ผู้เขียน	ธาวิดา ศิริสัมพันธ์
เผยแพร่	วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ.2564

อ้อย เป็นพืชวงศ์ POACEAE วงศ์เดียวกับ ไผ่ หญ้า และธัญพืช มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ในลำต้นอ้อยที่นำมาใช้ทำน้ำตาล ชานอ้อย (bagasse) ที่ถูกบีบเอาน้ำอ้อยออกไปแล้ว สามารถนำมาใช้ทำกระดาษ พลาสติก เป็นเชื้อเพลิง และอาหารสัตว์ และในขณะนี้ก้าวไกลไปถึงวงการเครื่องสำอาง เมื่อนักวิจัยนาโนพัฒนาเทคนิค ต่อยอดของเหลือทิ้งจากกากหม้อกรองในอุตสาหกรรมน้ำตาล สกัดไขอ้อย ต่อยอดอุตสาหกรรมเวชสำอางและอาหารเสริม กลายเป็นวัตถุดิบมูลค่าสูง

คุณวราภัสร์ ศรีเดช หรือ พี่ดาว อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 12 ตำบลสุขเดือนห้า อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท อดีตผู้จัดการดาราสาว เบื่องานเมืองกรุงกลับบ้านเกิด ผันตัวเองเป็นเกษตรกร คิดค้นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากธรรมชาติ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวัตถุดิบใกล้ตัว จนสามารถสร้างสรรค์แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากอ้อยได้หลากหลาย ทั้งน้ำตาลอ้อย ไซรัปอ้อย และผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เธอคนนี้ภูมิใจนำเสนอคือ “สครับจากน้ำตาลอ้อย” ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

พี่ดาว เล่าจุดเริ่มต้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอ้อยว่า ก่อนที่จะมาเป็นเกษตรกรตนเองทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน เป็นผู้จัดการดาราที่มีชื่อเสียงมามากหน้าหลายตา จนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัวในการทำงานตรงนี้ จึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วกลับบ้านเพื่อมาประกอบธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากมองเห็นว่าในปัจจุบันโลกก้าวหน้าไปไกลในเรื่องของสื่อโซเชียลต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คนในปัจจุบันมากขึ้น ตนเองจึงอยากถือโอกาสใช้ช่องทางตรงนี้มาต่อยอดในธุรกิจที่อยากทำมาตั้งนานแล้วคือการแปรรูปสินค้าเกษตร

“ในตอนนั้นสิ่งที่คิดอยู่ในหัวเพียงอย่างเดียวว่า ถ้าลาออกจากงานจะมาทำอะไร คำตอบอย่างเดียวคือแปรรูปสินค้าเกษตร เนื่องจากพี่เป็นคนต่างจังหวัด เวลากลับมาบ้าน แม่ก็จะชอบหอบหิ้วผักผลไม้รวมถึงของแปรรูปง่ายๆ เช่น กล้วยตาก ที่หากินได้ง่ายตามต่างจังหวัด ไม่ค่อยมีราคามากมาย แต่เมื่อหิ้วไปถึงกรุงเทพฯ กลายเป็นของที่มีราคาขึ้นมาได้ กลายเป็นจุดประกายไอเดีย ว่าอยากจะแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นอาชีพ แต่ในตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะแปรรูปอะไร มาประจวบเหมาะกับที่น้องสาวจะแต่งงานแล้วเขาอยากได้ของชำร่วยเป็นน้ำตาลอ้อย ก็ได้ไปตระเวนหาแหล่งผลิตแต่ก็ไม่มีตามที่ต้องการ จนต้องกลับมาทำกันเอง ศึกษาวิธีทำจากยูทูป จนสามารถทำน้ำตาลอ้อยแจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งน้องสาวได้สำเร็จ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอ้อยชิ้นแรก” คุณวราภัสร์ พูดถึงจุดเริ่มต้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอ้อย

