“มะนาวน้ำผึ้ง” สินค้าโอท็อปทำเงินล้าน สวนกระแสโควิด-19 ของวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรชนบทบ้านหัวสระ จังหวัดราชบุรี

หลายท่านคงคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ “น้ำผึ้งมะนาว” หรือ “มะนาวน้ำผึ้ง” ที่มีจำหน่ายภายในห้างสรรพสินค้าหรือในร้านสะดวกซื้อทั่วไปกันเป็นอยากดี จนเกิดเป็นความเคยชินและมองข้ามไปว่า บางครั้งสิ่งที่ดูง่าย คุ้นเคย ใกล้ตัวเหล่านี้จะกลายมาเป็นอาชีพที่ช่วยสร้างงาน สร้างเงินให้กับใครหลายคนมานักต่อนักแล้ว รวมถึงหญิงเก่งท่านนี้ ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์พูดคุยกับเธอ ที่จากอดีตเคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนได้มาเจอกับจุดพลิกผันของชีวิต กลายมาเป็นประธานวิสาหกิจชุมชน นำคนในหมู่บ้านสร้างรายได้ จากผลิตผลที่มีอยู่ในท้องถิ่นอย่าง กล้วย มะกรูด มะนาว ที่หลายคนมองข้าม นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ กล้วยตาก มะกรูดอบแห้ง และมะนาวน้ำผึ้ง จนได้จดทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อป ส่งขายดังไกลถึงยุโรป สามารถสร้างรายได้มากกว่าครึ่งล้านต่อเดือนจากผลิตภัณฑ์ง่ายๆ ใกล้ตัวเหล่านี้

คุณดลยา เพชรสุทธิ์ หรือ พี่ฝน

คุณดลยา เพชรสุทธิ์ หรือ พี่ฝน ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรชนบทบ้านหัวสระ อยู่ที่ 31/24 หมู่ที่ 5 ตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เล่าถึงที่มาของการก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน รวมถึงจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์แปรรูป “มะนาวน้ำผึ้ง” ว่าผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างแรกของกลุ่มเริ่มทำคือ กล้วยตาก เนื่องจากว่าที่บ้านและคนในชุมชนปลูกกล้วยเยอะ ทำให้มีผลผลิตจำนวนมาก ต่อมาทางกลุ่มได้เข้าร่วมโครงการ 9 101 เพื่อที่จะเข้าไปศึกษาหาความรู้นำมาพัฒนา รวมถึงนำไปต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปตัวใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งนอกจากความรู้ที่ได้รับแล้วยังได้รับการสนับสนุนตู้อบลมร้อนจากทางโครงการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิต นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นแรกของการรวมกลุ่ม ซึ่งหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนเครื่องอบลมร้อนมา ทางกลุ่มก็ได้มีการต่อยอดมองหาผลผลิตที่มีอยู่ภายในชุมชนมาเพิ่มมูลค่าต่อคือ มะกรูดและมะนาว

“คือช่วงก่อนที่พี่จะทำมะนาวน้ำผึ้ง พี่ทำมะกรูดอบแห้งมาก่อน เนื่องจากที่ตำบลเบิกไพรที่พี่อยู่นี้ คนในชุมชนมีการปลูกมะกรูดกับมะนาวค่อนข้างเยอะ รวมถึงที่บ้านพี่ พ่อของพี่ก็ปลูกมะกรูดไว้อยู่ประมาณ 10 ต้น พอถึงเวลาก็เก็บนำเอามะกรูดไปส่งขายให้กับคนทำพริกแกง แล้วคนทำพริกแกงเขาก็จะขูดเอาแต่ผิวมะกรูดไป แล้วจะเหลือเนื้อมะกรูดไว้ พ่อพี่ก็เก็บใส่กระสอบกลับมาบ้าน พี่เห็นก็เกิดความเสียดายจนทำให้เกิดความคิดที่จะนำมะกรูดที่เหลือทิ้งตรงนี้มาแปรรูปให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ซึ่งหลังจากพอนำมาแปรรูปทำมะกรูดอบแห้งทุกคนก็ชอบ พี่ก็เลยมองไปเห็นถึงประโยชน์ของต้นมะนาวที่ปลูกไว้ในบ้านต่อทันที และก็ได้นำมะนาวมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ “มะนาวน้ำผึ้ง” สร้างรายได้แบบถล่มทลาย โควิดมาไม่มีสะเทือน จนถึงตอนนี้”

ผลิตภัณฑ์มะนาวน้ำผึ้งพร้อมขาย

ขั้นตอนก่อนที่จะเป็น “มะนาวน้ำผึ้ง”
ผลิตภัณฑ์สร้างเงินล้าน ต้องพิถีพิถัน

พี่ฝน บอกว่า การที่จะแปรรูปผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม ให้ออกมาเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้บริโภคได้นั้น สิ่งสำคัญคือเรื่องของคุณภาพและสุขอนามัย ผู้บริโภคต้องได้รับประทานของดี มีประโยชน์ และปลอดภัย เพราะฉะนั้น ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของเรานั้นจึงไม่เคยมองข้ามขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยเพิ่มคุณค่า เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ทำได้เลย

