| ผู้เขียน | มนัส ช่วยบำรุง |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เจลาโต้ ของหวานคลายร้อนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยรสสัมผัสอันหวานนุ่มละมุนลิ้น เติมเต็มความชุ่มฉ่ำจากเนื้อผลไม้สดหลากรส โดยใช้นมโคเป็นส่วนประกอบหลัก ส่งผลให้มีไขมันต่ำและมีรสชาติที่เข้มข้น นับเป็นคุณสมบัติอันแสนพิเศษของเจลาโต้ที่เชื้อเชิญให้ลองชิม
ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่มีการแปรเปลี่ยนไป การประกอบธุรกิจส่วนตัวได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับกระแสโลกาภิวัตน์โดยที่ยังคงรักษาจุดยืนของตนเองเอาไว้ได้และมีแนวคิดที่แปลกออกไปจึงอยู่รอดได้ในสังคมยุคปัจจุบัน
คุณเกสิน สุขสวัสดิ์ หรือ คุณเกรท หนุ่มมาดเข้มนัยน์ตาชวนฝัน นับเป็นอีกหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกลิขิตชีวิตด้วยตนเองผ่านการสร้างแบรนด์ “Great Get Gelato” เจลาโต้รสแท้ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์รูปแบบการผลิตเหมือนดั่งเช่นในประเทศอิตาลีพร้อมเสิร์ฟเป็นอาหารว่างหรือของหวานหลังอาหารให้ได้กินกันอย่างจุใจ
คุณเกรท เล่าว่า ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเจลาโต้ในจังหวัดชุมพร ได้ประกอบธุรกิจแพปลาของครอบครัว รับซื้อปลาอยู่ที่ตลาดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2557 ได้มีโอกาสกลับมาท่องเที่ยวยังบ้านเกิดในจังหวัดชุมพร ได้ไปเยี่ยมชมสวนมะพร้าวของอาม่าซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลหาดทรายรี แล้วได้เห็นมะพร้าวที่หล่นอยู่เป็นจำนวนมากจึงเกิดแนวคิดผลิตน้ำมันมะพร้าว พร้อมทั้งศึกษาองค์ความรู้ในการผลิตน้ำมันมะพร้าวจากแหล่งต่างๆ รวมถึงได้เข้าร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสมาคมหอการค้าไทย เพื่อวางแนวทางจัดจำหน่ายและออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มผลิตน้ำมันมะพร้าวในปี พ.ศ. 2559 และหยุดลงในปี พ.ศ. 2561 เนื่องจากวัตถุดิบ (มะพร้าว) มีราคาที่สูงขึ้นและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจผลิตน้ำมันมะพร้าวจะหยุดลงไปแต่องค์ความรู้ต่างๆ ที่สั่งสมมารวมถึงพรรคพวกที่คอยสนับสนุนยังคงอยู่ จึงเลือกเป้าหมายใหม่ในการดำเนินธุรกิจอีกครั้งโดยใช้ประสบการณ์จากตอนทำแพปลาและผลิตน้ำมันมะพร้าวมาปรับใช้ ผนวกกับในช่วงเวลานั้นตนเองมีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้นจึงได้ไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ กับแฟนเพื่อแสวงหาไอเดียในการทำธุรกิจ ในแทบทุกครั้งระหว่างทางเมื่อกินอาหารมักจะมีการสั่งขนมหวานและหนึ่งในนั้น คือ ไอศกรีม จึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมราคาไอศกรีมแตกต่างกันทั้งที่มีขนาดเท่ากัน จึงเริ่มหันเหความสนใจไปศึกษาด้วยวิธีการทดลองชิมทั้งไอศกรีมในระดับท้องถิ่นและแบรนด์ดังต่างๆ เพื่อให้ทราบว่ามีความต่างกันอย่างไร