พี่ดาว เล่าต่อว่า หลังจากที่ทดลองทำน้ำตาลอ้อยสำเร็จ จากนั้นก็ได้ทดลองต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากอ้อยให้มีความหลากหลายมากขึ้น จากน้ำตาลอ้อยที่ค่อนข้างมีกรรมวิธีที่ยุ่งยากต้องใช้เวลาในการทำนาน ก็ได้มีการพัฒนามาเป็นไซรัปอ้อย ที่กรรมวิธีทำง่ายกว่า แต่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าและสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสมัยใหม่ได้มากกว่า จนกระทั่งต่อยอดจากวัตถุดิบเพื่อบริโภคสู่การทำเครื่องสำอางสครับผิวจากน้ำตาลอ้อย ด้วยการศึกษาค้นคว้าศึกษาสูตรขั้นตอนการทำจากหลายตำรา ทั้งของไทยและต่างประเทศ ลองผิดลองถูกกว่า 1 ปี จนได้สูตรสครับที่ลงตัว ซึ่งตอนนี้ถือว่าอยู่ในขั้นเริ่มต้นการทำตลาด และในอนาคตมองว่า ผลิตภัณฑ์สครับตัวนี้อนาคตไปได้อีกไกล เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนอกเหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ได้ยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยได้อีกด้วย

“สครับน้ำตาลอ้อย” ต่อยอดจากวัตถุดิบใกล้ตัว
สู่ผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มหลายเท่าตัว

เจ้าของบอกว่า อีกสาเหตุหลักที่ทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอ้อยเป็นหลักนั้น เกิดจากอ้อยเป็นวัตถุดิบอยู่ใกล้ตัว เพราะสามีของตนเองนั้นเป็นเกษตรกรเจ้าของไร่อ้อยอยู่แล้ว จึงอยากที่จะเริ่มพัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยอ้อยที่ใช้นำมาแปรรูปนั้นเป็นอ้อยสายพันธุ์ ขอนแก่น 3 เป็นพันธุ์ที่สามีปลูกส่งโรงงานอยู่แล้ว ตนเองจึงขอแบ่งพื้นที่จากสามีประมาณ 2 งาน เพื่อเก็บไว้นำมาแปรรูป

ซึ่งหลายท่านคงสงสัยว่าอ้อย 2 งาน จะสามารถนำมาทำอะไรได้มากมายแค่ไหน ก็ตอบได้เลยว่าการแปรรูปนั้นคือหนทางของการสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี จากอ้อยเพียงไม่กี่มัดจะสามารถต่อยอดเป็นเงินได้มากมายหากรู้จักคิด และต้องใช้ความอดทนด้วย เพราะหนทางกว่าจะสำเร็จนั้นก็ไม่ง่ายเหมือนกัน

ขั้นตอนการแปรรูป สครับน้ำตาลอ้อย

1. เตรียมต้นอ้อยมาจากสวน 9 มัด มัดละ 10 ลำ (อ้อยพันธุ์ ขอนแก่น 3)

   

2. เมื่อได้ลำอ้อยสดมาแล้ว นำมาขูดเปลือกอ้อย เอาดินที่ติดมากับลำต้นอ้อยออก โดยใช้เครื่องขูดผิว

   

3. นำต้นอ้อยที่ขูดผิวแล้วมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า 2-3 ครั้ง

   

4. นำต้นอ้อยที่ล้างทำความสะอาดแล้ว มาพักไว้ให้แห้ง

   

5. นำอ้อยไปคั้นน้ำ โดยใช้เครื่องหีบอ้อย จะได้น้ำอ้อยประมาณ 19-20 ลิตร สำหรับกระทะเล็ก

   

6. นำน้ำอ้อยที่คั้นสดลงในกระทะ 10-20 ลิตร

   

7. ต้มน้ำอ้อยอีก 3 ชั่วโมงครึ่ง ไล่น้ำออกให้เหลือความหวาน จะเป็นน้ำตาล (เทคนิคสำคัญอยู่ตรงนี้)

   

8. ปิดเตาแก๊สแล้วใช้ไม้พายกวนอีก 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้เย็น

   

9. เมื่อน้ำตาลเย็นแล้วให้ตักใส่ภาชนะเก็บไว้ (อายุเก็บน้ำตาลอ้อย 1 ปีครึ่ง)

   

10. น้ำตาลอ้อยส่วนที่เป็นเม็ดทราย นำไปเป็นตัวขัดผิว

    

11. นำน้ำมันถั่วดาวอินคามาใส่ผสมในเนื้อน้ำตาลอ้อยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

    

