1 ไร่ ส่วนที่เหลือก็จะปลูกหญ้าเนเปียร์สำหรับตัดให้โคกิน ซึ่งภายในฟาร์มผมตอนนี้มีโคทั้งหมดประมาณ 50 ตัว จะเป็นโคลูกผสมชาโรเลส์ และเป็นโคพันธุ์กำแพงแสนเป็นหลัก โดยที่ฟาร์มจะเลี้ยงแต่แม่พันธุ์อย่างเดียว และทำการผสมพันธุ์เมื่อแม่พันธุ์ได้อายุที่เหมาะสม เพื่อผลิตลูกออกมา” คุณโสภณ บอก

แม่โคพันธุ์ชาโรเลส์ที่พร้อมผสมพันธุ์ได้ คุณโสภณ บอกว่า จะเลี้ยงให้มีอายุอย่างต่ำ 18 เดือนขึ้นไป จากนั้นนำน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ที่ติดต่อซื้อไว้ตามแหล่งต่างๆ มาผสมเข้ากับแม่พันธุ์ที่เตรียมไว้ เมื่อทำการผสมเทียมจนตั้งท้องใช้เวลาประมาณ 9 เดือน แม่โคก็จะคลอดลูก

ลูกโคที่ออกมาจากท้องแม่ใหม่ๆ คุณโสภณ บอกว่า จะทำการฉีดธาตุเหล็กเข้ามาเสริมให้กับลูกโค เพื่อให้ลูกโคมีความแข็งแรงมากขึ้น ในช่วงแรกจะปล่อยให้ลูกโคกินนมเป็นหลัก ส่วนแม่โคก็จะบำรุงด้วยอาหารข้นวันละ 2 กิโลกรัม ต่อตัว พร้อมทั้งเสริมด้วยหญ้าเนเปียร์อีกวันละ 17 กระสอบ พร้อมทั้งฟางข้าวให้กินตลอดทั้งวัน

เมื่อลูกโคโตเข้าสู่เดือนที่ 5 หากช่วงนั้นมีลูกค้าสนใจติดต่อขอซื้อ คุณโสภณ บอกว่า จะสามารถขายได้ทันที อยู่ที่ความชื่นชอบและพึงพอใจของลูกค้า หรือลูกค้าบางรายติดต่อซื้อตั้งแต่ลูกโคได้อายุอยู่ที่ 1 เดือนก็มี ซึ่งราคาขายอยู่ที่ความสวยของโคเป็นหลัก

“ในเรื่องของการป้องกันโรค ที่ฟาร์มผมจะทำวัคซีนปีละ 1 ครั้ง เหตุที่ไม่ต้องทำถึงปีละ 2 ครั้ง เพราะบริเวณพื้นที่โรงเรือนผมจะโรยด้วยปูนขาวและพ่นยาฆ่าเชื้อเป็นระยะ ดูแลบริเวณโรงเรือนให้สะอาด ก็จะช่วยในเรื่องของการสะสมของเชื้อโรคได้ ก็ถือว่าโคในฟาร์มของเราแม้จะเลี้ยงแบบยืนโรง แต่โคทุกตัวก็มีความแข็งแรงและสุขภาพดี ไม่มีเรื่องอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น ดังนั้น การดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในโรงเรือนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน” คุณโสภณ บอกถึงวิธีการดูแลโค

หญ้าเนเปียร์ให้โคกิน

ราคาโคขึ้นอยู่กับความสวย และลักษณะรูปทรง

ในเรื่องของการตลาดขายโคนั้น คุณโสภณ บอกว่า ไม่มีความกังวลเพราะได้ศึกษาและเรียนรู้อยู่เสมอ และที่สำคัญช่องทางการจำหน่ายยังมีมากขึ้นหลากหลายช่องทาง เช่น เฟซบุ๊ก หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ โดยที่ลูกค้าสามารถเห็นโคและการเลี้ยงด้วยวิธีต่างๆ ได้จากภาพถ่ายที่เขาลงไว้ จึงเป็นการช่วยตัดสินใจในเรื่องของการซื้อและต่อรองราคาได้เวลามีลูกค้ามาติดต่อซื้อ

“ลูกค้าที่มาติดต่อซื้อโคในฟาร์มผม ก็มีความต้องการนำไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน บางท่านก็ซื้อตัวเมียไปทำเป็นแม่พันธุ์ บางท่านก็ซื้อพ่อพันธุ์ไปเพื่อผสมพันธุ์ อย่างราคาตัวเมียที่ฟาร์มอายุ 6 เดือน ราคาก็จะอยู่ที่ 50,000-60,000 บาท ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับความสวยของโคด้วยว่าสวยมากสวยน้อย ซึ่งการขายโคก็สามารถกำหนดราคาได้ ดังนั้น โคจึงยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถทำรายได้ที่ดี” คุณโสภณ เล่าเรื่องการตลาด

โดยใน 1 ปี ฟาร์มของเขาสามารถผลิตลูกโคได้หลายสิบตัว จึงสามารถทำเงินได้เป็นหลักแสนต่อปี และที่สำคัญมูลโคที่อยู่ภายในคอกยังสามารถนำมาตากให้แห้ง เพื่อนำไปใช้ใส่ในแปลงปลูกหญ้าเนเปียร์และบางส่วนก็ขายให้กับเกษตรกรที่สนใจซื้อไปใส่ในแปลงทางการเกษตร

ทุกวันนี้ในเรื่องของการได้เลี้ยงโคเพื่อเป็นอาชีพนั้น คุณโสภณ บอกว่า รู้สึกมีความสุขในทุกๆ วัน เพราะเป็นคนรักอิสระไม่ต้องเข้างานเป็นเวลา การเลี้ยงโคจึงเป็นสิ่งที่เขาชอบและเห็นมาตั้งแต่เด็ก จึงเกิดความรักและความผูกพันกับโคทุกตัวที่เลี้ยง และเหนือสิ่งอื่นใดได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ไม่ต้องจากบ้านไปไกล จึงทำให้เขาเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้และทำให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณโสภณ ตาก้อง หมายเลขโทรศัพท์ (083) 311-4539 

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปี (24 ฉบับ) ลดราคาทันที 15% พร้อมแถมฟรีอีก1เดือน สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่