ผู้เขียน	ธาวิดา ศิริสัมพันธ์
เผยแพร่	วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2565

คุณธีรชัย ใจช่วย (พี่ต้น) อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เกษตรกรหัวก้าวหน้ากลับมาพัฒนาและขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ไก่ประดู่หางดำแปรรูปของคุณแม่ เป้าหมายเพื่อต่อยอดสินค้าให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

พี่ต้น เล่าความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ไก่ประดู่หางดำแปรรูปแบรนด์ป้าหล้าว่า คุณแม่ของตนเองก็คือ ป้าหล้า เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ป้าหล้าขึ้นมา เนื่องจากในสมัยแรกเริ่มทำเป็นกลุ่มเครดิตยูเนี่ยนมีการส่งเสริมให้เลี้ยงไก่ประดู่หางดำ ให้กับสมาชิกที่ไม่มีอาชีพ และมีการกระจายความรู้ มีผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เนื่องจากในสมัยนั้นไก่ประดู่หางดำยังเป็นไก่สายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีตลาดรองรับเท่าที่ควรคุณแม่จึงได้มีการเข้าไปปรึกษากับทางกรมปศุสัตว์ ก็ได้รับโอกาสและความรู้ในด้านต่างๆ หลังจากนั้น คุณแม่จึงผันตัวจากเป็นผู้เลี้ยงมาเป็นผู้แปรรูป สร้างโรงงานแปรรูปไก่เล็กๆ เป็นของตัวเอง

ซึ่งหลังจากที่ตนเองได้ลาออกจากพนักงานประจำก็เข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจที่แม่สร้างไว้ มีการทำมาตรฐานโรงงาน สินค้าทุกตัวมีมาตรฐาน อย. และพัฒนามาตรฐานเพิ่มขึ้นเข้าสู่มาตรฐานโอท็อปตั้งแต่ 3-5 ดาว

เป้าหมายการขยายตลาด
เริ่มจากเล็กๆ แต่มั่นคง

พี่ต้น บอกว่า แนวคิดการทำตลาดมาจากรูปแบบการใช้วิถีชีวิตคนในปัจจุบัน คือเร่งรีบ ไม่มีเวลาทำอาหารรับประทานเอง ตัวเขาเองจึงพยายามที่จะผลิตสินค้าหรืออาหารให้สะดวกและรองรับกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนในปัจจุบัน ที่จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเกิดความสะดวก สามารถมีเวลาแค่ 3-5 นาที ก็สามารถอุ่นอาหารที่มีประโยชน์และรสชาติที่ดีได้ หรือลูกค้าที่อาศัยอยู่ตามคอนโดฯ และหอพัก บางท่านอาจจะไม่สะดวกก่อไฟย่างหรือทอด อันนี้ก็ไม่ต้องกังวล แค่ท่านมีไมโครเวฟเครื่องเดียวก็สามารถอุ่นไก่ของเรารับประทานได้อย่างสะดวกสบาย ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของทุกคน

ในการแปรรูปไก่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เริ่มจากทำน้อยๆ แต่ได้คุณภาพและความปลอดภัย ไก่ทุกตัวของที่นี่จะต้องมาจากฟาร์มเครือข่ายที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์มออร์แกนิก ไม่ใช้สารเร่งโต ไม่ใช้สารเคมีในการเลี้ยง ต้องเลี้ยงระบบเปิดปล่อยตามธรรมชาติ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของไก่ประดู่หางดำจะเลี้ยงง่ายและโตไวอยู่แล้ว และคุณสมบัติเด่นอีกประการคือเป็นไก่ที่มีไขมันต่ำ แต่โปรตีนสูง มีกรดยูริกที่ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์น้อยจากผลวิจัยทางกรมควบคุมอาหาร

จึงเหมาะมากกับสินค้าแปรรูปจากไก่ประดู่หางดำแบรนด์ป้าหล้า ทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์ที่มี อาทิ ไส้อั่วไก่ประดู่หางดำ ไก่ประดู่หางดำอบรมควัน ไก่ประดู่หางดำต้มน้ำปลา และไก่ประดู่หางดำนึ่งสมุนไพร ซึ่งมีจำนวนครั้งการผลิตไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับออเดอร์ในแต่ละช่วง จะไม่นิยมทำของค้างไว้นาน ในส่วนเฉพาะเนื้อไก่ผลิต 20-40 กิโลกรัม ต่อรอบการผลิต แต่ถ้าเป็นไก่อบรมควัน ไก่ต้มน้ำปลา และไก่นึ่งสมุนไพรจะอยู่ที่ประมาณ 30-50 ตัว ต่อรอบการผลิต ถือว่าเป็นจำนวนการผลิตที่ไม่เยอะ และสินค้าแต่ละอย่างจะต้องใช้วลาการผลิตอย่างละ 2 วัน วันแรกเป็นการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบเครื่องเทศต่างๆ วันที่สองเป็นขั้นตอนของการบดผสมนึ่งย่างจนเสร็จขั้นตอนการแพ็กบรรจุถุงสุญญากาศ

