“น้ำท่วม”…ทุบซ้ำเศรษฐกิจใต้

“หนักมาก หนักจริง ๆ” สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้

เช้านี้ ขณะที่กำลังนั่งเขียนต้นฉบับอยู่ (10 มกราคม) สถานการณ์น้ำท่วมหนักในภาคใต้ก็ยังไม่คลี่คลาย ฝนยังไม่หยุดตก

ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคอีสาน แม้จะเจอฝนหลงฤดูโปรยปรายลงมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นและตกทั้งคืนยันย่ำรุ่ง แต่คงไม่หนักเท่าพี่น้องชาวใต้ที่กำลังประสบอยู่

วันนี้ นอกจากชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้จะลำบากแสนเข็ญ บ้านเรือนข้าวของเครื่องใช้เสียหาย ยิ่งไปกว่านั้น เรือกสวนไร่นา พืชผลทางการเกษตรหลาย ๆ อย่างและถือเป็นอาชีพหลักที่ใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องและครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ดูว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง โดยเฉพาะยางพาราที่ราคาเริ่มขยับขึ้นมา และทำให้มีรายได้มีกำลังซื้อมาจับจ่ายใช้สอยใช้หนี้สินบ้าง เรียกว่าพอจะลืมตาอ้าปากได้บ้าง

แต่ตอนนี้ก็ต้องมีอันต้องฟุบกลับลงไปอีก และดูเหมือนว่าคราวนี้อาการจะหนักขึ้นกว่าเดิม

งานนี้ไม่เพียงเฉพาะยางพาราที่ราคากำลังดีและอยู่ในช่วงขาขึ้นเท่านั้นพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟ ปาล์มน้ำมัน นากุ้ง ฯลฯ ต่างก็ได้รับความเสียหายไปไม่น้อย เพราะอย่างที่ทราบกันว่าน้ำท่วมครั้งนี้กินเวลานานกว่า 1 เดือน และกินพื้นที่ในวงกว้างทั่วทั้งภาค จะเว้นไปบ้างก็เฉพาะภูเก็ตและพังงา

นี่ยังไม่นับรวมไปถึงเรื่องของการท่องเที่ยว ที่เป็นอีกแหล่งรายได้หนึ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของภาคใต้ ปัญหาฝนตกน้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบให้ธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันที่ยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวโอกาสทองจากช่วงไฮซีซั่นได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

หากย้อนกลับไปจะพบว่าฟ้าฝนเริ่มโปรยปรายลงมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาและเกิดน้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ของนครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม หลังจากฝนระลอกแรกซาลงไป ฝนใหญ่ระลอก 2 ก็ทยอยตกตามมา ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมลากยาวมาจนถึงวันนี้ ทำให้น้ำท่วมกระจายวงกว้างมากขึ้นในแทบทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นสตูล นราธิวาส ตรัง ชุมพร ไล่เลยขึ้นมาจนถึงประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี

จากนี้ไปจนถึงช่วงกลางเดือนมกราคม หากฝนฟ้าอากาศเป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ปริมาณฝนในภาคใต้จะค่อย ๆ ลดลง เมื่อน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายบรรเทาลดลง จากนั้นก็คงจะเริ่มเข้าสู่โหมดของการซ่อมแซมสิ่งที่เสียหายทั้งถนนหาทางบ้านช่องเรือนชาน แน่นอนว่างานนี้คงต้องใช้ทั้งเงินและเวลาไม่น้อยกว่าจะฟื้นฟูบูรณะให้กลับมาเหมือนเดิม

ล่าสุดแม้หน่วยงานต่างๆจะยังไม่สามารถประเมินและระบุตัวเลขความเสียหายอย่างเป็นทางการได้ แต่ภาพที่เห็นจากข่าวในโทรทัศน์ ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ รวมถึงสื่อต่าง ๆ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หนักมาก หนักในระดับน้อง ๆ มหาอุทกภัย เมื่อปี 2554 เลยทีเดียว

สำหรับชาวไร่ ชาวสวน ชาวบ้าน ร้านตลาดทั่ว ๆ ไป อาจจะต้องใช้คำว่าหนักหนาสาหัสมาก เพราะอย่างน้อยที่สุด ตลอดเวลากว่า 1 เดือนที่น้ำท่วม รายได้จากสวนยาง นากุ้ง ฯลฯ ที่เคยมีมาจุนเจือกลับไม่มี ลำพังแค่จะกินจะอยู่ในแต่ละวันก็ยากแล้ว หลายคนอาจตกอยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว และคงต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาใช้จ่าย

ขณะที่พี่น้องชาวใต้กำลังเดือดร้อนและมีความทุกข์อย่างหนักแต่อีกด้านหนึ่งก็น่าชื่นใจน่าชื่นชม โดยเฉพาะธารน้ำใจจากพี่น้องคนไทยจากทั่วทุกสารทิศที่กำลังหลั่งไหลลงไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นอย่างไม่ขาดสายทั้งเงินทองอาหาร ยา ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น

ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยพี่น้องชาวใต้ทุกคน

ที่มา :  คอลัมน์สามัญสำนึก โดย สมปอง แจ่มเกาะ