ตลาดชายแดนแม่สาย “ผลไม้ไทย” ขายดี

“แม่สาย” ประตูเศรษฐกิจไทย-เมียนมา ผลไม้ไทยสร้างสีสันขายดี นักท่องเที่ยวจีนชอบซื้อ ขณะที่ “ตลาดสายลมจอย” ยังคึกคัก รับนักช็อปด้วยสินค้าราคาหลักสิบบาทถึงหลักพันบาท

โอกาสที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ตลาดแม่สาย จังหวัดเชียงรายนั้น เป็นเรื่องไม่ง่ายนัก เพราะตอนนี้ทุกๆ คนก็ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย โดยค่าตั๋วเดินทาง แม้ว่าราคาตั๋วเครื่องบินจะแพงกว่ารถทัวร์ไม่มากนัก แต่การเลือกไปรถทัวร์ก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน โดยครั้งนี้เลือกนั่ง “สมบัติทัวร์” ราคา 904 บาท ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งอาหาร น้ำ การบริการที่ดี และบรรยากาศบนรถที่ปลอดบุหรี่จริงๆ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย มุ่งหน้าสู่สุดเขตแดนประเทศไทย คือ อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อ เลือกเที่ยวแบบสบายๆ สไตล์ไทยๆ ที่ต้องการซื้อของใช้สอยจากฝั่งเมียนมา คู่กัลยาณมิตรของสยามประเทศที่โดดเด่นด้านพระพุทธศาสนามายาวนาน

วันนี้ ตลาดแม่สายต่างจากเมื่อ 30 ปีที่แล้วมาก เพราะมีการพัฒนาตัวเองตลอด โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ “ตลาดสายลมจอย” ในฝั่งไทยนั้น สร้างสีสันบรรยากาศการค้าให้คึกคักทันตา เพราะหากมาเที่ยวแม่สาย 30 ปีที่แล้ว คนไทยก็จะต้องนึกถึงแต่การข้ามไปฝั่งเมียนมา (ชื่อเป็นทางการ คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา) ไปเหยียบพื้นดินที่ท่าขี้เหล็ก และนำของมาขาย หรือของฝากจากเมียนมา ติดไม้ติดมือมาบ้างก็ยังดี หลังจากได้มีโอกาสไปแวะกราบนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมามาแล้ว

บรรยากาศการค้า ที่ตลาดสายลมจอย อำเภแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ขณะที่ตลาดสายลมจอยในปี 2560 มีสินค้าให้เลือกตั้งแต่ราคา 10 บาท ไปถึงหลักพันบาท มีทั้งของจากโรงงานราคาถูก และสินค้าแฮนด์เมดราคาแพง พอเดินไปได้เพียงไม่กี่ร้านค้าก็จะพบอาหารอร่อย ทั้งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ส้มตำ และอาหารไทยๆ อีกหลายร้าน ซึ่งมีราคามาตรฐาน ชามละ 40 บาท

การเติบโตของตลาดชายแดนแม่สาย เปรียบเสมือนช่วงวัยของคนที่มีอายุตั้งแต่เด็ก โตเป็นวัยรุ่น กลายเป็นผู้ใหญ่ เข้าสู่วัยกลางคน ซึ่งจะว่าไปแล้ววันนี้ตลาดชายแดนแม่สาย เสมือนอยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่ ที่เมื่อเดินถึงตลาดชายแดนแม่สายก้าวแรก จะพบกับสินค้าที่พร้อมใช้ อาหารการกินก็สะดวกสบาย มีหน้าตาทันสมัย และบางอย่างก็ล้ำสมัยเหมือนกัน เช่น การนำแม่เหล็กจากฝั่งเมียนมามาขายสำหรับคนที่รักสุขภาพ ซึ่งแม่เหล็กจะถูกดีไซน์เป็นทรงกลมให้เหมาะกับมือ ใช้เพื่อออกกำลังกายให้นิ้วมือคลายอาการนิ้วล็อก และคลายอาการตะคริวที่มือได้ เรียกว่าเป็นสีสันใหม่ๆ ของตลาดแม่สายในปีไก่ก็ว่าได้

ส้มโอราชบุรี มาไกลถึงชายแดนแม่สาย

ส่วนข้างทางตลาดแม่สาย พ่อค้าแม่ค้าก็นำผลไม้ไทยๆ อย่าง “ส้มโอ” และ “ลำไย” มาวางแผงอวดโฉมแบบง่ายๆ ใส่รถเข็นเล็กๆ ไม่ต้องเสียค่าพื้นที่มาก แต่สนนราคานั้นใช้ได้เลย อย่างส้มโอลูกไม่ใหญ่มาก มาถึงตลาดชายแดนแม่สาย ขายกิโลกรัมละ 70 บาท ส่วนลำไยขายกิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งแม่ค้าบอกว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางมาเที่ยวแม่สายมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และนิยมซื้อลำไยไว้รับประทานกัน ส่วนส้มโอก็ขายดี แต่จะขายหมดช้ากว่าลำไย