จนกระทั่งได้ไปกินไอศกรีมโฮมเมดที่คนอิตาลีผลิตจำหน่ายมีรสชาติที่อร่อยถูกปากและมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของร้านจึงทราบว่าที่กินเข้าไปไม่ใช่ไอศกรีมแต่เป็น “เจลาโต้” ซึ่งมีความแตกต่างจากไอศกรีมโดยทั่วไปที่มักใช้ส่วนผสมหลัก คือ น้ำหอม น้ำตาล วัตถุแต่งกลิ่น นมผง เป็นต้น ส่วนเจลาโต้จะใช้ไขมันจากนมโคแท้ ผลไม้สด ส่งผลให้มีโปรตีนสูง หวานน้อย ไม่มีน้ำหอม และมีรสชาติที่อร่อยกว่ากันมาก นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญก่อให้เกิดแนวคิดผลิตเจลาโต้โฮมเมดออกจำหน่าย โดยมีจุดมุ่งหมายว่า “อยากให้คนได้กินเจลาโต้แท้ในราคาที่ถูกลง ไม่ใช่ระดับ 300-400 บาท คิดว่าเราสามารถที่จะทำได้และไม่ได้หวังกำไรมาก แค่อยากให้คนในท้องถิ่นชุมพรบ้านเราได้กินของดีๆ แบบนี้”
ส่วนการคิดชื่อแบรนด์รวมถึงโลโก้สินค้านั้นใช้วิธีการถ่ายทอดออกมาจากแนวคิดของตนเองทั้งหมด โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Great Get Gelato หมายความว่า “ให้คุณรับเจลาโต้ที่ดีจากเราไป เพราะเราอยากให้คุณได้กินของดี”
สืบเสาะ ค้นหา
การเริ่มต้นทำกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดความรู้จริงในสายงานของตนเองถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การผลิตเจลาโต้เองก็เช่นกัน มีทั้งศาสตร์และศิลป์อยู่ในตัว ผู้ที่จะผลิตจึงย่อมต้องแสวงหาความรู้จากผู้รู้ในประเทศต้นกำเนิดอย่างอิตาลีเพื่อให้คงรสชาติตามแบบต้นฉบับ รวมไปถึงเอกลักษณ์ในความเป็นเจลาโต้เอาไว้ให้มากที่สุด
“เจลาโต้ เป็นคำที่มาจากภาษาอิตาลี หมายถึง นมแช่แข็ง เพราะฉะนั้น ย่อมมีถิ่นกำเนิดในประเทศอิตาลี การศึกษาถึงวิธีการผลิตเจลาโต้จึงต้องอาศัยการไปเรียนรู้กับต้นตำรับโดยตรง ได้ว่าจ้างครูชาวอิตาลีที่มีความถนัดในการทำเจลาโต้แท้ๆ มาสอนวิธีการทำให้ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ เพื่อให้ทราบถึงประวัติความเป็นมาและวิธีการทำขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังได้ศึกษาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในการผลิตเจลาโต้อีกนับสิบรายกว่าจะมีข้อมูลแน่นพอ จนกระทั่งตกผลึกความคิดได้ว่าผู้เชี่ยวชาญแต่ละรายที่มาจากอิตาลีก็ย่อมมีรสชาติในการผลิตเจลาโต้ที่จำเพาะถิ่นไม่เหมือนกัน อาจมีหวานมัน เข้มข้นจนเกินไปบ้าง
เมื่อได้ข้อมูลมาอย่างครบถ้วนแล้วจึงนำมาวิเคราะห์แล้วลองผลิตเจลาโต้ออกมาในรสชาติที่ต้องการ แต่ก็ประสบปัญหาว่าเราไม่สามารถทดลองผลิตเจลาโต้กินที่บ้านได้ เพราะไม่สามารถใช้เครื่องผลิตไอศกรีมถังปั่นแล้วออกมาเป็นเจลาโต้ได้ เนื่องจากขั้นตอนการผลิตเจลาโต้นั้นต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ เลยตัดสินใจซื้อเครื่องผลิตเจลาโต้โดยเฉพาะซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะตัว คือไม่สามารถผลิตไอศกรีมชนิดอื่นได้นอกจากเจลาโต้เท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งที่ทำให้เจลาโต้มีความแตกต่างออกไปจากไอศกรีมธรรมดาและสามารถที่จะคงรสชาติอันมีเอกลักษณ์เอาไว้ได้นั้นย่อมมีเหตุผลสืบเนื่องมาจากขั้นตอนการผลิตที่มีความพิถีพิถันกว่ามากและยังขึ้นอยู่กับอัตราส่วนผสมในแต่ละครั้งอีกด้วย
“ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไอศกรีม และเจลาโต้มีความแตกต่างกัน โดยไอศกรีมจะมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และใช้ไขมันพืชในการทำ ส่วนเจลาโต้จะมีน้ำตาลผสมอยู่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้มีรสชาติที่หวานน้อย อีกทั้งยังใช้ไขมันจากนมโคแท้ทำให้มีต้นทุนในการผลิตสูงกว่า โดยที่ยังคงรสชาติของนมแท้เอาไว้จึงอร่อยกว่า ทั้งนี้ ไอศกรีมที่เรากินทั่วไปจะได้ความมันจากน้ำมันปาล์มทำให้มีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไป เพราะฉะนั้น เกรท เก็ท เจลโต้ จึงเลือกผลิตเจลาโต้ด้วยไขมันจากนมโคแท้ซึ่งมีคุณภาพดีกว่านั่นเอง”
