เกษตรกรกาญจนบุรีเลี้ยงแพะเพราะใจรัก เป็นอาชีพทำเงินมาเกือบ 10 ปี

ความฝันเป็นสิ่งที่หลายๆ คน มีด้วยกันทุกคน อาจจะเป็นความฝันในวัยเด็ก และเมื่อโตขึ้นจึงได้เลือกเรียนและประกอบอาชีพได้ดังใจตนเอง หรือเรียกได้ว่าการทำชีวิตจริงให้เป็นไปตามความฝันนั้นเอง ทำให้อาชีพที่ดำเนินอยู่เป็นสิ่งที่ทำด้วยใจรัก จึงส่งผลทำให้ผลงานออกมาประสบผลสำเร็จ

คุณสนธยา ทรัพย์ประเสริฐ อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ได้ประกอบอาชีพทางด้านปศุสัตว์ตามความฝันของเขา ถึงขนาดที่ว่าเมื่อเรียนจบการศึกษาแล้ว ไม่ได้มุ่งสู่เมืองใหญ่เพื่อทดลองสายงานทางด้านอื่น แต่กลับมาสร้างฟาร์มเลี้ยงแพะอย่างตั้งใจมุ่งมั่น จนเกิดเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

คุณสนธยา ทรัพย์ประเสริฐ

รักอาชีพทางด้านปศุสัตว์

คุณสนธยา เล่าให้ฟังว่า เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ได้มาทำฟาร์มเลี้ยงแพะอย่างเต็มตัว ซึ่งในช่วงที่เขาเรียนอยู่นั้นก็ได้เลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว แต่มีจำนวนที่ไม่มากเพราะยังไม่มีเวลาดูแล หลังจบการศึกษาจึงได้ลงมือทำอย่างจริงจัง และที่สำคัญการเลี้ยงแพะเป็นอาชีพตามความฝันที่เขาอยากทำมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เรียนรู้และหาประสบการณ์เลี้ยงด้วยตนเอง ลองผิดลองถูกจนประสบผลสำเร็จมาถึงปัจจุบัน

แปลงหญ้าที่ปลูกไว้

“พอเรียนจบผมก็มาทำฟาร์มแพะเลย เพราะคิดว่าอยากจะเป็นนายตัวเอง ไม่ชอบที่จะเข้าไปทำงานในระบบที่เป็นลูกน้องคนอื่น จึงได้นำสิ่งที่เราฝันมาตลอด มาลงมือทำ เพราะช่วงที่ยังไม่ได้เรียนจบก็ได้นำแพะมาทดลองเลี้ยงด้วย แต่เป็นจำนวนไม่มาก เหมือนเป็นการศึกษาอุปนิสัยของแพะไปด้วยในตัว ก็ทำให้เรามีความชำนาญและรู้ถึงปัญหาต่างๆ และเมื่อเลี้ยงประสบผลสำเร็จและทุกอย่างเอื้ออำนวย จึงเริ่มมาทำฟาร์มอย่างจริงจังในปี 2552” คุณสนธยา เล่าถึงที่มาของการเลี้ยงแพะ

ในช่วงแรกลูกพันธุ์แพะที่นำมาเลี้ยง คุณสนธยา บอกว่า เป็นพันธุ์ที่หาซื้อทั่วไปตามเกษตรกรรายอื่นที่เลี้ยงไว้ โดยยังไม่ได้คำนึงถึงสายพันธุ์และวิธีการให้อาหารมากนัก จะเน้นไปหาอาหารตามแหล่งชุมชนเพื่อมาให้แพะกิน ต่อมาเมื่อเห็นว่าเรื่องอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเลี้ยงแพะไม่น้อย จึงได้แบ่งพื้นที่บางส่วนปลูกแปลงหญ้าเองสร้างอาหารไว้ให้แพะกิน

