ผู้เขียน	สุรเดช สดคมขำ
เผยแพร่	วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563

หากจะกล่าวว่าคนทุกคนมีความฝันนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะแต่ละคนล้วนมีความฝันอันเกิดมาแต่วัยเด็ก หรือช่วงวัยหนึ่งๆ เมื่อโตขึ้นตนเองใฝ่ฝันอยากมีอาชีพในแบบนั้นแบบนี้ ตลอดไปจนถึงอยากทำในสิ่งที่ได้ทำโดยวาดฝันกันมาอย่างยาวนาน และสามารถทำชีวิตจริงให้เป็นไปตามความฝันที่วาดหวังไว้แล้ว บางคนประสบผลสำเร็จในการทำตามความฝันเพียงระยะเวลาสั้นๆ และอีกหลายคนล้มเหลวหลายครั้งหลายคราว กว่าความฝันนั้นจะประสบผลสำเร็จ และเกิดรายได้ที่ยั่งยืนไปจนถึงการได้ทำในสิ่งที่รักและมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ

 

ความฝันของสาวตัวเล็กๆ

ที่ประสบความสำเร็จได้ เพราะ “ใจ”

คุณภานุมาศ จันทร์เสวก สาวแกร่งสู้ชีวิตที่ถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี มีใจมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝันของตัวเอง คือ การเปิดร้านอาหาร ก่อนที่จะมาเริ่มดำเนินธุรกิจร้านอาหารเหมือนเช่นทุกวันนี้ เธอได้ทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครมาก่อนหลายสิบปี ซึ่งในระหว่างนั้นก็ยังมีความชื่นชอบในการทำอาหารอยู่มากโข ทุกครั้งที่ได้กลับมายังบ้านที่ต่างจังหวัดช่วงวันหยุดงาน ก็จะตื่นแต่เช้าและลงมือทำกับข้าวให้ทุกคนในครอบครัวได้ทาน เพราะเธอเชื่อว่า อาหารที่ปรุงสดใหม่ ใส่ใจไปด้วยความรักของเธอนั้น เป็นการสร้างกำลังใจที่ดีต่อกันของคนในครอบครัว

“ช่วงสมัยเริ่มแรกที่เรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ เราก็ทำงานเป็นสาวออฟฟิศอยู่ที่กรุงเทพฯ อย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ การประหยัดในเรื่องค่าใช้จ่ายคือสิ่งสำคัญ เพราะกรุงเทพฯ ค่าครองชีพสูงมาก ด้วยความที่เราทำงานและมีน้องสาวอยู่ด้วย การประหยัดค่าใช้จ่ายที่ดีที่สุดในเวลานั้นก็คือ การได้ลงมือทำอาหารทานกันเอง จึงทำให้รู้สึกชื่นชอบการทำกับข้าว และคิดหาเมนูใหม่ๆ มาทดลองทำกับน้องสาวทานกันอยู่เสมอ ใช้วัตถุดิบง่ายๆ จากตลาดสด ทำออกมาก็อร่อยไม่แพ้ร้านกับข้าว เพราะหอที่เราพักสามารถประกอบอาหารได้ จึงถือเป็นความโชคดีในเวลานั้น” คุณภานุมาศ เล่าถึงช่วงชีวิตเริ่มต้นของการทำงานในเมืองหลวง

 

การมีเพื่อนคู่คิด (ชีวิตคู่)

เป็นดังสายธารความสำเร็จ

ต่อมาเมื่ออาชีพทางการงานมั่นคง และสามารถมีรายได้เพียงพอสามารถส่งกลับมาให้ครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัดได้แล้ว อย่างที่เรารู้กันทุกชีวิตที่ดำเนินอยู่บนโลกใบนี้ล้วนต้องมีเพื่อนคู่คิด หรืออาจเป็นคู่ชีวิตที่เดินบนเส้นทางเดียวกันมาใช้ชีวิตเติมเต็มหล่อเลี้ยงหัวใจกันและกัน โดย คุณภานุมาศ ได้พบรักกับ คุณนิติพล จันทร์เสวก ชายหนุ่มผู้มีความสุขุม และมากด้วยรอยยิ้ม จึงทำให้ทั้งคู่เมื่อคบหาดูใจกันมาได้หลายปี จึงตกลงปลงใจแต่งงานและใช้ชีวิตคู่สร้างเนื้อสร้างตัวร่วมกัน

 