คัดเลือกวัตถุดิบ สดจากธรรมชาติ
แม้จะมีตัวช่วยอย่างเครื่องผลิตเจลาโต้โดยเฉพาะ แต่ก็ยังคงต้องอาศัยผู้ควบคุมขั้นตอนการผลิตและคัดเลือกวัตถุดิบซึ่งจะต้องนำมาเป็นส่วนผสมของเจลาโต้อย่างพิถีพิถัน
“ปัจจุบันธุรกิจผลิตไอศกรีมที่เป็นระดับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการนำเครื่องจักรเข้ามาเป็นตัวช่วยในการผสมเครื่องปรุงต่างๆ อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรจะรู้แค่เพียงว่าจะต้องคลุกเคล้าส่วนผสมไปในจำนวนเท่าใดตามเกณฑ์ที่มีกำหนดไว้ แต่การควบคุมขั้นตอนการผสมด้วยตนเองย่อมทำให้รู้ว่าวันนี้นมมีค่าความมันเท่าไร สตรอเบอรี่มีรสเปรี้ยวไปหรือหวานน้อย เพราะเราใช้ผลไม้สดระดับรสชาติจึงต้องควบคุมเป็นพิเศษ ไม่ใช้สารแต่งกลิ่นที่สามารถระบุอัตราส่วนได้ว่าต้องใช้ในปริมาณเท่าใดก็สามารถรักษารสชาติให้คงเดิมเอาไว้ได้
สำหรับวัตถุดิบหลักในการผลิตเจลาโต้ ได้แก่
- นมโคแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ หาได้จากฟาร์มโคนมที่เป็นเครือข่ายกันทั้งในจังหวัดชุมพร จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสระบุรี
- ไขมันนม ถือเป็นวัตถุดิบที่มีความสำคัญมีส่วนทำให้เจลาโต้มีรสชาติมัน อร่อยถูกปากผู้กิน มีลักษณะคล้ายครีม ต้องเน้นคัดเป็นพิเศษโดยใช้วิธีการสั่งซื้อจากฟาร์มโคนมที่ได้รับมาตรฐานทางการผลิตนมจากประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้จัดส่งให้
- ผลไม้ เลือกใช้ผลไม้ตามรสชาติที่ต้องการ เช่น รสกล้วย รสกาแฟ รสกะทิ จะหาวัตถุดิบได้จากสวนของเกษตรกรภายในท้องถิ่นจังหวัดชุมพร ส่วนน้ำนมถั่วเหลืองจะนำวัตถุดิบมาจากร้านเต้าหู้เจ้าเก่าในจังหวัดระนองซึ่งมีกลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้แล้ว ยังมีรสชาเขียวที่ใช้ชาเขียวเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากญี่ปุ่น รวมถึงรสสตรอเบอรี่ซึ่งเลือกใช้สตรอเบอรี่ส่งตรงจากฟาร์มในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ถือเป็นการลงทุนเพื่อให้ได้รสชาติที่เราต้องการ”
เจลาโต้ ทำอย่างไร ให้อร่อย
คุณเกรทเลือกที่จะเป็นผู้ผสมและควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมดด้วยตนเอง เนื่องจากต้องการให้รสชาติของเจลาโต้ที่ได้เป็นรสชาติที่ต้องการและไม่ผิดเพี้ยนออกไปจากเดิม
“เมื่อได้วัตถุดิบมาแล้วก็ต้องนำมาล้างทำความสะอาดก่อนเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะผลไม้ เมื่อล้างเสร็จจึงเริ่มต้นผสมเครื่องปรุงต่างๆ ตามสูตรในการทำเจลาโต้รสนั้นๆ ทั้งนี้ สูตรการทำเจลาโต้โดยปกติแล้วทุกคนสามารถทำได้แค่เทนม ไขมันนม น้ำตาล และผลไม้ลงในหม้อเพื่อปั่นให้เข้ากันจนกลายเป็นน้ำผสม (เจลาโต้มิกซ์) แล้วนำมาเข้าสู่กระบวนการพาสเจอไรซ์ด้วยวิธีการต้มที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้อโรคประมาณ 30 วินาที