โดยขั้นตอนกว่าที่จะมาเป็นผลิตภัณฑ์มะนาวน้ำผึ้งนั้น อันดับแรกเริ่มต้นจากการคัดเลือกพันธุ์มะนาวที่จะนำมาแปรรูปให้ดี โดยจะเน้นมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตรเท่านั้นในการแปรรูป ด้วยคุณสมบัติที่มะนาวแป้นพิจิตรมีคือ เปลือกหนา เนื้อเยอะ เพื่อให้ง่ายต่อขั้นตอนการนำมาปอกเปลือกง่าย ไม่เข้าเนื้อ

เกษตรกรบริเวณใกล้เคียงนำมะนาวมาส่ง

และในอันดับถัดมาคือ ต้องเลือกมะนาวสาว โดยจะมีการย้ำกับเกษตรกรอยู่เสมอว่า ให้เก็บมะนาวสาวมาส่ง ความหมายของมะนาวสาวก็คือ มะนาวที่เก็บในช่วงกึ่งอ่อนกึ่งแก่ ต่างจากมะนาวที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปจะเป็นมะนาวแก่ อันนั้นเปลือกจะบาง น้ำเยอะ ทำให้ยากต่อการปอกเปลือกทำให้เละง่าย

ซึ่งในแต่ละวันจะใช้มะนาวในการแปรรูปเฉลี่ยวันละ 200-300 กิโลกรัม หรือในบางครั้งออเดอร์ล้นก็ต้องรับซื้อมะนาวเพิ่มเป็น 500 กิโลกรัม ในจุดนี้ถือว่าเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรภายในชุมชนและละแวกใกล้เคียงได้ด้วย เพราะมะนาวที่นำมาแปรรูปเป็นมะนาวของเกษตรกรในตำบลเบิกไพรและละแวกใกล้เคียงอำเภอบ้านโป่ง จนในปัจจุบันมียอดจำหน่ายสูงขึ้น มีตลาดนำการผลิต จึงต้องเปิดรับมะนาวจากเกษตรกรในภาคอื่นๆ ร่วมด้วย

นำมะนาวที่ปอกเปลือกเสร็จแล้วมาส่ง

กระบวนการแปรรูป

  1. เริ่มจากการนำผลมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปปอกเปลือก
  2. นำผลมะนาวที่ปอกเปลือกแล้วมาฝานออกเป็น 3 ส่วน
  3. นำมะนาวที่ฝานเสร็จเรียบร้อย ไปล้างในน้ำเกลืออีกประมาณ 3 ครั้ง เพื่อลดความขม
  4. จากนั้นนำไปต้มน้ำร้อนอีกประมาณ 15 นาที แล้วนำไปนึ่งต่อเพื่อให้สะเด็ดน้ำต่ออีกประมาณ 10-15 นาที เอาเมล็ดออก

    เอาเมล็ดออก
  5. นำมาสู่กระบวนการเชื่อม หลังจากเชื่อมเสร็จแล้วนำไปอบในตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะจะทำให้เนื้อมะนาวออกมาสีสวยกว่าอบในตู้อบลมร้อน

    ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์
  6. หลังจากอบเสร็จ พักทิ้งไว้แล้วจึงค่อยใส่น้ำผึ้งกับน้ำมะนาวลงไปตามสูตรที่ผสมไว้แล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำผึ้งซึมเข้าสู่เนื้อมะนาว

    เทน้ำผึ้งใส่
  7. นำไปบรรจุในแพ็กเกจจิ้งที่เตรียมไว้ เตรียมจำหน่าย
  8. บรรจุใส่กระปุก

จุดเด่นและจุดแข็งของมะนาวน้ำผึ้ง

จุดเด่นคือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ หากพูดถึงมะนาวก็มีประโยชน์ หรือพูดถึงน้ำผึ้งก็ยิ่งมีประโยชน์มากมาย ทำให้เป็นที่สนใจขอผู้บริโภคได้ไม่ยาก รวมถึงด้านรสชาติที่ทำออกมาแล้วไม่ขม และไม่หวานมากจนเกินไป ซึ่งส่วนผมของรสชาติกำลังลงตัวได้ความหวานจากน้ำผึ้ง และได้ความเปรี้ยวและความหอมจากมะนาว ทำให้ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคกลับมาเป็นอย่างดี ถึงขั้นดีมาก ทำให้ผลิตภัณฑ์มะนาวน้ำผึ้งตัวนี้ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งตนเองและคนในชุมชนที่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