พื้นที่ภายในโรงเรือนนอน

จัดการระบบฟาร์มดี

แพะแข็งแรงมีคุณภาพ

แพะที่เลี้ยงอยู่ภายในฟาร์มทั้งหมดเป็นแพะแม่พันธุ์ประมาณ 100 ตัว พร้อมทั้งมีการนำพ่อพันธุ์ที่สายเลือดสูงๆ มาทำการผสมกับแม่พันธุ์ที่มีอยู่ภายในฟาร์ม โดยโรงเรือนสำหรับเลี้ยงแพะทำเป็นแบบยกพื้นสูง 1.50 เมตร ให้มีใต้ถุนเพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาด ส่วนบริเวณคอกและตัวโรงเรือนจะทำให้มีลักษณะโปร่งมีแสงและอากาศเข้าถึงถ่ายเทได้สะดวก

“แพะผมจะปล่อยให้อยู่ในคอก 1 ตัว ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร และมีการแบ่งแปลงบางส่วนเพื่อให้แพะได้ออกจากคอกมาวิ่งเล่น และปล่อยกินหญ้าภายในแปลงที่เราปลูกไว้ พอตัวเมียที่เลี้ยงได้อายุประมาณ 1 ปี ก็จะนำมาผสมพันธุ์กับพ่อพันธุ์ที่เตรียมไว้ จากนั้นดูแลช่วงตั้งท้องประมาณ 5 เดือนหลังผสมพันธุ์ติด เมื่อใกล้ออกลูกเราก็จะปล่อยให้อยู่ในคอก ปล่อยให้ออกลูกเองตามธรรมชาติ แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติเราก็จะช่วยทำคลอดให้ด้วยอีกแรง” คุณสนธยา บอก

คอกสำหรับให้แม่แพะเลี้ยงลูก

ลูกแพะหลังคลอดจะบังคับให้กินน้ำนมเหลืองจากแม่แพะสร้างภูมิต้านทาน และปล่อยให้แม่แพะเลี้ยงลูกเอง ส่วนตัวไหนที่เลี้ยงลูกได้ไม่เก่ง จะเข้าไปช่วยเลี้ยงด้วยอีกแรง โดยอาหารที่ใช้บำรุงแม่พันธุ์เป็นอาหารข้นที่มีโปรตีน 16 เปอร์เซ็นต์ เสริมให้กินช่วงเช้าในระยะให้นมและอุ้มท้อง ซึ่งการเลี้ยงแพะต่อวันจะให้อาหารหยาบและเสริมด้วยอาหารข้นเล็กน้อย ต่อวันอยู่ที่ 3 กิโลกรัม ต่อตัว

การป้องกันโรคที่จะเกิดกับแพะ คุณสนธยา บอกว่า จะทำวัคซีนให้กับแพะที่อยู่ภายในฟาร์มปีละ 2 ครั้ง ช่วงแรกในเดือนมกราคมและช่วงที่สองเดือนมิถุนายน โดยป้องกันอย่างเป็นระบบ มีตารางการทำวัคซีนที่แน่นอน ส่วนลูกแพะที่เกิดใหม่ๆ เลี้ยงให้มีอายุ 2-3 เดือนแล้วจึงเริ่มทำวัคซีน และช่วงที่เป็นอันตรายต้องป้องกันให้ดีสำหรับการเลี้ยงแพะ คือช่วงฤดูฝนมีการระบาดของพยาธิ ป้องกันด้วยการฉีดยาถ่ายพยาธิทุก 21 วันครั้ง เป็นเวลา 3 ครั้ง จากนั้นทิ้งช่วงอีก 3 เดือน ทำแบบนี้หมุนเวียนไป ก็จะช่วยป้องกันในเรื่องของพยาธิได้เป็นอย่างดี