เมื่อทำงานอยู่ในเมืองหลวงด้วยกันมาได้หลายสิบปี คุณภานุมาศ เล่าว่า เธอและสามีมีความฝันเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ การเปิดร้านอาหารเล็กๆ ในถิ่นฐานบ้านเกิด โดยไม่ต้องมาใช้เวลาตื่นแต่เช้าในเมืองใหญ่และกลับบ้านมืดค่ำ ต้องทนปัญหารถติดและมลพิษในทุกๆ วัน เมื่อมีความฝันที่เหมือนกัน ทั้ง 2 คน จึงทำงานอย่างตั้งมั่น และเก็บเงินให้ได้จำนวนหนึ่งมาทำตามความฝัน คือ ทำร้านอาหารเป็นของตนเองที่มีความฝันไว้

เมื่อปี 2559 คุณภานุมาศ จึงได้มองหาทำเลสำหรับเปิดร้านอาหาร และระยะก่อนช่วงนั้น ระหว่างที่ได้ไปเที่ยวยังจังหวัดต่างๆ กับเพื่อน ก็ได้ศึกษารสชาติอาหารอยู่เสมอๆ เพื่อเป็นความรู้ว่าการเปิดร้านอาหารนั้น รสชาติอาหารอย่างไรที่จะถูกใจลูกค้า ร้านอาหารชื่อร้านว่า “ครัวภานุมาศ” จึงได้ก่อตั้งขึ้นตามชื่อของเธอ ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 340 ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท อยู่ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงตลาดสามชุก 1-2 กิโลเมตร ถ้าเดินทางมาจากตัวเมืองสุพรรณบุรี ร้านสร้างเป็นบรรยากาศที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า โดยภายในให้รู้สึกได้นั่งทานอาหารอย่างสบาย ด้วยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และผู้ที่สนใจจัดเลี้ยงก็สามารถจองและรับรองลูกค้าเป็นแบบหมู่คณะได้ เป็นจำนวนถึง 150-200 ท่าน

วัตถุดิบสด ใหม่ อาหารรสอร่อย

ใส่ใจคุณภาพทุกขั้นตอน

ในเรื่องของเมนูอาหารนั้น คุณภานุมาศ บอกว่า จะเน้นเป็นวัตถุดิบที่ได้จากเกษตรกรในจังหวัด และพืชผักส่วนใหญ่เป็นสวนที่ได้รู้จักและเห็นการปลูกเอง จึงมีการสั่งซื้อและนำมาเป็นวัตถุดิบในร้าน สด ใหม่ทุกวัน เช่น ปลาช่อน ปลาทับทิม กุ้งก้ามกราม และผักเครื่องเคียงต่างๆ

“วัตถุดิบที่จะนำมาปรุงอาหารให้ลูกค้า เราค่อนข้างใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะว่าเราเองชอบทำอาหาร และรู้ว่าตัวเราเองยังชอบทานอะไรที่เป็นของสดใหม่และมีคุณภาพ ดังนั้นเราเอง การจะปรุงอาหารให้กับลูกค้าแต่ละครั้ง วัตถุดิบและความใส่ใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เริ่มต้นจากวัตถุดิบดี การปรุงรสชาติมีความใส่ใจ รูปร่างของอาหารก็จะออกมาน่าทาน รวมไปถึงรสชาติที่เราเน้นให้เป็นรสชาติจัดจ้าน อย่างลูกค้ามาเที่ยวถึงจังหวัดเราทั้งที ก็ต้องให้ได้ทานอาหารที่กลมกล่อมถึงรสเครื่องปรุงและวัตถุดิบแท้ๆ ออกมาเลยทีเดียว” คุณภานุมาศ บอก

สำหรับเมนูอาหารต่างๆ ที่ผู้เขียนเองกลับบ้านไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี และได้พาครอบครัวไปสั่งทานทุกครั้งนั้น เรียกได้ว่ามีความอร่อยและถูกปากทีเดียว ขอยกตัวอย่างมาเป็นบางเมนู ดังนี้

ต้มยำปลาคัง เป็นต้มที่ใช้เนื้อปลาคังชิ้นโตๆ ใส่ลงไปในเครื่องเทศที่ช่วยจัดการความคาว จากนั้นปรุงรสจนกลมกล่อม พร้อมกับใส่น้ำมะนาวสดแท้ๆ ได้รสเปรี้ยวที่กำลังดี เมื่อซดน้ำพร้อมกับเนื้อปลารู้สึกโล่งคอทีเดียว