ก่อนทำให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็วด้วยอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาที หลังจากนั้น จึงเทใส่เครื่องผลิตเจลาโต้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดขั้นตอนอันยุ่งยากในกระบวนการดังกล่าวลงจึงเลือกใช้เครื่องผลิตเจลาโต้โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตน้ำเจลาโต้มิกซ์ได้อย่างง่ายดาย ผ่านวิธีการเทส่วนผสมต่างๆ รวมกันลงไปในเครื่องแล้วพาสเจอไรซ์ด้วยอุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส และทำให้เย็นตัวลงจนกระทั่งออกมาเป็นแท่งเจลาโต้ได้ในคราวเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่เลือกใช้วิธีการทำในระบบปิดเพราะสามารถที่จะควบคุมความสะอาดได้ง่าย จบได้ในกระบวนการเดียวโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อโรคและไม่ต้องซื้อเครื่องจักรทั้งกระบวนการผลิตจำนวนหลายตัว
อีกทั้งเครื่องผลิตเจลาโต้นี้ยังทำความเย็นได้ถึง -9 องศาเซลเซียสได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถคงความสดใหม่และรักษาน้ำเจลาโต้มิกซ์ที่มีรสอร่อยของเนื้อผลไม้ให้ยังคงอยู่ได้ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าวและได้แท่งเจลาโต้ออกมาเรียบร้อยแล้วก็นำมาเข้าสู่กระบวนการบรรจุซองจัดเก็บเอาไว้ในห้องปลอดเชื้อและอยู่ในอุณหภูมิที่เราต้องการ
ค้นคว้ารสชาติให้ถูกใจผู้บริโภค
ในกระบวนการผลิตเจลาโต้การเลือกรสชาติให้เป็นที่ถูกปากผู้ซื้อย่อมสำคัญไม่น้อยไปกว่าขั้นตอนอื่น เนื่องจากเป็นตัวสร้างกระแสดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคให้กลับมาลิ้มลองเจลาโต้ในรสชาติที่มีความแปลกใหม่นั้นอีกครั้ง
“สำหรับรสชาติของเจลาโต้ทั้งหมดที่คิดค้นขึ้นล้วนแล้วแต่มีแนวคิดมาจากความชื่นชอบส่วนตัวแทบทั้งสิ้น ซึ่งปัจจุบันเกรท เก็ท เจลาโต้มีการผลิตเจลาโต้อยู่ทั้งหมด 9 รสชาติ คือ รสดาร์กช็อกโกแลต รสชาเขียว รสครีมชีส รสสตรอเบอรี่ รสคาราเมล รสน้ำนมถั่วเหลือง รสกะทิ รสกาแฟ และรสกล้วย
สำหรับรสชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ รสช็อกโกแลต โดยรสชาติของช็อกโกแลตในผู้ผลิตไอศกรีมแต่ละรายก็มีความแตกต่างกัน เนื่องจากต้องแบ่งเกรดวัตถุดิบออกเป็นช็อกโกแลตแท้และช็อกโกแลตเทียม ส่งผลให้ระดับราคามีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตต้องการรสชาติแบบใดจึงเลือกใช้วัตถุดิบชนิดนั้น ส่วนตัวแล้วจะเลือกใช้ช็อกโกแลตเกรดสูงสุดนำมาผลิตเจลาโต้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่นิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ
ส่วนรสน้ำนมถั่วเหลืองเลือกผลิตขึ้นภายใต้สมมติฐานที่คนทั่วไปอาจคิดว่าไม่อร่อย แต่หากมองในมุมกลับกันนับเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเลือกผลิตเจลาโต้โฮมเมดรสชาตินี้ กอปรกับบ้านแฟนดำเนินกิจการร้านขายน้ำเต้าหู้อยู่ในจังหวัดระนอง มีการสืบทอดสูตรการผลิตกันมาอย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่น เลยเลือกเป็นหนึ่งในรสชาติที่ผลิตจำหน่าย อีกทั้งยังถือเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองเจลาโต้รสชาติใหม่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เจลาโต้ที่ผลิตขึ้นภายใต้แบรนด์ เกรท เก็ท เจลาโต้ จะไม่มีรสวานิลลา เนื่องจากในขั้นตอนการผลิตเจลาโต้รสวานิลลาจะต้องมีการปรุงแต่งด้วยน้ำหอมเพิ่มเติมเข้าไปซึ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานในการผลิตที่ไม่ใช้สารปรุงแต่งกลิ่น เน้นให้หวานน้อยโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ กินแล้วได้รู้ถึงรสชาติของเจลาโต้อย่างแท้จริง”