พื้นที่ภายในฟาร์ม

ลูกค้าติดต่อซื้อแพะถึงหน้าฟาร์ม

ในเรื่องของการตลาดเพื่อขายแพะนั้น คุณสนธยา บอกว่า ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่มีเรื่องล้นตลาด แต่จะมีพ่อค้าเข้ามาติดต่อขอซื้อเองถึงที่ฟาร์ม โดยที่เขาไม่ต้องไปหาตลาดหรือติดต่อให้พ่อค้าเข้ามารับซื้อ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าบอกกันไปปากต่อปาก จนบางช่วงผลิตแพะไม่ทันขายเลยทีเดียว

“พอเราเลี้ยงดูแลลูกแพะได้อายุ 3 เดือน ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่เริ่มหย่านมจากแม่ได้แล้ว จากนั้นเราแยกลูกออกมา ขุนเลี้ยงดูต่อไปอีกประมาณ 2 เดือน ลูกแพะก็จะได้อายุประมาณ 5 เดือน น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 30 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งในช่วงนี้เราก็สามารถขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อได้ โดยการขายก็จะเป็นรอบๆ ทางผมสามารถเป็นผู้กำหนดราคาเองได้ เมื่อลูกค้ามารับซื้อที่เราก็ซื้อได้แบบจำนวนมาก ไม่ต้องไปหาที่ไหนอีก ก็เป็นการทำการค้าแบบต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจ และต้องการทำตลาดกับฟาร์มของเรา” คุณสนธยา บอก

พ่อพันธุ์สำหรับใช้ผสมกับแม่พันธุ์ภายในฟาร์ม

ราคาขายแพะตัวผู้และตัวเมียที่ไม่สามารถเป็นแม่พันธุ์ได้ จะขายนำไปชำแหละเนื้อซึ่งแพะมีน้ำหนักตั้งแต่ 30 กิโลกรัมขึ้นไป ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 135 บาท ส่วนตัวเมียและตัวผู้ที่มีทรงสวยนำไปเป็นแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์ขายทดแทน ขายราคาตั้งแต่ตัวละ 4,500 ขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นบาท โดยราคาสามารถขึ้นลงได้ตามความสวยของแพะตัวนั้นๆ

เทคนิคการเลี้ยงแพะให้ประสบผลสำเร็จและได้กำไรนั้น คุณสนธยา แนะนำว่า ควรมีการประหยัดต้นทุนในเรื่องของอาหาร อย่างเช่น ถ้ามีพื้นที่ไม่มาก แต่ต้องการเลี้ยงแพะควรหาหญ้าและอาหารหยาบอื่นๆ นำมาหมักเก็บสะสมไว้ ก็จะเป็นการช่วยให้แพะมีอาหารกินได้ตลอด โดยที่ไม่ต้องซื้อหรือหาอาหารวันต่อวัน จะเป็นการประหยัดต้นทุนและเวลาให้กับผู้เลี้ยงได้อีกหนึ่งช่องทาง

คุณสนธยา ทรัพย์ประเสริฐ และภรรยา

“ทุกวันนี้การเลี้ยงแพะสำหรับผม ตลาดยังถือว่าไปได้อีกไกล เพราะตั้งแต่ผมเลี้ยงมาเกือบ 10 ปี ตลาดก็ยังไม่เห็นมีทางตัน เพราะการบริโภคเนื้อแพะ ยังมีความต้องการอยู่ มีการส่งออกเนื้อไปยังต่างประเทศ ซึ่งการเลี้ยงสำหรับผมมองว่าคนที่จะเริ่มใหม่ ก็อยากให้ศึกษาอุปนิสัยของแพะให้ดี พอเราเข้าใจในเรื่องต่างๆ มีการจัดการระบบฟาร์มที่ดี ยังไงก็ประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน” คุณสนธยา แนะนำ

สำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องการเลี้ยงแพะ สามารถเข้าศึกษาดูงานได้ที่ฟาร์มแห่งนี้ คุณสนธยา ทรัพย์ประเสริฐ บอกว่า ยินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอนการเลี้ยงแบบไม่มีหวงวิชากันเลยทีเดียว ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ (092) 338-0659

เผยแพร่ครั้งแรก