ยกตัวอย่าง ขั้นตอนการแปรรูป
ไก่ประดู่หางดำนึ่งสมุนไพร

เจ้าของบอกว่า การแปรรูปไก่แต่ละชนิดการคิดค้นสูตรไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งตัวเจ้าของเองและคุณแม่ต้องเข้าอบรมเรียนรู้เพื่อปรับปรุงสูตรมาเรื่อยๆ กับ กรมปศุสัตว์ และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร มีการปรับเพิ่มสูตรต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นกลาง สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย และมีคุณภาพในการเก็บรักษา ซึ่งในครั้งนี้ทางเจ้าของจะเลือกสูตรการแปรรูปไก่นึ่งสมุนไพร เพราะคิดว่าน่าจะถูกปากคนไทยที่ชอบรสชาติเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ

ขั้นตอนการแปรรูปไก่ประดู่หางดำนึ่งสมุนไพร

1. นำไก่มาล้างน้ำทำความสะอาดแล้วผึ่งสะเด็ดน้ำ

   

2. ระหว่างที่รอไก่สะเด็ดน้ำ ให้เตรียมวัสดุอุปกรณ์พร้อมเครื่องปรุงและเครื่องเทศให้ครบ สำหรับไก่นึ่งสมุนไพรมีเครื่องเทศเป็นส่วนผสมหลักทั้ง 8 ชนิด 1. ข่า 2. ตะไคร้ 3. ใบมะกรูด 4. กระเทียม 5. หอมแดง 6. พริกแห้ง 7. รากผักชี 8. ขมิ้น
3. ทำการล้างทำความสะอาดเครื่องเทศให้สะอาดแล้วหั่นชั่งน้ำหนักตามสูตร จากนั้นนำไปเข้าเครื่องบด และมีส่วนผสมของเครื่องปรุงตามสัดส่วน ซอส กะปิ น้ำตาล บ้างเล็กน้อย

   

4. จากนั้นนำไก่ที่ผึ่งสะเด็ดน้ำ มาเช็คเพื่อตัดแต่งกระดูกส่วนเกินที่แทงออกมา ถ้าไม่เอาออกจะมีผลในขั้นตอนการแพ็ก
5. นำไก่ทั้งหมดคลุกเคล้ากับส่วนผสมเครื่องปรุงและเครื่องเทศทั้งหมดที่เตรียมไว้ใส่ในถุงมัดรวม 1 ถุง ใส่ไก่ได้ประมาณ 8-10 ซีก จากนั้นก็หมักทิ้งไว้ 13-15 ชั่วโมง ในถังน้ำแข็งต้องมีน้ำแข็งประคบทั้งล่างและบนถุงไก่ และต้องมีการกลับด้านทุกๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องเทศเครื่องปรุงซึมเข้าสู่เนื้อไก่

   

6. เมื่อแช่น้ำแข็งครบ 13-15 ชั่วโมง ก็มาเตรียมซึ้งนึ่งในห้องปรุงสุก หลักจากนั้น จะมีการวัดอุณหภูมิใช้ไฟอ่อนในการนึ่ง และมีการจับเวลาการนึ่งในแต่ละครั้งประมาณ 30-45 นาที เพราะด้วยคุณสมบัติของเนื้อไก่สายพันธุ์นี้มีไขมันน้อย ถ้านึ่งนานหรือใช้ไฟแรงเกินไปจะทำให้เนื้อไก่หดแห้งและแข็งเกินไป

   

7. หลังจากการนึ่งเสร็จ ให้นำไก่มาผึ่งให้เย็นอีกครั้ง ก่อนการแพ็กถุงสุญญากาศจะมีการตรวจเช็คตัดแต่งกระดูกอีกครั้ง เพื่อไม่ให้กระดูกที่แหลมออกมาทิ่มแทงถุงรั่ว

   

8. จะมีน้ำสมุนไพรนึ่งไก่แพ็กแยกติดกลับด้านหลังถุงสุญญากาศมาให้ด้วย หลังจากนั้น นำไก่พร้อมถาดรองพลาสติกแบบบางวางรองข้างหลังกันกระดูกอีกชั้น
9. เมื่อแพ็กบรรจุถุงสุญญากาศเรียบร้อยแล้ว นำมาตรวจเช็คอีกครั้งว่ามีถุงไหนรั่วซึมหรือไม่ หรือมีอะไรที่ผิดไปจากรูปแบบเดิม ถ้าไม่มีก็นำเข้าตู้แช่ได้เลย

   

