‘ไก่งวงตักสิลา’ เลี้ยงง่าย-รายได้งาม เมนูแซ่บนัว ‘เมืองสารคาม’

ไก่งวง เป็นสัตว์ปีก จัดอยู่ในวงไก่ฟ้าและนกกระทา ในต่างประเทศชาวคริสต์นิยมรับประทานในวันขอบคุณพระเจ้า ไก่งวงมีขนาดใหญ่กว่าไก่ทั่วไป หน้าตาผิดแผกไปจากไก่พื้นบ้าน ปัจจุบัน มีการส่งเสริมการเลี้ยงไก่งวงในภาคอีสาน ว่ากันว่า เริ่มแรกไก่งวงเข้ามาในประเทศไทยโดยทหารอเมริกันเข้ามาประจำในฐานทัพที่ จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา

ปัจจุบัน เกษตรกรนิยมเลี้ยงไก่งวง 3 สายพันธุ์หลัก คือ พันธุ์เบลท์สวิลล์ สมอล ไวท์ (Beltsville Small White) พันธุ์อเมริกัน บรอนซ์ (American Bronze) และไก่งวงลูกผสม (Crossbred) เกษตรกรได้รับการส่งเสริมการเลี้ยงไก่งวงอย่างแพร่หลาย ปัจจุบัน จังหวัดมหาสารคาม ถือเป็นแหล่งผลิตพ่อแม่พันธุ์ไก่งวงที่ดีที่สุดของประเทศ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการปศุสัตว์ที่ 4 ได้สนับสนุนการเลี้ยงและพัฒนาแม่พันธุ์ไก่งวงตัวใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “ไก่งวงเมืองตักสิลา” เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม

“ไก่งวงเมืองตักสิลา” กลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีรายได้เพิ่มขึ้น จนสามารถจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในเวลาต่อมา ไก่งวงเมืองตักสิลา เน้นเลี้ยงในวิถีธรรมชาติ เนื้อของไก่งวงจะมีสีแดงน่ารับประทาน ที่สำคัญไก่งวงมีขนาดใหญ่กว่าไก่พื้นบ้าน ไก่งวง 1 ตัว สามารถประกอบอาหารได้หลายอย่าง ทั้งราคาขายถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง นอกจากนำมาเป็นอาหารแล้ว ยังสามารถเลี้ยงเพื่อความสวยงามด้วย

จากการสำรวจพบรูปแบบการเลี้ยงไก่งวง 6 ตัว ที่ประกอบด้วย พ่อพันธุ์ 1 ตัว และแม่พันธุ์ 5 ตัว ภายใต้ระบบการจัดการและใช้อาหารในระบบธรรมชาติ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ย 3,850 บาท ต่อเดือน หรือ 46,200 บาท ต่อปี หรือมีต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ย 325 บาท ต่อตัว ขณะที่สามารถจำหน่ายในราคาเฉลี่ย 720 บาท ต่อตัว

ไก่งวง ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจทางเลือกให้เกษตรกร เพราะนอกจากให้ผลผลิตเนื้อคุณภาพดี มีโปรตีนสูง และคอเลสเตอรอลต่ำแล้ว ยังสามารถปรุงอาหารได้เช่นเดียวกับเนื้อไก่เป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภคเฉพาะที่มีกำลังซื้อสูง (Niche Market) ที่สำคัญ ไก่งวง เป็นสัตว์เลี้ยงง่าย สามารถปล่อยให้หาอาหารกินตามธรรมชาติได้ สามารถกินพืชหรือวัสดุในท้องถิ่นได้หลากหลาย เช่น ผักตบชวา หญ้า และเศษพืชผักสวนครัว เป็นต้น

