ที่มา | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
จันทบุรี ถือเป็นแหล่งปลูกผลไม้ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น เงาะ ทุเรียน และมังคุด ฯลฯ ดังนั้น การนำผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้มาเพิ่มมูลค่า จึงเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างงาม
“คุณบุญเที่ยง พฤกษากิจ” เจ้าของ บริษัท จันทบุรี ฟรุ๊ต โปรดักส์ จำกัด เป็นคนหนึ่งที่แปรรูปผลไม้ทั้งทอดกรอบ อบ และกวน ซึ่งก็มีผลไม้หลายชนิดที่อยู่ในสวนของเขาเอง ที่อยู่ในอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 50 ไร่ และสวนที่จังหวัดตราด ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอมพันธุ์หอมทอง ขนุน และมังคุด ขณะเดียวกันก็รับซื้อจากสวนอื่นๆ ด้วย
มีสวนผลไม้เอง ได้เปรียบเจ้าอื่น
คุณบุญเที่ยง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยรับราชการเป็นอาจารย์มาก่อน แต่เมื่อธุรกิจไปได้ดีก็ลาออกเพื่อมาทำธุรกิจเต็มตัว โดยมีลูกๆ มาช่วยดูแลกิจการด้วย ซึ่งมีขายในท้องตลาดอยู่ 2 แบรนด์ คือ บุญเที่ยง กับ บีฟรุ๊ต 2
“เริ่มแรกเลย เราทำทุเรียนทอด แล้วขยายมาทำประเภทกวน เช่น สะละกวน มังคุดกวน ประเภททอดเริ่มมาตั้งแต่ ปี 2538 แต่เริ่มตั้งโรงงาน ปี 2539 ประสบความสำเร็จในปี 2550 โดยเรามีวัตถุดิบเอง อีกทั้งเครื่องจักรก็คิดค้นทำกันเอง จากนั้นเพิ่มไลน์ผลิตมาเป็นน้ำมังคุด”
วันนี้ บริษัทจันทบุรี ฟรุ๊ต โปรดักส์ จำกัด มีผลิตภัณฑ์เกือบ 30 ชนิด ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามใจชอบ และล่าสุดได้ทำน้ำมังคุด ซึ่งมีผลตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นน้ำมังคุดแท้ๆ โดยไปผลิตที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี เนื่องจากในระยะแรกนี้สถานที่ยังไม่พร้อม ต้องรออีกสักปีเพื่อสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งจะแบ่งโซนในการผลิตน้ำมังคุดโดยเฉพาะ
“น้ำมังคุด จะมีจุดเด่นในด้านคุณค่าทางโภชนาการมาก โดยเราเอาเนื้อมังคุดสุกแท้ๆ มาบด มาปั่น มาทำสเตอริไลซ์อย่างดีก่อนบรรจุเป็นขวด ตอนนี้ขายที่ห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และวางขายที่ บิ๊กซี ที่ผ่านมา ที่ท็อปส์ ก็ขายได้ มียอดสั่งซื้อเข้ามาแทบทุกสัปดาห์
