| เผยแพร่ |
|---|
วันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ได้เอ่ยถึงนายประเสริฐ บุญมานิต อายุ 43 ปี อาศัยอยู่ภายในชุมชนหลังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ที่มักปั่นจักรยานคู่ใจกินลมโดยมีไก่แจ้ตัวหนึ่งเกาะแฮนด์รถจักรยานนั่งนิ่งเฉยไม่กระดุกกระดิกเหมือนตุ๊กตาไก่ไปตามถนนภายในวัดเพชรสมุทรวรวิหารเป็นประจำช่วงเช้าและช่วงเย็น จนชาวบ้านสงสัยคิดว่าเป็นตุ๊กตา สร้างแปลกตาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่บริเวณตลาดร่มหุบ ที่ส่วนใหญ่จะนำกล้องขึ้นมาบันทึกภาพความน่ารักและแสนรู้ของเจ้าไก่แสนรู้ตัวนี้
นายประเสริฐ เจ้าของไก่แสนรู้ตัวนี้ กล่าวว่า ไก่ของตนชื่อเจ้าทอง เป็นไก่แจ้พันธุ์จากญี่ปุ่น อายุ 2 ปี โดยตนเองเปิดร้านขายอาหารตามสั่งและเลี้ยงไก่แจ้ไว้ประมาณ 40 ตัว ซึ่งไก่แจ้ตัวนี้มีลักษณะพิเศษ ที่มีสีโดดเด่น และมักจะชอบเดินมาหาตนเองและทำท่าจะจิกใส่เวลาเดินหนีเจ้าลูกเจี๊ยบก็จะวิ่งตาม ตนจึงเลี้ยงลูกเจี๊ยบตัวนี้เป็นอย่างดี และตั้งชื่อว่าเจ้าทอง และจัดหาห้องพักให้ไก่ตัวนี้ด้วย เวลาจะปั่นจักรยานไปไหนก็จะพาเจ้าลูกเจี๊ยบตัวนี้ไปด้วย และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี เจ้าทองโตเต็มวัยมีรูปทรงที่สวยแต่มีความผิดปกติที่ฉะงอยปาก ซึ่งจะแยกเป็น 2 แฉก แม้จะคอยตัดให้เหลือสั้นลงก็ตามฉะงอยปากก็ยังแยกออกเป็น 2 แฉกเหมือนเดิม
ส่วนเวลาที่จะปั่นจักรยานออกไปนอกบ้านเจ้าทอง ก็จะกระโดดขึ้นมาเกาะที่บริเวณแฮนด์ของรถจักรยานนั่งในลักษณะนิ่งไม่กระดุกกระดิก เวลาปั่นรถจักยานเจ้าทองก็จะนั่งนิ่งไม่ไปไหน ทำให้ทุกวันเวลาประมาณ 7.00 – 8.00 น. ตนจะต้องพาเจ้าทองออกมาปั่นจักรยานเพื่อออกำลังกาย และช่วงเย็นประมาณ 16.00 – 17.00 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลาเจ้าทองจะกระโดดขึ้นมาเกาะนั่งที่แฮนด์ของรถจักรยานเพื่อรอให้พาออกไปออกกำลังกาย ถ้าไม่ออกหรือผิดเวลาเจ้าทองก็จะเดินเข้ามาจิกใส่จนทำให้ตนต้องพาปั่นจักรยานเป็นประจำทุกวันและทำเรื่อยมาตลอด 1 ปีเต็ม
นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า เวลานี้ เจ้าทองมีลูกๆ มาแล้วจำนวน 4 เล้า ด้วยกัน ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็จะพากันเข้ามาขอซื้อลูกเจี๊ยบซึ่งเป็นลูกของเจ้าทองไปเลี้ยงในราคาตัวละ150 บาท เพราะเชื่อว่าเจ้าทองเป็นไก่แสนรู้ลูกๆที่ออกมาก็จะมีนิสัยแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีคนมาขอซื้อเจ้าทองในราคา 5,000 บาท ตนไม่ขายเพราะผูกพันเหมือนลูกและจะเลี้ยงต่อไปจนกว่าจะตายจากกันไป
ที่มา : มติชนออนไลน์