จุดแข็งคือ เป็นผลิตภันฑ์ที่มีอยู่ในชุมชน ที่หากตอนมะนาวถูกก็สามารถนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าได้อย่างสบายๆ

ยอดการผลิต เฉลี่ยวันละประมาณ 300-400 กระปุกต่อวัน ราคาต่อกระปุกไซซ์เล็กน้ำหนัก 150 กรัม ราคา 80 บาท ไซซ์กลางน้ำหนัก 250 กรัม ราคา 150 บาท ไซซ์ใหญ่น้ำหนัก 500 กรัม ราคา 270 บาท หากเทียบกับการขายมะนาวผลสดแล้วใช้มะนาวประมาณ 5-10 ลูก ต่อ 1 กระปุก แต่สามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้หลายเท่าตัว เมื่อคิดเป็นรายได้ที่ยังไม่หักต้นทุนออกจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 5-6 แสนบาท ต่อเดือน นับเป็นความภูมิใจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของเราเป็นอย่างมาก

       

ตลาดสดใส สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ วิตามินซีสูง

เจ้าของบอกว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ขึ้นมา ตนเองยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ในทางกลับกันกลายเป็นโอกาส เนื่องจากผลิตภัณฑ์มะนาวน้ำผึ้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีวิตามินซี ช่วยสร้างภูมิต้านทาน บรรเทาอาการไอ ช่วยให้ชุ่มคอ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักษาสุขภาพ โดยมีช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ

เริ่มจากตลาดในประเทศ จะมีช่องทางการขายอยู่ 3 ช่องทาง 1. ขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก 2. ลงขายเว็บลาซาดา และช้อปปี้ 3. มีตัวแทนจำหน่ายอีกกว่า 10 บริษัท

ผลิตภัณฑ์มะนาวน้ำผึ้งพร้อมขาย

และในส่วนของตลาดต่างประเทศ อย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน ฮอลแลนด์ เยอรมนี และอเมริกา โดยการติดต่อผ่านมาทางลูกชายของตนเอง อย่างเช่น ตัวแทนจากมาเลเซียติดต่อเข้ามาโดยตรง แล้วนำสินค้าไปกระจายต่อในประเทศสิงคโปร์และจีน ส่วนโซนยุโรปก็มีการติดต่อผ่านทางเพื่อนของลูกชายที่ทำธุรกิจส่งออกสินค้าจากไทย-อเมริกา และในอนาคตคิดว่าสินค้าแปรรูปจากไทยจะไปได้ดีกว่านี้ เนื่องจากเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ตนเองได้เป็นตัวแทนเอสเอ็มอีไทย เข้าประชุมเอเปคร่วมกับนานาชาติ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่จัดขึ้นที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งผลตอบรับจากต่างประเทศที่มีต่อผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งมะนาวออกมาดีมาก หลายประเทศให้ความสนใจ จากการเล่าถึงที่มาของสินค้าที่ผลิตจากฝีมือเกษตรกรไทยและจากคนในชุมชนโดยตรง

ยินดีให้คำปรึกษากับเกษตรกรทุกท่าน

“อยากจะฝากถึงเกษตรกรที่สนใจอยากจะแปรรูปผลผลิตของตัวเองว่า พี่ยินดีให้คำปรึกษากับทุกท่าน เพราะจากการที่กว่าพี่จะมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จพี่ลองผิดลองถูกมาแล้วหลายอย่าง พอมาถึงจุดนี้ก็ได้มองคิดกลับไปว่ายังมีพืชผักผลไม้อีกหลายชนิดที่เราได้มองข้ามไป และเสียดายที่ไม่ยอมหยิบเอามาทำเงิน เช่น ตำลึง แถวบ้านพี่มีตำลึงที่ขึ้นอยู่ริมรั้วเต็มไปหมด แต่คนก็จะเก็บกินแต่ยอด เหลือลูกทิ้งไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้พี่เคยนำเอาลูกตำลึงมาอบแห้งแล้วขายดีมาก แต่พี่ไม่มีเวลาทำ และพี่มองว่าเกษตรกรรุ่นใหม่หากสนใจทำอนาคตคิดว่าไปได้รุ่ง ส่วนผลไม้ชนิดอื่นก็สามารถโทร.เข้ามาปรึกษา เพราะพี่อยากให้ทุกคนมีรายได้ ทุกคนที่สนใจมาคุยกันว่าคุณจะเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ถูกด้อยค่าได้อย่างไร นำเอาของหล่นๆ ในไร่ มาสร้างเงินกัน เพื่อเขาจะได้ไปเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวและคนในชุมชนของเขา” พี่ฝน กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาการแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรสามารถปรึกษาพี่ฝนได้ที่เบอร์โทร. 085-081-0600

ช่วยกันทำ สร้างความสามัคคีภายในกลุ่ม