“เอ้กบอร์ด” ร้องพาณิชย์ฟื้นพรบ.ควบคุมนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธุ์ แก้วังวนปัญหาไข่ล้น ดัมพ์ราคา

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) โดยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรฯเสนอกระทรวงพาณิชย์ออกประกาศเพื่อควบคุมการนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธุ์ (จีพี) และไก่พ่อแม่พันธุ์ (จีเอส) โดยอาศัยกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 ออกประกาศเพื่อบังคับใช้กับผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธุ์และพ่อแม่พันธุ์ไก่ให้ปฏิบัติตามโควต้านำเข้าอย่างเคร่งครัด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมไข่ไก่ล้นตลาด โดยกระทรวงเกษตรฯจะทำหน้าที่กำหนดกฎระเบียบต่างๆ ให้สอดรับกับประกาศของกระทรวงพาณิชย์ เช่น หากผู้ประกอบการจะนำเข้าไก่ปู่ย่าพันธุ์ พ่อแม่พันธุ์ทุกรายจะต้องผ่านความเห็นชอบจากมติเอ้กบอร์ด เป็นต้น อย่างไรก็ดี คาดว่าคณะกรรมการฯจะใช้เวลาออกระเบียบและหารือทุกภาคส่วนให้เเล้วเสร็จในอีก 4-5 เดือน เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ต้องมีการร่างประกาศและต้องมีการทำประชาพิจารณ์ตามรัฐธรรมนูญใหม่ก่อนมีผลบังคับใช้

“เดิมโควต้าที่เอ้กบอร์ดกำหนด เป็นเพียงการขอความร่วมมือเท่านั้น ไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย ทำให้เกิดการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ได้อย่างเสรี จนเกิดปัญหาการนำเข้าจำนวนมากเกินความต้องการ อีกทั้งผู้ประกอบการไม่ปลดแม่ไก่ยืนกรงออกจากระบบตามเวลาที่กำหนด ส่งผลให้ผลผลิตออกมาจำนวนมากจนเกิดปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด กระทบต่อราคาตกต่ำและมีการทุ่มราคาในภาคใต้ด้วย” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวและว่า จะมีการกำหนดเกณฑ์ว่ากี่สัปดาห์ต้องปลดแม่ไก่ยืนกรง หากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ สูงสุด 1 ล้านบาท

 

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่จะขยายฟาร์มที่ได้สิทธิ์โควต้า 300,000 ตัวขึ้นไปต้องรายงานแผนการผลิต การตลาดกลับมายังเอ้กบอร์ดก่อนการผลิตและจำหน่าย ที่ประชุมยังมีมติให้ทำแผนส่งเสริมบริโภคไข่ในประเทศในโครงการอาหารโรงเรียน โดยให้โรงเรียนเพิ่มเมนูที่มีไข่ไก่ในมื้ออาหารกลางวันของเด็กนักเรียนเป็น 3 ฟองต่อสัปดาห์ จากที่กระทรวงสาธารณสุขสำรวจพบว่าโครงการอาหารกลางวันแต่ละโรงเรียนให้นักเรียนทานไข่เพียง 1-2 ฟองต่อสัปดาห์เท่านั้น

 

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมเอ้กบอร์ดได้พิจารณาแผนนำเข้าไก่ไข่พันธุ์ ปี 2560 โดยกำหนดปริมาณปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ 6,000 ตัว และนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ 600,000 ตัว จัดทำแผนการนำเข้าเพื่อรายงานไปยังกรมปศุสัตว์ให้สอดรับกับผลผลิตในประเทศที่ปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตไก่ไข่จำนวน 55.64 ล้านตัว ผลิตไข่ไก่จำนวน 16,473 ล้านฟอง และประมาณการตลาดไข่ไก่ส่งออก จำนวน 420 ล้านฟอง ไข่ไก่บริโภคในประเทศ จำนวน 16,053 ล้านฟอง ทั้งนี้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ประสานกับกรมการค้าภายในและภาคเอกชน พิจารณาเรื่องการบริหารจัดการการผลิตไข่ไก่ให้สมดุลกับการตลาด ส่วนราคาไข่ในปัจจุบันได้กลับคืนสภาวะปกติ โดยราคาไก่ไข่คละหน้าฟาร์มที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยฟองละ 2.50 บาท ไข่ไก่ขายปลีกเบอร์ 3 ฟองละ 2.55 บาท

 

นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำภาคใต้ หลังผลผลิตล้นตลาด จนราคาเหลือเพียงฟองละ 1.50 บาท ถึง 1.70 บาทเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ยอดการบริโภคไข่ไก่ลดลง จากโดยเฉลี่ยวันละ 42-45 ล้านฟอง/วัน เหลือเพียงวันละ 40 ล้านฟอง /วัน ทำให้มีผลผลิตตกค้างในสต๊อกเฉลี่ยวันละ 3-5 ล้านฟอง เบื้องต้นได้ลงพื้นที่พูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีต้นทุนสูงในการเพาะเลี้ยงและได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา โดยได้ข้อสรุปว่า จะสามารถเพิ่มราคาไข่ไก่ให้ขึ้นไปอยู่ที่ฟองละ 2 บาทได้ และอีกไม่กี่สัปดาห์โรงเรียนในหลายพื้นที่จะทยอยเปิด ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำก็จะลดลงและจะเร่งแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยหาวิธีการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และหาช่องทางตลาดต่อไป