น้ำมังคุดของเราแตกต่างจากเจ้าอื่นในเรื่องของความเข้มข้น และบรรจุภัณฑ์ของผมจะใส่ขวดแก้ว ที่วางขายทั่วไปจะใส่ขวดพลาสติก สาเหตุที่ผมใช้ขวดแก้ว เพราะถูกหลักอนามัย สะอาด เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด และถ้าเทียบเรื่องรสชาติกับรายอื่นๆ ของผมรสชาติดี เพราะเราได้มังคุดมาเราจะปรับประมาณสัก 10 บริกซ์ เพราะมังคุดที่ได้มีความหวานจะไม่เท่ากัน หวานมาก หวานน้อย ปรับให้ได้ 10 บริกซ์ ก็จะได้ความหวานที่พอดี”
รับประกัน น้ำมังคุดแท้ๆ
ว่าไปแล้ว ในท้องตลาดมีน้ำมังคุดขายกันหลายเจ้า ในฐานะผู้ผลิต คุณบุญเที่ยง ให้คำแนะนำว่า “ในตลาดก็มีทำกันหลายราย แต่บางรายที่ขายราคาถูก เพราะจะใส่น้ำ ใส่สี ใส่กลิ่น แต่เราเน้นเรื่องคุณภาพ เพราะวัตถุดิบเราใช้จากสวนมังคุดของเราเอง ทิ้งไว้ให้มันสุกงอม แล้วเอามาแกะเอง จะมีซื้อสวนอื่นบ้างตอนช่วงที่มังคุดล้นตลาด ซึ่งราคาจะถูกลง ที่ผ่านมาเคยซื้อมังคุดแกะเนื้อแล้ว ราคากิโลกรัมละ ประมาณ 40-80 บาท”
การทำผลไม้แปรรูปนั้น ปัญหาที่คุณบุญเที่ยงมักเจอะเจอก็คือ เรื่องวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งเขาบอกว่าถือเป็นปัญหาหนักสุด เพราะถ้าวัตถุดิบไม่ได้คุณภาพ สินค้าก็ออกมาไม่ดี และในแต่ละช่วงเวลา ผลไม้จะให้รสชาติไม่เหมือนกัน อย่างฝนตกหนัก ผลไม้จะไม่ค่อยมีคุณภาพ ขณะที่แรงงานทุกวันนี้มักไม่ค่อยมีคุณภาพ ความรับผิดชอบไม่มี แต่อยากได้ค่าแรง
“โชคดี ผมทำเครื่องจักรใช้เอง ผมจะรู้จุดอ่อนตรงไหน และผมเองก็อยู่ในวงการวัตถุดิบ เพราะฉะนั้นผมจะรู้ว่า ปัญหามาจากวัตถุดิบหรือมาจากเครื่องจักร จะสามารถแก้ได้ตรงจุด”
ในการนำผลไม้มาแปรรูปนั้น โดยเฉพาะการทอดกรอบนั้น คุณบุญเที่ยงจะใช้ระบบแวคคัม ซึ่งใช้น้ำมัน เป็นตัวพาน้ำที่อยู่ในผลไม้ออกมาแล้วระเหิดขึ้นไป โดยใช้แวคคัมดูดไอน้ำ และพัฒนาเป็นระบบฟรีซดราย คือเอาผลไม้สุกมาแช่แข็งก่อน แล้วนำไประเบิดในเครื่อง ซึ่งตอนนี้กำลังเขียนแบบ ระบบจะแตกต่างกับตอนนี้ที่เราใช้ระบบแวคคัม พอทำให้ผลไม้มันแข็ง จะดึงน้ำในผลไม้ออกมา โดยใช้แวคเหมือนกัน แต่ไม่ใช้น้ำมัน เป็นแบบทันสมัย ผลไม้แปรรูปที่ใช้ระบบฟรีซดราย ราคาขายจะแพง ถ้าเป็นทุเรียนจะตกกิโลกรัมละ 1,100 บาท แต่ถ้าเป็นระบบแวคคัม หรือระบบธรรมดา ทุเรียนจะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 400-500 บาท”
ทัวร์จีนชอบ ” ทุเรียน-ขนุน “
สำหรับช่องทางการขายของแบรนด์บุญเที่ยง กับ บีฟรุ๊ต นั้น จะขายอยู่ที่สถานที่ท่องเที่ยว ร้านขายของฝากที่พัทยา ชื่อร้านขนมทองทิพย์ อยู่ที่ถนนสวนเสือ ศรีราชา ซึ่งจะมีทัวร์ใหญ่ๆ มาลง โดยเฉพาะทัวร์จีนที่เข้ามาเป็นหลายสิบคันต่อวัน เป็นร้านที่ขายดีมาก นักท่องเที่ยวจีนจะชอบซื้อทุเรียน ขนุน ทอฟฟี่