ปลาช่อนเผา และปลาช่อนลุยสวน เป็นเมนูที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูหลักเลยก็ว่าได้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการทานแบบเผาเนื้อปลาเนื้อแห้งกำลังดี ทานกับน้ำจิ้มรสเด็ดพร้อมผักเคียงก็เข้ากันได้ดีทีเดียว หรือหากลูกค้าชอบเป็นปลาช่อนที่เนื้อปลามีความกรอบก็ให้สั่งปลาช่อนลุยสวน โดยทางร้านจะนำเนื้อปลาลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้กรอบกำลังดี และนำปลาช่อนที่ผ่านการทอดมาราดด้วยน้ำยำรสเด็ด จึงเป็นปลาช่อนลุยสวนที่ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มให้วุ่นวาย เมื่อเสิร์ฟแล้วตักทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเหนือคำบรรยาย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูปิ้ง หรือเผา ทางร้านครัวภานุมาศได้จัดเมนูกุ้งเผา หอยเผา และหมึกปิ้ง ไว้รองรับลูกค้าที่ชื่นชอบเมนูนี้ด้วย โดยขนาดของกุ้งที่นำมาให้เลือกทานมีทั้งขนาดไซซ์ใหญ่และกลาง ราคาอยู่ที่หลักร้อยบาท สามารถเลือกแบบเป็นชุด หรือจะสั่งเผาแยกเป็นครึ่งกิโลกรัม หรือ 1 กิโลกรัม สำหรับลูกค้าที่มาจำนวนมาก ก็สามารถสั่งกับทางร้านได้เลย

เรียกได้ว่าเมนูอาหารยังมีอีกหลากหลายให้เลือกทาน ไม่ว่าจะปิ้ง ย่าง ยำ ทอด ต้ม ตลอดไปจนถึงแกง ทางร้านก็มีให้เลือกกันไม่รู้เบื่อทีเดียว ซึ่งราคาอาหารแต่ละเมนู เริ่มต้นอยู่ที่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยบาท

สำหรับผู้เขียนเองนั้นพาครอบครัวไปทานแต่ละครั้ง เมื่อกลับไปบ้านเกิดที่สุพรรณบุรีในช่วงวันหยุด สั่งอาหารมาแต่ละครั้งได้กับข้าววางบนโต๊ะอยู่ที่ 4-5 อย่าง ราคาก็อยู่ที่หลักพันบาทนิดๆ ส่วนผู้ที่มาแบบน้อยจำนวนคน ราคาอาจไม่ถึงขนาดผู้เขียนแน่นอน แต่ถ้าทานเยอะสั่งหลายอย่าง อันนั้นต้องอยู่ที่ผู้ทานแล้วละครับ

จากประสบการณ์การที่ได้เปิดร้านอาหารที่ได้ลงมือทำตามความฝันอย่างจริงจัง คุณภานุมาศ บอกว่า การทำร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีการจัดการและบริหารงานให้ดี เพราะร้านอาหารเป็นงานบริการ ดังนั้น การที่ลูกค้าแต่ละคนเข้ามาทานอาหารภายในร้าน จะบอกกับลูกน้องอยู่เสมอว่า ต้องเต็มใจบริการทุกครั้ง เพราะลูกค้าเลือกที่จะมาทานอาหารที่นี่ ไม่เพียงแต่ชอบที่รสชาติ ในเรื่องของการบริการและความใส่ใจอื่นๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันอีกด้วย

“อย่างที่รู้กัน เราทำงานออฟฟิศมาก่อนกับสามี ยังไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มากนัก ช่วงแรกๆ ที่มาเปิดใหม่ๆ บอกเลยว่ามีสะดุดบ้าง ถามว่าท้อไหม คนทุกคนเกิดความท้อได้ แต่สำหรับเราร้านอาหาร การทำอาหารเป็นสิ่งที่เรารักและฝันมาแต่เด็กตลอด เมื่อท้อก็จะไม่คิดถอย พยายามสู้ต่อไป ปัญหามันมีมาให้เราต้องแก้ตลอด แต่เมื่อเราจับทางและจับจุดได้ มันก็ช่วยให้เราผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดี อย่างช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัวหน่อย เราก็ปรับตัวมากหน่อย ให้เราอยู่ได้ แม้กำไรได้ไม่มาก แต่เห็นความสุขของลูกค้าที่ได้เข้ามาทาน เราก็มีความสุข และพร้อมที่จะบริการด้วยความใส่ใจ และยินดีบริการพร้อมรักษามาตรฐานแบบนี้ตลอดไป” คุณภานุมาศ บอกถึงหลักการทำงาน

สำหรับท่านใดผ่านไปผ่านมายังจังหวัดสุพรรณบุรี และยังไม่ได้มีโอกาสแวะเวียนเข้าไปลองชิมอาหารของร้านนี้ วันหยุดยาว มีเวลาท่องเที่ยวหรือผ่านไปมาในย่านนี้ ก็สามารถแวะเวียนเข้าไปชิมอาหารที่เจ้าของร้านใส่ใจในคุณภาพกันได้ ที่ร้าน “ครัวภานุมาศ” ตั้งอยู่ที่ตำบลย่านยาว อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี หมายเลขโทรศัพท์ (081) 985-0414, (086) 705-7873