ลำไย นักท่องเที่ยวจีนชอบซื้อ

เห็นแม่ค้าคนนี้เล่าให้ฟังแล้วก็อุ่นใจ ตลาดชายแดนสุดเขตประเทศไทยอย่าง “แม่สาย” ยังได้รับความนิยมชมชอบจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และยังอุดหนุน “ผลไม้ไทย” ของบ้านเราจนกลายเป็นลูกค้าหลักไปแล้ว

แต่สิ่งที่เป็นเหมือนของไว้รับประทานเล่นเป็นธรรมเนียมเมื่อมาถึง “แม่สาย” นั่นคือ “เกาลัด” คั่วใส่กระทะร้อนๆ เรียกว่า นักท่องเที่ยวชาวจีน เมียนมา และชาวไทย ซึ่งเป็น 3 เชื้อชาติหลัก ยังได้ชิมเกาลัดในฝั่งไทยได้ทันที ซึ่งแม่ค้าขายเกาลัดก็นั่งใส่หมวกทรงจีน ให้บรรยากาศผสมผสานด้านวัฒนธรรมไปอีกแบบ

เกาลัด ยอดขายไปได้เรื่อยๆ แต่สู้ผลไม้ไทยไม่ได้

ส่วนยอดขายเกาลัดนั้น กลับแพ้ “ผลไม้ไทย” ก็เรียกว่า คนขายก็ต้องยอมร้อนกันหน่อย เพราะถ้าหากจะมีรายได้เพิ่มก็อาจจะต้องนำผลไม้ไทยพื้นๆ อย่าง “มะม่วง” มาวางขาย ทั้งผลมะม่วง และมะม่วงแปรรูป อย่างมะม่วงกวน ซึ่งไม่ต้องมาก แต่เรียกรายได้ได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศตลาดชายแดนแม่สายฝั่งไทยที่มีสีสันคึกคักนั้น เป็นภาพที่มาจากการพัฒนาตัวเองอย่างไม่เคยหยุดนั่นเอง ซึ่งต้องยอมรับว่า คนไทยนั้นเก่งในการพัฒนาพื้นที่ค้าขายให้มีเสน่ห์ น่าท่องเที่ยว

บรรยากาศการค้า ที่ตลาดสายลมจอย อำเภแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ส่วนใครอยากจะเดินข้ามไปท่าขี้เหล็ก ฝั่งเมียนมา ด้วยระยะเวลาสั้นๆ ไปเช้าเย็นกลับ ก็สะดวกสบาย ด้วยการบริการของที่ว่าการอำเภอ โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวยื่นกับที่ว่าการอำเภอแม่สาย และเสียค่าธรรมเนียมตามระเบียบราชการ ก็จะได้ “หนังสือผ่านแดนชั่วคราว” (TEMPORARY BORDER PASS) ซึ่งจะมีคิวอาร์โค้ดไว้ให้พร้อมสแกนอ่านรายละเอียดไว้ที่ด้านขวามือของหนังสือ และทางอำเภอแม่สายระบุไว้ในหนังสือผ่านแดนชั่วคราวว่า สามารถพำนักได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวไทยก็จะนิยมเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับเป็นส่วนใหญ่

เมื่อทำเรื่องเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เพียงนำมายื่นให้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งจากฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา ที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย ซึ่งมีเงื่อนไขการข้ามเขตแดนเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ คือ ห้ามนำกล้องถ่ายรูประดับมืออาชีพเข้าไป ถ้าจะนำเข้าไปต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาการท่องเที่ยว ส่วนกล้องจากโทรศัพท์มือถือนั้นนำเข้าไปได้ ซึ่งเงื่อนไขนี้กลายเป็นมารยาทในการท่องเที่ยวไปเสียแล้ว

นักท่องเที่ยวไทยบ้านเราชำนิชำนาญเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือก็มีรูปภาพพอแล้ว และที่สำคัญนักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปช็อปปิ้งที่ท่าขี้เหล็ก และหากมีเวลาพอก็แวะไปเที่ยว “ชะเวดากองน้อย” ซึ่งสามารถนั่งรถรับจ้างจากฝั่งเมียนมาไปได้ หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะก็สะดวกสบาย สามารถเข้าไปตามจุดต่างๆ ของฝั่งเมียนมาได้ โดยผ่านบริษัททัวร์มืออาชีพซึ่งต้องใช้รถทัวร์เลขทะเบียนฝั่งเมียนมาจึงจะถูกระเบียบ เที่ยวได้อย่างสบายใจ

ส่วนอาหารนั้นฝั่งไทยจะเริ่มต้นแพงกว่าเท่าตัว อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดสายลมจอย ราคาขั้นต่ำชามละ 40 บาท ส่วนฝั่งเมียนมา ก๋วยเตี๋ยวพื้นเมืองจะมีสนนราคาขั้นต่ำเพียง 20 บาทเท่านั้น ส่วนจะน่ารับประทานอย่างไรมีโอกาสจะนำมาให้ชมกันอีก ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรม 3 ประเทศ คือ ไทย จีน และเมียนมา นับเป็นกลิ่นอายของพื้นที่ชายแดนแม่สาย ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่ายแต่มีสตางค์ เพราะความขยันขันแข็ง นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ด่านชายแดนแม่สายและท่าขี้เหล็กมีการพัฒนาเติบโตไปอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆ กัน ดั่งกัลยาณมิตรนั่นเอง