| เผยแพร่ |
|---|
หากใครได้มีโอกาสผ่านไปผ่านมายังจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเข้าสู่อำเภอสามชุกก่อนที่จะมุ่งไปยังจังหวัดชัยนาท จะเห็น 2 ข้างทาง เรียงรายไปด้วยร้านพวงมาลัย ที่ใครพบเห็นแล้วเป็นต้องจอดซื้อเพื่อคล้องกราบไว้สิ่งศักดิ์ประจำรถรถก่อนที่จะออกเดินทางไกล
ผู้สื่อข่าวเทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ ได้มีโอกาสผ่านในแถบย่านนี้จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณพูลศักดิ์ คำหอม อยู่บ้านเลขที่ 422 หมู่ที่ 5 ตำบลสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรรบุรี เล่าให้ฟังว่า ชุมชนย่านนี้ได้ร้อยพวงมาลัยเป็นอาชีพที่หล่อเลี้ยงครอบครัวกันมามากกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งสมัยก่อนที่เขายังป็นเด็ก ก็จะใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์ช่วยที่บ้านร้อยพวงมาลัย
“ที่นี่เรียกว่าทำกันมานานมาก เรื่องร้อยพวงมาลัย ซึ่งที่บ้านผมก็จะเน้นปลูกดงมะลิเอง เพื่อเป็นการลดต้นทุน เพราะมะลิเดี๋ยวนี้แพงมาก ถ้าช่วงที่ราคาขึ้นจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 600-1,000 บาท แต่ถ้าเรามีดงมะลิเอง จะลดเรื่องราคาค่าซื้อมะลิมาได้มาก อย่างวันหนึ่งก็จะได้กำไรตกวันละ 3,000 บาท เพราะเราจะขายขาจรจากคนที่ผ่านไปผ่านมา และก็ตามตลาดนัดที่แม่ไปส่งขายให้”คุณพูลศักดิ์ กล่าว
ซึ่งคุณพูลศักดิ์ บอกว่า ชีวิตของเขาโตมากับการร้อยพวงมาลัยเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อสมัยก่อนบริเวณแถวนี้จะมีการปลูกมะลิกันมาก จนได้ชื่อชุมชนว่า “บ้านดงมะลิ” แต่ปัจจุบันลดน้อยลงมาเรื่อยๆ ซึ่งก็มีไม่กี่ที่ที่ยังปลูกอยู่รวมทั้งบ้านของเขาด้วย
การปลูกมะลิให้ได้ผลผลิตที่ดี คุณพูลศักดิ์ บอกว่า ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษต้องมีการให้ปุ๋ยและการจำกัดแมลงศัครูพืชที่ดี อย่างช่วงที่ต้องการจะให้ดอกออกก็ต้องมีการบำรุงด้วยปุ๋ยเคมีบ้างเล็กน้อย เช่น สูตร 8-24-24 ซึ่งที่บ้านของเขาจะเน้นทำให้ดอกออกในช่วงที่มะลิมีราคาแพง
“อย่างช่วงหน้าร้อนที่บ้านจะเน้นซื้อมะลิจากที่อื่นเสียมากกว่า เพราะช่วงนี้มีราคาถูก กิโลกรัมละ 100-150 บาท เราซื้อเอาก็ได้ต้นทุนยังถูกอยู่ แต่ช่วงที่มะลิจะมีราคาแพงจะเป็นช่วงเทศกาลและอากาศหนาว บางทีราคาพุ่งไปถึง 1,000 บาทก็มี พอเรารู้หลักแล้ว ช่วงเดือนตุลาคมถึง พฤศจิกายน เราก็จะเตรียมต้นให้พร้อม เพื่อให้มีมะลิใช้ในช่วงนั้น แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็จะใช้ดอกพุดทดแทนกัน ซึ่งอาชีพนี้ถามว่าสร้างกำไรได้ดีไหม ต้องบอกว่าดีเป็นอาชีพที่สร้างเงินได้ แม้จะขายพวงแค่ 5 บาท 20 บาท แต่ต้องหาวิธีที่ทำอย่างไรก็ได้ให้ประหยัดต้นทุนให้ได้มากที่สุด แล้วจะได้กำไรสูงสุด” คุณพูลศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ คุณพูลศักดิ์ ยังได้พาเดินชมสวนพืชผักที่ปลูกเองกับมือภายในบริเวรรอบบ้าน โดยที่เขาจะหาเวลาจากช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดยาวๆ มาปลูกเพื่อเป็นงานอดิเรกในเวลาว่างเสมอ โดยมีสโลแกนประจำใจว่า “ปลูกไว้เดี๋ยวก็ได้กิน” เพื่อเป็นการใช้ชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียง โดยเขาบอกว่าที่ทำทุกวันนี้มีความสุขมาก เพราะเกษตรเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตประจำวันโดยที่แต่ละคนหนีไม่พ้นแน่นอน
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณพูลศักดิ์ คำหอม ที่หมายเลขโทรศัพท์ 098-946-9986
