แกะสูตรความสำเร็จ ‘คิงฟรุทส์’ ค้ากล้วยหอมทองวันละ 15 ตัน ส่งห้าง – สะดวกซื้อ-สายการบิน

พูดถึงการธุรกิจการเกษตร ตอนนี้ ค่อนข้างเนื้อหอมทีเดียว คนรุ่นใหม่จำนวนมาก เบนเข็มมาทางนี้ และมีอีกจำนวนไม่น้อย ที่ตั้งใจ แต่ติดขัดปัญหาใหญ่คือเรื่องการตลาด ทำแล้วไม่รู้จะไปขายใคร ขายที่ไหน คนที่ประสบความสำเร็จ สามารถค้าขายส่งออก ส่งห้างใหญ่ เค้าเริ่มต้นกันมาอย่างไร

วันนี้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์”  จะมาแกะสูตรความสำเร็จของ คิง ฟรุทส์ ผู้ผลิตและผู้ค้ากล้วยหอมทองรายใหญ่ อันดับต้นๆของประเทศ

บริษัท คิง ฟรุทส์ (KING FRUITS) มีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทอง ราว 3,500 ไร่  ที่จังหวัดปทุมธานี  เกษตรกรเครือข่ายอีก 1,000 ไร่ โดยตั้งเป้าอีก 2 ปีจะขยายพื้นที่ปลูกเป็น 10,000 ไร่ ส่งกล้วยหอมขายแต่ละวันเกือบ 15 ตัน ตลาดหลักส่งเข้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น, ห้างสรรพสินค้า อาทิ สยามพารากอน ฟู้ดแลนด์ บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส แม็คโคร แม็กซ์แวลู และสายการบิน เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ รวมทั้งการบินเครือไมเนอร์ กรุ๊ป รายได้ทั้งปี 2559 ราว 200 ล้านบาท

คุณเสาวณี วิเลปะนะ  กรรมการผู้จัดการ บริษัทคิง ฟรุทส์  กล่าวไว้ตอนหนึ่ง ในงานสัมมนา “กล้วยหอมทอง –กล้วยน้ำว้า ปลูกกินเองได้ ปลูกขายทำเงิน” ที่จัดโดย นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน เครือบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) ที่ ห้องประชุมหนังสือพิมพ์ข่าวสด เมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา  ว่า  จุดเริ่มต้น ของเธอนั้น ก็เริ่มจากมีแผงค้าที่ตลาดไท  แต่แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เศรษฐกิจแย่ ทำให้เก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ ก็มานั่งคิดว่า ทำอย่างไร จึงจะ สามารถค้าขายกับ คู่ค้า ที่สามารถเก็บเงินได้แน่ๆ  เพราะกล้วยทุกต้น ทุกลูก ที่ได้มา ก็มีต้นทุนทั้งนั้น

“ตอนนั้นไม่รู้เลยว่า การค้าขายกับห้างใหญ่ เค้าทำกันอย่างไร รายละเอียดอย่างไร คือความรู้เรื่องดีลกับห้างใหญ่นี่ เป็นศูนย์เลย  มีอยู่อย่างเดียวคือใจสู้  ก็เขียนโปรไฟล์ของตัวเอง ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ทีไหน  มีพื้นที่ปลูกกล้วยอยู่ที่ไหน ผลผลิตเป็นอย่างไร จากนั้นก็เอาเอกสารตัวนี้ เดินเข้าไปติดต่อกับห้างใหญ่  ไปที่แผนกจัดซื้อ  คือเค้าดูแล้วก็ยังไม่เชื่อนะ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ  แต่เค้าก็ให้โอกาส มาดูที่แปลงปลูกของเรา  ห้างแรกที่ให้โอกาสเราเลยคือ ห้างแมคโคร  เค้ามาดูแล้ว สิ่งที่เราขาดในตอนนั้น คือ มาตรฐานแปลง หรือ จีเอพี”  (GAP – Good Agricultural Practices การปฏิบัติการเกษตรที่ดี  )

คุณเสาวณี บอกอีกว่า  “โชคดีที่ช่วงนั้น ตลาดไท จัดอบรมการทำแปลงปลูก มาตรฐาน จีเอพีให้ฟรี เราก็เลย ไปเข้าอบรม แล้วกลับไปทำแปลงปลูกให้ได้มาตรฐาน จนส่งห้างใหญ่ได้”

ยังไม่จบแค่นั้น …..

