ยาง-ปาล์ม-กุ้งขาว ดึงดัชนีราคาสินค้าเกษตรมี.ค.ขยับ 8.15% แนวโน้มยังดีต่อ

น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาสินค้าเกษตร วัดจากดัชนีราคาสินค้าเกษตรประจำเดือนมีนาคม 2560 พบว่าเพิ่มขึ้น 8.15% จากช่วงเดียวกันของปี 2559 โดยสินค้าที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา เพิ่มขึ้นจากเข้าสู่ช่วงต้นยางผลัดใบ ทำให้ผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อยลง ปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นจากตลาดยังมีความต้องการต่อเนื่อง กุ้งขาวแวนนาไม เพิ่มจากผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้กระทบผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย

สินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ มันสำปะหลังราคาลดลง เนื่องจากผู้นำเข้าจากจีนชะลอการรับซื้อ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาลดลงเนื่องจากปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ท้องตลาดเพิ่มขึ้น ไข่ไก่ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดมาก ขณะที่ความต้องการบริโภคยังคงลดลงจากสถานศึกษาต่างๆ ปิดภาคเรียน

หากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ภาพรวมดัชนีราคาลดลง 2.14% จากสินค้าราคาลดลง ได้แก่ ยางพารา ลดลงจากผู้ซื้อหรือผู้ประกอบการในประเทศวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสข่าวการระบายยางในสต๊อกของรัฐ ส่งผลทำให้ราคายางลดลง ปาล์มน้ำมันลดลงจากชะลอการรับซื้อเพื่อรอผลผลิตฤดูกาลใหม่ ส่วนสินค้าราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่เนื้อ จากช่วงเทศกาลเช็งเม้ง โดยคาดว่าดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2560 จะเพิ่มขึ้น และสินค้าสำคัญที่ราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา อ้อยโรงงาน ไก่เนื้อ และกุ้งขาวแวนนาไม

ด้านดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนมีนาคม 2560 เพิ่มขึ้น 20.11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือก อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ยางพาราและปาล์มน้ำมัน หากเทียบเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ดัชนีผลผลิตลดลง 5.99% สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ยางพารา ไก่เนื้อ และสุกร สินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไข่ไก่ และกุ้งขาวแวนนาไม ในส่วนเดือนเมษายน 2560 ดัชนีผลผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เทียบกับเดือนเมษายน 2559 โดยสินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือก อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และกุ้งขาวแวนนาไม

“ภาพรวมดัชนีรายได้เกษตรกรเดือนมีนาคม 2560 เพิ่มขึ้น 29.90% จากปีก่อน เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตและดัชนีราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังต่อเนื่องถึงเดือนเมษายน เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตและดัชนีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน” น.ส.จริยากล่าว