จากสาวออฟฟิศ ผันชีวิตมาเลี้ยงแพะ ศึกษาการเลี้ยงอย่างเข้าใจ สร้างรายได้-มีกำไร

การเลี้ยงแพะกำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน เพราะขั้นตอนการเลี้ยงไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากเหมือนอย่างเช่นสมัยก่อน และที่สำคัญในเรื่องการทำตลาดแพะสามารถทำได้หลากหลายช่องทาง เช่น แพะสวยงาม นำไปประกอบอาหาร และผลิตลูกพันธุ์ดีให้กับผู้ที่สนใจเลี้ยงต่อไป เพราะแพะสามารถให้ลูกได้ไว โดย 2 ปี อาจผลิตลูกได้เฉลี่ย 3-4 คอก จึงได้ผลตอบแทนและคืนทุนให้กับผู้เลี้ยงได้ไม่ยาก 

พื้นที่เดินเล่น

คุณวสันต์ กลิ่นสุข สัตวแพทย์ชำนาญงาน สำนักงานปศุสัตว์อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ให้ข้อมูลว่า การทำปศุสัตว์ในอำเภอบางเลน นอกจากการเลี้ยงไก่ไข่ที่โดดเด่นแล้ว การเลี้ยงแพะกำลังได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยทางสำนักงานมีความรับผิดชอบในเรื่องของการทำวัคซีนให้กับเกษตรกร เพื่อให้ฟาร์มเป็นแหล่งเลี้ยงที่มีความปลอดโรคและได้มาตรฐาน ดังนั้น ทางสำนักงานจึงมีการให้ความรู้ต่างๆ ของการเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงอยู่เสมอ

คุณพัชรีภรณ์ ภิรมนตรี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ที่ 6 ตำบลบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ยึดอาชีพการเลี้ยงแพะหลังจากลาออกจากงานประจำ จนสามารถประสบความสำเร็จทำการตลาดหลากหลาย เช่น การผลิตลูกพันธุ์ การเลี้ยงแพะสวยงาม ตลอดไปจนถึงการนำน้ำนมแพะมาแปรรูปสร้างเป็นสินค้าเพิ่มมูลค่า ทำรายได้ให้กับเธอได้เป็นอย่างดี

พื้นที่ภายในโรงเรือน

คุณพัชรีภรณ์ เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเดิมทีทำงานอยู่บริษัทเอกชน เมื่อระยะเวลาผ่านมานานวันเกิดความรู้สึกอิ่มตัวกับงาน จึงได้ลาออกมาก่อนจะถึงวัยเกษียณอายุงาน เมื่อมาอยู่บ้านแล้วการมีอาชีพรองรับเป็นเรื่องที่สำคัญ ทำให้ได้ศึกษาวิธีการเลี้ยงแพะจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอบางเลน เพื่อนำความรู้มาใช้กับการเลี้ยงแพะในพื้นที่ของตนเอง

“เหตุที่เลือกเลี้ยงแพะเกิดจากความชอบของเราด้วย และมองว่าสามารถให้ลูกได้ไวเวลาเลี้ยง บวกกับพื้นที่บ้านค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากชุมชน เวลาที่เลี้ยงสัตว์ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่รบกวนกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญการเลี้ยงแพะการจัดการระบบต่างๆ ภายในฟาร์มสามารถทำได้ง่าย เพราะแพะเป็นสัตว์ที่มีลักษณะตัวเล็ก ไม่ใหญ่เหมือนโคเหมือนกระบือ ดังนั้น สัตว์ชนิดนี้จึงค่อนข้างเหมาะสมกับเราในการทำเป็นอาชีพต่อไป” คุณพัชรีภรณ์ เล่าถึงที่มา

ในช่วงแรกที่เริ่มเลี้ยงใหม่ๆ เธอหาซื้อแพะตัวเมียไว้ภายในฟาร์ม 21 ตัว พร้อมกับพ่อพันธุ์ 1 ตัว เพื่อเป็นการทดลองและเรียนรู้อุปนิสัยของแพะไปด้วยพร้อมกัน ต่อมาเมื่อการเลี้ยงประสบผลสำเร็จไม่เกิดปัญหาจากการเลี้ยง จึงค่อยๆ ขยายพันธุ์ให้มีจำนวนมากขึ้น จนเวลานี้แพะภายในฟาร์มมีมากกว่า 100 ตัว เลยทีเดียว

แพะภายในฟาร์ม

โรงเรือนสำหรับให้แพะนอนและหลบแดดฝน คุณพัชรีภรณ์ บอกว่า สร้างเป็นโรงเรือนยกใต้ถุนสูงจากพื้นดินประมาณ 1.80 เซนติเมตร ส่วนโรงเรือนมีขนาด 20×10 เมตร และภายในโรงเรือนจะแบ่งเป็นคอกๆ เพื่อกระจายความเป็นสัดส่วน