จังหวัดมหาสารคาม มีเกษตรกรเลี้ยงไก่งวง 214 ราย มีปริมาณไก่งวงรวม 3,631 ตัว กระจายอยู่ในพื้นที่ 10 อำเภอ คือ เมืองมหาสารคาม กุดรัง พยัคฆภูมิพิสัย กันทรวิชัย โกสุมพิสัย ชื่นชม วาปีปทุม แกดำ ยางสี สุราช และ อ.บรบือ แบ่งเป็นไก่งวงสายพันธุ์ 303 ตัว แม่พันธุ์ 1,220 ตัว และขนาดอื่นๆ 2,108 ตัว ประมาณการผลิตไก่งวงในพื้นที่ จากแม่พันธุ์ 1,220 ตัว

ในหนึ่งปีจะออกไข่ 3 รุ่น รุ่นละ 14 ฟอง อัตราการฟัก 78% คิดเป็น 42,822 ตัว ต่อปี อัตราการตาย 5% คิดเป็น 2,141 ตัว คงเหลือ 40,822 ตัว ต่อปี สามารถจำหน่ายลูกไก่งวงอายุ 8 สัปดาห์ ได้ราคาตัวละ 200 บาท คิดเป็นเงิน 8,136,200 บาท หักต้นทุนตัวละ 89.88 บาท จะมีกำไรจากการขายลูกไก่งวง 4,479,792 บาท

ซึ่งในกรณีที่ไม่ต้องการลูกไก่ สามารถนำไข่มาประกอบอาหารหรือจำหน่ายได้อีก ซึ่งไก่งวงจะมีอายุพร้อมขายได้ระยะ 7-8 เดือน น้ำหนักตัวเฉลี่ยตัวละประมาณ 5 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 150 บาท

ปัจจุบัน ไก่งวง สามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายเมนู เช่น ไก่งวงรมควัน ลาบไก่งวง สเต๊กไก่งวง ก๋วยเตี๋ยวไก่งวง ซึ่งจังหวัดมหาสารคามได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในจังหวัด ใช้เนื้อไก่งวงเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารจำหน่ายให้กับลูกค้า โดยจังหวัดได้มีการมอบป้ายประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Q ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนับสนุนการใช้เนื้อและผลิตภัณฑ์ไก่งวง เพื่อประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่ผ่านการรับรอง โดยเลือกใช้วัตถุดิบจากสินค้า Q หรือจากฟาร์ม GAP ที่มีความปลอดภัย หรือใช้ผลผลิตที่เกิดจากผู้ผลิตรับรองว่าผลิตโดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด สำหรับร้านที่ผ่านการรับรองจากการเลือกใช้วัตถุดิบจากสินค้า Q ประเภทเมนูไก่งวง ได้แก่ ร้านกำชัย ร้านครัวบุญมี สาขา 1 และ สาขา 2 ร้านเฮือนพาแซ่บ ร้านครัวเฟื่องฟ้า ร้านบ้านร้อยดวงใจ ร้านอาหารศิลาดล และสถาบันสอนการประกอบอาหารไทยและยุโรป คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรมมหาวิทยาลัยมหาสารคามร้านโมบายสเต็ก ฯลฯ

ผู้สนใจอาชีพการเลี้ยงไก่งวง สามารถติดต่อขอคำแนะนำการเลี้ยงได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการปศุสัตว์ที่ 4 กองส่งเสริมและพัฒนาการสัตว์ กรมปศุสัตว์ ถนนมหาสารคาม-วาปีปทุม ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม โทรสอบถามที่ 0-4377-7600 หรือหากประชาชนสนใจชิมรสชาติ “ไก่งวงตักสิลา” หรือต้องการซื้อบริโภค สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ ร้าน Q-Shop ตั้งอยู่ติดถนนบริเวณเดียวกับที่ตั้งสำนักงาน นอกจากมีไก่งวงเกรดพรีเมี่ยมแล้ว ยังมีสินค้าเกษตรหลากหลายชนิด เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ผัก ผลไม้ตามฤดูกาล และข้าวหอมมะลิ ผลผลิตทางการเกษตรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย