ใช้ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผัก เลี้ยงไก่แบบปล่อยลาน เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ครอบครัวก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบ

ทางเดินชีวิต…สู่แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

คุณจำเนียร กาญจนพรหม 107/1 หมู่ที่ 12 บ้านหนำควาย ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92190

%e0%b8%88%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3

เดิมคุณจำเนียร เติบโตในครอบครัวเกษตรกรที่ทำสวนยางพารา ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงโค กระบือ สุกร เป็ด และไก่ เมื่อจบการศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้สืบทอดอาชีพของครอบครัวมาโดยตลอด ต่อมาได้สมรสกับ คุณวิรัตน์ กาญจนพรหม ซึ่งเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง จังหวัดตรัง จึงทำหน้าที่แม่บ้าน ทำสวนยางพารา และเลี้ยงสัตว์เป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยมีเป้าหมายหลักคือให้ครอบครัวอยู่อย่างเป็นสุข การทำอาชีพเสริมของครอบครัว เพื่อมุ่งเน้นให้บุคคลในครอบครัวมีกิจกรรมทำร่วมกัน คุณจำเนียรมีเป้าหมายคือ ต้องการให้บุตรของตนเองสืบทอดอาชีพเกษตรกรรมสืบไป โดยดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้ปรับพื้นที่สวนยางพาราเป็นพื้นที่การเกษตรแบบครัวเรือน โดยแบ่งออกเป็น 4

กิจกรรมหลัก ดังนี้

1.การปลูกพืชผักสวนครัว เน้นผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ และเพาะเห็ดฟาง

2.เลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ สุกร และโค

3.ด้านประมง มีการเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก และ

4.การจัดการด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเอามูลเป็ด ไก่ โค สุกร มาหมักกับหญ้าทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ

จากการทำการเกษตรที่ให้ความสำคัญกับ 4 กิจกรรมดังกล่าว ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของกันและกันว่า เมื่อมีการเลี้ยงสัตว์ย่อมต้องมีมูลสัตว์ เมื่อนำมูลสัตว์มาผสมกับเศษหญ้าที่ผ่านการตัดแต่งภายในสวนมาทำเป็นปุ๋ยชีวภาพทั้งชนิดแห้งและชนิดน้ำ โดยชนิดแห้งจะนำไปใส่ในแปลงเกษตร และชนิดน้ำจะนำไปใส่ในบ่อปลาดุกที่เลี้ยงไว้ช่วยให้น้ำไม่เน่าเสีย นอกจากนี้ ยังนำเศษไม้ภายในสวนมาเผาถ่าน ควันจากการเผาถ่านได้เข้าสู่กรรมวิธีกลั่นเป็นน้ำส้มควันไม้เพื่อใช้เป็นสารไล่แมลง และการปลูกเห็ดฟางในพื้นที่ว่าง ทำให้ได้ผลผลิตสำหรับบริโภคในครัวเรือน ส่วนที่เหลือแจกจ่ายและจำหน่ายให้กับเพื่อนบ้าน

รูปแบบกิจกรรมทางการเกษตร

คุณจำเนียร ได้ดำเนินทำกิจกรรมการเกษตรแบบผสมผสาน โดยมีความโดดเด่นในเรื่อง การเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยลาน ซึ่งมีขั้นตอนการเลี้ยง ดังนี้ 1. เตรียมเล้าไก่ โดยโรยปูนขาวที่พื้นของเล้าไก่เพื่อฆ่าเชื้อ และโรยแกลบทับที่พื้นเล้า หนาประมาณ 6 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ไก่มีแผล พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพที่พื้นเล้า ในอัตราส่วนน้ำหมักชีวภาพ 1 แก้ว ผสมน้ำ 1 ปี๊บ เพื่อฆ่าเชื้ออีกครั้ง และปล่อยทิ้งไว้ 10 วัน จึงนำแม่ไก่ไข่ใส่ในเล้า 2. เลี้ยงไก่ไข่ด้วยอาหารสำเร็จรูป และเสริมด้วยหยวกกล้วยผสมรำ สำหรับน้ำที่ให้ไก่กินนั้น ให้ผสมน้ำหมักชีวภาพในสัดส่วนประมาณ 1 ช้อน ต่อน้ำ 1 ถังเล็ก เพื่อช่วยให้ไก่ไข่แข็งแรง ทนทาน มีภูมิคุ้มกัน และให้ไข่ใบใหญ่ สามารถให้ไข่จนกระทั่งอายุประมาณ 1 ปี สำหรับการทำน้ำหมักชีวภาพให้ผสมเศษผักและผลไม้ 3 กิโลกรัม กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม หัวเชื้อน้ำหมัก 1 แก้ว น้ำ 10 ลิตร แล้วหมักในถัง ขนาด 20 ลิตร เป็นเวลา 20 วัน สามารถนำน้ำหมักชีวภาพไปใช้ประโยชน์ได้ คุณจำเนียรได้ใช้น้ำหมักชีวภาพในการบำบัดกลิ่นในคอกสุกร ทำความสะอาดคอกสุกรและป้องกันเชื้อโรค บำบัดน้ำเสียในบ่อปลา และบำบัดน้ำเสียบริเวณบ้าน คุณจำเนียร พบว่า การทำเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงช่วยสร้างความมั่นใจและมีภูมิคุ้มกันในอาชีพการเกษตร ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ราคายางพาราจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น ครอบครัวก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบ อย่างน้อยก็มีข้าวปลาอาหารพร้อม ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนหรือพื้นที่มากมาย เพียงขอให้มีความขยันและสนใจใฝ่รู้ ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ครอบครัวก็สามารถมีความสุขได้อย่างแท้จริงบนความเปลี่ยนแปลงต่างๆ

 

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่นำมาปฏิบัติ

คุณจำเนียรได้ดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะใช้หลัก ความมีเหตุผล การจดบันทึก ทำบัญชีครัวเรือน ทำให้เรารู้ถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็น เป็นการอุดรอยรั่ว และทำให้รู้จักการออม มีความรอบคอบในการดำเนินชีวิตจนประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือน ทุกคนในครอบครัวได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ลูกทุกคนช่วยกันทำงานและไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข ทั้งนี้ ผลผลิตที่ได้จะเน้นมีไว้บริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก แล้วที่เหลือยังแบ่งปันให้เพื่อนบ้านและจำหน่ายเป็นสินค้าปลอดสารพิษให้ชุมชนอีกด้วย

 

ขอบคุณข้อมูล จากหนังสือ การเพิ่มรายได้เกษตรกร ด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์