12. ใส่กลิ่นน้ำหอมแต่งกลิ่น

การสร้างมูลค่าเพิ่มจากอ้อย

จากอ้อยราคาตันละไม่ถึงพัน เมื่อนำมาแปรรูปแล้วสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากมาย ยกตัวอย่างการแปรรูปผลิตภัณฑ์ของที่ฟาร์ม 1. น้ำตาลอ้อย จากราคาไม่เท่าไร แต่เมื่อนำมาจับใส่แพ็กเกจจิ้งสวยงามสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจาก 3 กระปุก 100 บาท เป็นกระปุกละ 150 บาทได้ 2. ไซรัปอ้อย ที่กำลังตอบโจทย์คนเมืองสมัยใหม่ตอนนี้ เพราะใช้ง่ายหยิบจับสะดวก บรรจุใส่ขวดที่สวยงามและได้มาตรฐานสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นขวดละ 200 บาท 3. สครับผิวจากน้ำตาลอ้อย สามารถทำขายได้ในราคากระปุกละ 250-300 บาท จะเห็นได้ว่าเมื่อนำมาแปรรูปแล้วทุกอย่างล้วนแล้วแต่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ทั้งนั้น

การตลาด…เริ่มจากทดลองให้คนใกล้ตัวใช้ แล้วเห็นผลจึงมีการบอกต่อกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พัฒนาสู่ตลาดออนไลน์ขายบนเพจเฟซบุ๊ก : วราภัสร์ ฟาร์มสุข ผลตอบรับเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ถือว่ายังเป็นผู้ผลิตมือใหม่ ตั้งเป้าหมายเริ่มต้นไว้ที่ 1,000 กระปุก ต่อเดือน อนาคตผลักดันสู่สินค้าโอท็อปของจังหวัดชัยนาท

5 ข้อดี ของการสครับผิว

1. 1. การสครับผิวช่วยกำจัดคราบความสกปรกและแบคทีเรียนั้นออกไปจากรูขุมขนได้อย่างสะอาดหมดจด เนื่องจากการล้างหน้าด้วยโฟมนั้นอาจไม่เพียงพอ และทำให้รูขุมขนสกปรกมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีสิวเพิ่มขึ้นและใบหน้าหมองคล้ำอีกด้วย
2. 2. กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกไปอย่างง่ายดาย เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวของตัวเองผ่องใสและกระจ่างมากยิ่งขึ้น
3. 3. การสครับผิวเป็นการฟื้นฟูสภาพผิว ข้อดี คือจะช่วยให้สิวเสี้ยนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่งหน้าง่ายขึ้น
4. 4. ลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน น่าสัมผัส ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง
5. 5. ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี การสครับผิวจะทำให้เลือดลมไหลเวียนได้เป็นอย่างดี เหมาะสมกับคนที่อยากให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กระจ่างใส หากว่าจะสครับตัวก็ยิ่งดีมากขึ้นไปอีกด้วยการใส่น้ำมันหอมระเหยลงไป กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจะยิ่งทำให้คลายเครียดและผ่อนคลายมากขึ้น

ฝากถึงมนุษย์เงินเดือน
อยากลาออกมาทำธุรกิจ

“ฝากถึงเกษตรกรรายใหม่ รวมถึงมนุษย์เงินเดือนที่อยากลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว 1. ให้เริ่มทำจากสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะพี่ก็ทดลองทำมาหลายอย่างมาก ในครั้งแรกก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าชอบอะไร แต่พอได้ลองทำไปเรื่อยๆ ทำหลายๆ อย่าง เราก็จะตอบตัวเองได้ว่าสิ่งไหนที่เหมาะกับเรา คือทำแล้วมันสนุกแล้วอยู่กับมันได้ตลอดทั้งวันไม่เบื่อ แต่ถ้าอันไหนที่เราไม่ชอบ อยู่ได้ไม่นานเดี๋ยวเราก็ไม่อยากทำแล้ว อันนั้นคือผิดทาง 2. ให้หันกลับมามองวัตถุดิบที่มีอยู่ใกล้ตัว ที่บ้านใคร ท้องถิ่นใครมีอะไรที่เยอะแต่ไม่มีใครเห็นค่า หรืออาจจะเป็นสมุนไพรใกล้ตัว ให้ลองนำสิ่งนั้นมาพิจารณาดูว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ลองเอามามองหาโอกาสที่เราจะนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าได้” คุณวราภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 099-591-6463 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : วราภัสร์ ฟาร์มสุข