เผยแพร่	วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2560

ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ จึงอยากช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มนี้

โดยจะการันตีคุณภาพด้วยแบรนด์ อาทิตยาปลาทูนึ่งก้างนิ่ม

แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักปลาทูแม่กลอง ของดีจังหวัดสมุทรสงคราม ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น หน้างอ คอหัก รสชาติมัน อร่อย จนทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อีกทั้งปลาทูยังเป็นอาหารที่คนไทยนิยมบริโภคเป็นอย่างมาก

แม้ขณะนี้จะมีปลาทูจากต่างประเทศเข้ามาบุกตลาดเมืองไทยจำนวนมาก ทั้ง อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย เมียนมา หรือเยเมน แต่ปลาทูแม่กลองก็ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มีหลายคนพยายามที่จะพัฒนาต่อยอดไปสู่สินค้ารูปแบบต่างๆ เช่น เบอร์เกอร์ปลาทู เป็นต้น

เช่นเดียวกับ “อาทิตยา อมาตยกุล” เจ้าของแบรนด์อาทิตยาปลาทูนึ่งก้างนิ่ม ภายหลังจากเรียนจบด้านบัญชีและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเป็นเลขานุการในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้หันมาทำธุรกิจส่วนตัวตามความสนใจที่มีอยู่ก่อนแล้ว ประกอบกับพื้นเพเป็นคนแม่กลอง จึงคิดที่จะนำของดี หรือของขึ้นชื่อจังหวัดสมุทรสงครามมาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมีไอเดียว่าจะต้องมีความแตกต่างจากร้านค้าที่มีอยู่เดิมๆ จนกระทั่งได้คิดค้นและพัฒนาการผลิต “ปลาทูก้างนิ่ม” ขึ้นมาด้วยตัวเอง

“อาทิตยา” กล่าวถึงที่มาในการเริ่มต้นธุรกิจนี้ว่า ปลาทูแม่กลองได้รับความนิยมบริโภคจำนวนมาก ซึ่งของแท้ต้องมีที่มาจากอ่าวไทย หรือที่เรียกกันว่า อ่าวตัว ก. เท่านั้น โดยขนาดตัวจะเล็ก ก้างเยอะ ซึ่งเป็นอุปสรรคของผู้บริโภคหลายคน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงวัย ทำให้เกิดแนวคิดว่า จะทำอย่างไรให้ปลาทูแม่กลองสามารถกินได้ง่าย เก็บได้นานขึ้น รสชาติพอดี สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู และรับประทานได้ทั้งตัว กินง่าย เก็บนาน ทานทั้งตัว

ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2557 จึงได้เริ่มคิดค้น ทดลอง และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และเมื่อต้นปี 2558 ได้ส่งสินค้าออกสู่ตลาด ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,500 เข่ง ต่อวัน บรรจุ เข่งละ 4 ตัว จำหน่ายราคา เข่งละ 70  บาท ซึ่งคาดว่าอีก 3 ปี ตั้งเป้ากำลังการผลิตจะสูงถึง 10,000 เข่ง ต่อวัน

สำหรับช่องทางการจำหน่ายในขณะนี้จะเน้นออนไลน์เป็นหลัก ขณะที่คู่แข่งทางการตลาดก็คือ ปลูกทูนึ่งทั่วๆ ไป แต่กลุ่มผู้บริโภคแตกต่างกัน เนื่องจากแบรนด์อาทิตยาเน้นกลุ่มคนรักสุขภาพและผู้สูงวัย

นอกจากปลาทูนึ่งก้างนิ่มจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักแล้ว “อาทิตยา” ยังได้พัฒนาเมนูพร้อมเสิร์ฟอีกหลายชนิด เช่น ซูชิปลาทูไทยที่มีรสชาติหลากหลาย ได้แก่ ต้มยำ ซาเตี๊ยะ ปลาทูราดพริก ปลาทูน้ำพริกกะปิชะคราม ฯลฯ คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้

“ตอนนี้เตรียมทำเว็บไซต์ให้ผู้บริโภคเลือกเมนูที่ต้องการ เช่น ต้มยำ เมื่อสั่งซื้อวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะจัดส่งปลาทูและเครื่องต้มยำให้ถึงที่บ้าน เพิ่มความสะดวกสบาย สามารถเวฟกินได้เลย โดยใช้ระบบขนส่งของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (Kerry Express) โดยมีเมนูให้เลือก 10 เมนู เช่น ลาบปลาทู น้ำพริกปลาทู เป็นต้น รวมถึงจะทำปลาทูสแน็ก ซึ่งเป็นปลาทูทอดบรรจุถุงฉีกซองและสามารถอุ่นกินได้ทันที”

ขณะเดียวกันยังมีการจำหน่ายแฟรนไชส์อีกด้วย ซึ่งจะเป็นเสมือนศูนย์กระจายสินค้าให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดนั้นๆ ไปจำหน่ายต่อด้วย ขณะนี้มุ่งสู่ตลาดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ยโสธร ขอนแก่น กำลังอยู่ระหว่างการตกแต่งร้าน คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคมนี้

โดยภายในศูนย์กระจายสินค้ายังมีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและของขึ้นชื่อเมืองแม่กลองแบรนด์อื่นๆ รวมถึงสินค้าโอท็อปด้วย ซึ่งในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ จึงอยากช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มนี้ โดยจะการันตีคุณภาพด้วยแบรนด์อาทิตยา

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคที่ยังเกิดข้อกังขาและไม่มั่นใจว่าใส่สารดินประสิว เพื่อทำให้ก้างนิ่มหรือไม่ “อาทิตยา” บอกว่า เธอใช้วิธีส่งผลิตภัณฑ์ปลาทูก้างนิ่มเข้าประกวดและรับรองคุณภาพจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ จนกระทั่งได้รับรางวัลจำนวนมาก เช่น รางวัลภูมิปัญญาดีเด่นระดับจังหวัดของประเทศไทย รางวัลแม่กลองการันตี มีดีต้องบอกต่อ และผ่านการคัดสรรสินค้าโอท็อป 5 ดาว อีกทั้งยังได้จดอนุสิทธิบัตรนวัตกรรมนี้เรียบร้อยแล้ว

ปลาทูก้างนิ่ม กินแล้วก้างไม่ติดคอ เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นทั้งความพยายามในการพัฒนาต่อยอดสิ่งใกล้ตัวคู่ครัวไทยให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