ต่อมา มีร้านค้าสะดวกซื้อ มาติดต่อ  แต่ขอกล้วยพร้อมบริโภค (สุกประมาณหนึ่ง) ซึ่งทางคุณเสาวณี ต้องกลับมาทำการบ้านต่อในเรื่องการพัฒนาการบ่ม

“การพัฒนากล้วยให้เป็นกล้วยพร้อมบริโภคเพื่อส่งสะดวกซื้อ เราลองผิด ลองถูกมา 1 ปีเต็มๆ มันยากมากเลยนะ คือ ครั้งแรกๆที่เราทำ สีเปลือกได้ สีเนื้อไม่ได้  สีเนื้อได้ สีเปลือกไม่ได้ วนอยู่อย่างนี้ พอได้ ก็ต้องชิมเนื้อข้างใน ผ่าไปแล้ว ไส้มีปัญหา ไหนจะเกี่ยวกับความร้อน อุณหภูมิและการขนส่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ เราจดไว้ทุกอย่าง ทั้งหมดเกิดจากการเรียนรู้ ประสบการณ์  คือเราต้องใช้ประสบการณ์ และการเรียนรู้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีก  แม้แต่ทุกวันนี้ ก็ยังต้องพัฒนา กันเรื่อยๆ เพราะบอกเลยว่า ทำการเกษตร จะไม่มีวันหมดปัญหา ซึ่งเราต้องสร้างระบบโรงงาน ระบบแปลง เพื่อลดการสูญเสีย และเพื่อให้ไปต่อได้”

สำหรับเกษตรกรที่อยากปลูกกล้วยหอมกับคิงฟรุทส์   คุณเสาวณี  บอกว่าอยู่ 3 ระบบ

นั่นคือ

1.ซื้อหน่อกับคิงฟรุทส์ (ราคาหน่อ 10 บาท) แล้วทำสัญญา กลับมาขายให้คิงฟรุ้ทส์ ในราคาประกัน

2.ซื้อหน่อกับคิงฟรุ้ทส์  แล้วอาจจะกลับมาขายให้คิงฟรุ้ทส์ (เพราะราคาอาจจะผันขึ้นลง)

3.ซื้อหน่อจากที่อื่น ปลูกแล้วเอามาขายคิงฟรุ้ทส์

ซึ่งถ้ามีผลผลิตปริมาณมาก  ทางคิงฟรุ้ท์จะ ดูแลเกษตรกรเครือข่ายประเภทแรกก่อนเสมอ

สุดท้าย คุณเสาวณี  แนะแนวทางรอดของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นระดับใดว่า

  1. ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติในการทำการเกษตร ให้มองเป็นระบบธุรกิจ มีกำไร ขาดทุน
  2. การลดต้นทุนการผลิต อย่างกล้วยหอม ไม่ว่าจะปลูกพันธุ์อะไร ต้นพันธุ์แบบไหน แบบหน่อหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ได้ทั้งนั้น ขอให้ลดต้นทุนได้ ดีที่สุด นอกจากนี้ การเริ่มต้นปลูก ควรนำดินไปตรวจสภาพ ว่า ดิน ขาดอะไร แล้วเติมสิ่งนั้น มิใช่ คิดไปเอง ว่าต้องใส่ปุ๋ยอย่างนั้นอย่างนี้ วิธีนี้ก็ช่วยลดต้นทุนได้
  3. ทำมาตรฐานการเกษตร โดยเฉพาะ จีเอพี สำคัญมาก
  4. หาตลาดรองรับ

ทั้งสี่ ข้อนี้ จะเป็นทางรอดให้ผู้ปลูกกล้วยหอมทอง หรือทำการเกษตรอื่นๆด้วย

 

ใครที่สนใจ ติดต่อคิงฟรุ้ทส์ ได้ที่ โทร. 02-1599770 และ02-1599772-3