ช่องทางจัดจำหน่าย
เนื่องจากการผลิตเจลาโต้ต้องใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี การเลือกร้านสำหรับติดตั้งตู้จำหน่ายจึงนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการคัดกรองร้านค้าให้มีความเหมาะสมกับคุณภาพของสินค้ามากที่สุด
“การเลือกร้านจำหน่ายเจลาโต้จะต้องตั้งอยู่บนแนวคิดว่าลูกค้ามีอำนาจในการซื้อบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพหรือไม่ โดยก่อนที่จะนำตู้แช่ไปติดตั้งให้แก่ร้านค้าทุกครั้งจะมีการนำเจลาโต้ไปให้เจ้าของร้านได้ลองชิมก่อนเสมอ เพื่อให้ทราบถึงรสชาติและเข้าใจความหมายของเจลาโต้ว่ามีความแตกต่างจากไอศกรีมโดยทั่วไปอย่างไร เมื่อถูกใจในรสชาติแล้วจึงค่อยทำการลงตู้เพื่อจำหน่ายต่อไป ส่วนในกรณีที่ลูกค้ามีงานจัดเลี้ยง งานแต่ง งานสังสรรค์ต่างๆ ภายในโรงแรมก็สามารถที่จะนำตู้ไอศกรีมไปตั้งไว้คอยให้บริการได้อีกเช่นกัน
ทั้งนี้ ตู้แช่ที่ถูกนำมาให้บริการร้านค้าจะมีคุณสมบัติใช้ไฟน้อย เพราะฉะนั้น ร้านค้าจะได้ทั้งผลกำไรจากการขายและตู้แช่ที่ประหยัดไฟ ไม่เพิ่มภาระให้แก่เจ้าของร้าน โดยผู้ขายมีหน้าที่เพียงเปิดตู้แช่แล้วหยิบเจลาโต้ออกมาจำหน่ายให้ลูกค้าเท่านั้น ส่วนการทำความสะอาดทางเกรท เก็ท เจลาโต้ จะเข้าไปทำความสะอาดตู้แช่ในทุกสัปดาห์เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคที่จะได้กินเจลาโต้ที่สะอาดปลอดจากเชื้อโรค
สำหรับราคาจำหน่ายเจลาโต้ทุกรสชาติจะขายในราคาแท่งละ 45 บาท ส่วนแบบถ้วยราคา 30 บาท โดยลูกค้ากลุ่มหลักจะเป็นร้านอาหารภายในจังหวัดชุมพร เช่น ร้านผัดไทยถาดบ้านหมอแต๋ว หาดทรายรี รองลงมา ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยว เช่น ร้านกาแฟถ้ำสิงห์ ณ จุดชมวิวเขามัทรี เป็นต้น”
นอกจากนี้แล้ว เกรท เก็ท เจลาโต้ ยังมีการตั้งเป้าหมายผลิตเจลาโต้ที่ทำจากน้ำนมแท้จำหน่ายให้กับเด็กนักเรียนภายในท้องถิ่น ทั้งในจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง ในราคาเพียงแท่งละ 10 บาท (เฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น) โดยมุ่งหวังให้เด็กได้กินเจลาโต้ในราคาที่ถูกและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
ฝากทิ้งท้ายถึงผู้สนใจทำธุรกิจไอศกรีม “การทำไอศกรีมนั้นไม่ยาก แต่การทำให้อร่อยพร้อมคงความสดใหม่ของวัตถุดิบเป็นเรื่องยาก การใช้เครื่องผลิตไอศกรีมที่ไม่ได้มาตรฐานย่อมไม่สามารถทำอุณหภูมิได้ รสชาติก็ไม่ประทับใจผู้ซื้อ สุดท้ายแล้วก็ต้องเลิกกิจการไป เสียเวลา เสียเงินทุน และเสียกำลังใจ เพราะฉะนั้น หากเลือกทำธุรกิจนี้ต้องไปให้สุดก่อนเป็นลำดับแรก”
ติดต่อผู้ประกอบการ คุณเกสิน สุขสวัสดิ์ หรือ คุณเกรท เลขที่ 303 หมู่ที่ 8 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร 86120 โทร. (081) 113-9939, (061) 442-8245 เฟซบุ๊ก Great Get Gelato
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่