ปริมาณการบรรจุ 1 ถุง บรรจุไก่ครึ่งตัว น้ำหนักขึ้นอยู่กับไก่ในแต่ละครั้งที่รับมา โดยเฉลี่ย 1 ตัว หนักประมาณ 1.7-1.8 กิโลกรัม ตกซีกละประมาณ 9 ขีด ราคาจำหน่ายถุงละ 220-250 บาท เป็นราคาที่ไม่แพงหากเทียบกับคุณค่าที่ได้รับ ซึ่งจะมีกลุ่มลูกค้าประจำที่รู้คุณสมบัติของไก่ตัวนี้ดี

การเก็บรักษา ผลิตภัณฑ์แปรรูปของเราแนะนำให้ผู้ที่ซื้อไปขายหรือบริโภคต่อเก็บไว้นานไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถเก็บได้เป็นปี แต่ที่ไม่ให้เก็บไว้เกิน 6 เดือน เพราะว่าจากการที่ตัวเองได้เคยเข้าร่วมอบรมศึกษาการทำอาหาร มีอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าในช่วงระยะเวลา 6 เดือน เป็นระยะที่ไม่นานเกินไป ถ้าเกินกว่านี้การที่น้ำแข็งเข้าไปแทรกซึมในเนื้ออาหาร ตอนที่นำมาละลายอุ่นรับประทานจะทำให้เนื้อสัมผัสได้ไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ คุณค่าทางอาหารและรสชาติจะละลายไปกับน้ำแข็งหมด

จุดเด่นไก่ประดู่หางดำนึ่งสมุนไพร ป้าหล้า

เน้นเรื่องของรสชาติและสมุนไพรให้เข้าถึงเนื้อ เพราะมีการหมักนาน 13-15 ชั่วโมง และมีการกลับด้านทุก 3-4 ชั่วโมง ก็เพื่อให้สมุนไพรซึมเข้าเนื้อไก่มากที่สุด และต้องใช้ไก่ที่ชำแหละใหม่ ไม่นำไก่ค้างไว้นานมาทำ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเพราะเครื่องเทศหรือสมุนไพรที่ใช้นำมาจากฟาร์มในเครือข่ายที่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จากจุดเด่นเหล่านี้ทำให้มั่นใจในรสชาติ ไม่หวงเรื่องปริมาณเครื่องเทศ ใส่ไปเต็มๆ เอาความสด หรือสามารถนำไปปรุงรสเพิ่มได้อีกนิดหน่อยตามความชอบของแต่ละท่าน

อนาคตขยายการตลาด
สู่ห้างโมเดิร์นเทรด และตลาดเพื่อนบ้าน

ณ ตอนนี้ พี่ต้นบอกว่า ยอดขายของผลิตภัณฑ์แปรรูปไก่แบรนด์ป้าหล้าอยู่ในระดับที่ดี สินค้าทุกชนิดมีมาตรฐานโอท็อป 3-5 ดาวรองรับ ได้มีโอกาสเปิดตลาดไกลขึ้น ได้ทำให้ไก่สายพันธุ์นี้มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นจนไปถึงภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย ในอนาคตข้างหน้าจะมีการร่วมมือกับกระทรวงการค้าระหว่างประเทศไปเปิดตลาดที่ประเทศลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งตอนนี้ต้องยกเลิกไปก่อนเพราะมีปัญหาไวรัสโควิด-19 เข้ามา แต่หลังจากผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปแล้วรับรองว่าประเทศเพื่อนบ้านจะต้องรู้จักแบรนด์ป้าหล้าแน่นอน และนอกจากนี้ ยังได้รับความสนใจจากริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ตเชียงใหม่ ให้วางขายทุกสาขา กำลังอยู่ในช่วงส่งใบเสนอราคาและติดตามผล และล่าสุดได้รับการติดต่อจากห้างเซ็นทรัลที่ต้องการสินค้าของเราไปวางขายในห้างก็กำลังอยู่ในช่วงเจรจารายละเอียดต่างๆ ซึ่งในระหว่างที่รอส่งโมเดิร์นเทรดก็มีตลาดหลักในเพจ ไส้อั่วไก่ป้าหล้า ไก่อบรมควัน ไก่นึ่งสมุนไพร ไก่ต้มน้ำปลา ผู้ที่สนใจสามารถสั่งสินค้าผ่านช่องทางนี้ได้เลย

“ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากให้ไก่แปรรูปป้าหล้าเป็นสินค้าที่ทุกคนพูดถึงเป็นที่ยอมรับและที่รู้จักในตลาด อย่างน้อยก็ขอในประเทศเราก่อนในเบื้องต้นให้เป็นที่แพร่หลาย และของเรามีการพัฒนาแพ็กเกจจิ้งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการส่งออก มีการส่งเสริมจากผู้เชี่ยวชาญเข้ามาออกแบบแพ็กเกจจิ้ง ออกแบบโลโก้ให้เป็นสากลมากกว่าเดิม ก็อยากให้เป็นสินค้าใหม่ที่มีคนจดจำและเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั่วไป” พี่ต้น กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจอยากลิ้มรสชาติไก่ประดู่หางดำ แบรนด์ป้าหล้า สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 090-317-3656

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2563