คุณบุญเที่ยง เล่าว่า ทุเรียนกรอบ จะขายดีสุด รองลงมาเป็น มะม่วงกรอบ สับปะรด ขนุน แต่ตอนนี้ต้นขนุนส่วนใหญ่จะถูกโค่นทิ้งแล้วหันไปปลูกลำไยและยางพารา ทำให้วัตถุดิบหายไปจากท้องตลาดเยอะ และถึงแม้จะปลูกขนุนพันธุ์มาเลย์ ที่ออกทั้งปี แต่ก็ยังไม่พอ เพราะวันหนึ่งจะแกะค่อนข้างเยอะประมาณ 3 ตัน/วัน จะมีทีมแกะแล้วนำมาส่ง
คุณบุญเที่ยง แจกแจงสาเหตุที่มี 2 แบรนด์ ว่า ถ้าเป็น บุญเที่ยง จะเป็นขนาดที่มีน้ำหนัก 100 กรัม แต่ถ้าเป็น บีฟรุ๊ต จะอยู่ที่ 65 กรัม ตอนแรกจะนำแบรนด์บุญเที่ยงขายที่ห้างสรรพสินค้า แต่พอดีแผนกจัดซื้อของทาง ท็อปส์ฯ เห็นขนาด 65 กรัม ว่าสวยดี เลยเอาไปขายด้วย ที่ผ่านมา ขนาดทั่วไป 65 กรัม จะขายดี เพราะว่าน้ำหนักไม่มากเกินไป รับประทานครั้งเดียวหมด
แม้ว่าในท้องตลาดจะมีผู้ผลิตผลไม้แปรรูปแบบคุณบุญเที่ยงหลายเจ้า แต่เจ้าตัวก็ไม่หวั่น เพราะผลไม้กรอบ และผลไม้กวนของบริษัทได้มาตรฐาน อ.ย. GMP ฮาลาล ทั้งยังได้รับรางวัล สินค้า OTOP 5 ดาว ของระดับจังหวัด และระดับประเทศ
“สินค้าของผมจะดีกว่าเจ้าอื่น ดูจากลูกค้าออเดอร์เข้ามาเยอะ ซึ่งตอนนี้ออเดอร์ล้น ทำส่งไม่ทัน เพราะคนงานเรามีแค่ 30 กว่าคนเอง ทำเกี่ยวกับผลไม้หาคนงานยาก อีกอย่างที่เราได้เปรียบเจ้าอื่น เพราะมีสวนเอง แล้วก็ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ เพราะฉะนั้นผมเลยจะได้ผลไม้ที่สดและแก่จัด คือ ถ้า 100-200 กิโลกรัม ผมก็วิ่งไปเอาได้เลย”
ในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี นั้น คุณบุญเที่ยง มองว่า ตอนนี้เมืองไทยค่อนข้างเสียเปรียบ เพราะเรื่องค่าแรงงานลูกจ้างรายวันแพงกว่าประเทศอื่น แต่ที่ขายได้ เพราะเรื่องคุณภาพ ทั้งการผลิต และรสชาติ แต่หากเปรียบเทียบเรื่องราคาจะสู้ที่อื่นไม่ได้ อย่างถ้าจะเข้าไปขายที่เมืองจีน จะสู้เวียดนามไม่ได้ เพราะเวียดนามราคาถูกกว่าบ้านเรามาก ซึ่งเท่าที่เคยรับประทานของเวียดนาม ผลไม้ทอดกรอบจะแข็ง แต่ที่ขายได้เพราะถูก ถ้าเปรียบเทียบน้ำหนักเท่ากัน เราจะต้องขายที่ 100-150 บาท แพงกว่า เพราะว่าต้นทุนเราสูงกว่า
นอกจากผลิตผลไม้แปรรูปในระบบฟรีซดรายแล้ว ยังสร้างโรงงานใหม่เพื่อแยกส่วนในการทำน้ำมังคุด และจะทำน้ำมะม่วงอีกด้วย พร้อมกันนั้นจะเน้นขายตลาดต่างประเทศ อย่าง ยุโรป หรือออสเตรเลีย
สนใจผลิตภัณฑ์ของ จันทบุรี ฟรุ๊ต โปรดักส์ฯ ติดต่อ คุณบุญเที่ยง พฤกษากิจ ได้ที่ โทร. (086) 138-4279 หรือเบอร์โทร. โรงงาน (039) 494-094