“แพะที่พร้อมจะผสมพันธุ์ จะใช้อายุ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งถ้าตามเวลาจริงๆ ตัวเมียอายุ 7-8 เดือนจะผสมพันธุ์ได้ แต่มันยังดูไม่สมบูรณ์เต็มที่ เราจึงเน้นเลี้ยงให้มีอายุอย่างต่ำ 1 ปี ถึงจะปล่อยให้ผสมพันธุ์ จากนั้นรอตั้งท้องประมาณ 5 เดือน พอได้ลูกออกมาแล้วในช่วง 1 เดือนแรก ปล่อยให้กินนมแม่ก่อน หลังจากนั้น เลี้ยงด้วยผิวถั่วสลับกับต้นข้าวโพดสับ พร้อมทั้งเสริมด้วยอาหารข้นที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนอยู่ที่ 16 ให้กินอยู่แบบนี้ไปจนถึงประมาณจนกว่าจะได้ขนาดไซซ์ที่ขายได้” คุณพัชรีภรณ์ บอก

ส่วนแม่พันธุ์หลังจากคลอดลูกทำการฉีดยาบำรุง พร้อมทั้งทำวัคซีนให้กับแพะภายในฟาร์มไปด้วยพร้อมกัน คือการฉีดยาถ่ายพยาธิทุก 3 เดือนครั้ง และทำวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย โดยยาและวัคซีนสามารถรับได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ซึ่งมีบริการให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ

พ่อพันธุ์

ตั้งแต่เลี้ยงแพะมากว่า 7 ปี คุณพัชรีภรณ์ บอกว่า ในเรื่องของโรคระบาดและอาการที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับแพะจนได้รับความเสียหายนั้นยังไม่พบ เพราะการทำให้สภาพแวดล้อมและใส่ใจในเรื่องความสะอาดของโรงเรือนแพะถือว่าสำคัญมาก จะช่วยให้แพะไม่เจ็บป่วยและมีภูมิต้านทานที่ดี

ในด้านการตลาดเริ่มแรกนั้น คุณพัชรีภรณ์ บอกว่า ยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการขายมากนัก เพราะตอนที่ทำฟาร์มแพะเกิดจากความชอบล้วนๆ และมีความตั้งใจว่าจะเลี้ยงให้ประสบผลสำเร็จ แต่ในใจคิดเสมอว่าแพะไม่น่าจะขายได้ยาก เพราะจากที่ไปอบรมมาตลาดยังมีความต้องการอยู่

“การเลี้ยงแพะหากเราเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้เลี้ยง การเลี้ยงจะง่ายขึ้น เหมือนทุกคนมีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เราไม่ได้ยืนอยู่บนธุรกิจนี้คนเดียว ทำให้เวลาที่ประสบปัญหาต่างๆ ทุกคนภายในกลุ่มจะคุยช่วยเหลือกัน ทำให้ทุกปัญหาที่เจอผ่านไปได้ด้วยดี รวมไปถึงในเรื่องการตลาดด้วย ที่ทุกคนภายในกลุ่มมีการแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ จึงทำให้การขายแพะไม่ถูกกดราคา” คุณพัชรีภรณ์ บอก

โดยแพะที่ขายมีหลากหลายรูปแบบ อย่างเช่น ขายเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม ราคาขายคิดอยู่ที่เดือนละ 1,500 บาท สมมุติแพะอายุ 3 เดือน ราคาได้อยู่ที่ 4,500 บาท ต่อตัว ส่วนแพะที่ไม่เน้นสวยงามขายเป็นแพะเนื้อ น้ำหนัก 15 กิโลกรัมขึ้นไป ขายอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 110-115 บาท พร้อมกันนี้ ยังมีการนำน้ำนมแพะมาทำการแปรรูปสร้างเป็นสินค้าที่มีมูลค่า เช่น สบู่จากนมแพะ ครีมอาบน้ำ เป็นต้น

(ซ้าย) คุณพัชรีภรณ์ ภิรมนตรี และ (ขวา) คุณวสันต์ กลิ่นสุข

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากเลี้ยงแพะเพื่อสร้างรายได้ คุณพัชรีภรณ์ แนะนำว่า การทำงานด้านปศุสัตว์ อย่างเช่น การเลี้ยงแพะ สิ่งที่ต้องให้มีอยู่ในใจคือเรื่องของความตั้งใจที่จะทำ เพราะการทำเกษตรต้องใช้ความอดทนแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะในช่วงแรกที่เริ่มทำจะเกิดความเหนื่อย ยิ่งการเลี้ยงสัตว์ด้วยแล้ว ในเรื่องของการเจ็บป่วยเจ็บตายมีให้เห็นอยู่เสมอ แต่เมื่อเรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นและรับมือได้ทันท่วงที จะช่วยให้การเลี้ยงประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณพัชรีภรณ์ ภิรมนตรี หมายเลขโทรศัพท์ (089) 962-2352

ขอขอบพระคุณ คุณวสันต์ กลิ่นสุข สัตวแพทย์ชำนาญงาน สำนักงานปศุสัตว์อำเภอบางเลน พาลงพื้นที่ พบปะเกษตรกร