แปลก แหวกแนว “ปลาร้าอินทผลัม” ทางรอดยุคโควิด-19 ฝีมือคนสารคาม

ปลาร้า หรือปลาแดก เป็นอาหารท้องถิ่นที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในภาคอีสาน โดยแต่ละท้องถิ่นจะมีการทำปลาร้าเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ปัจจุบัน ปลาร้าได้พัฒนาขึ้นไปสู่ระดับสากลมากขึ้น มีการคิดค้นผลิตน้ำปลาร้าออกมาในหลายรูปแบบ ซึ่งล่าสุดมีเกษตรกรที่จังหวัด     มหาสารคามปิ๊งไอเดีย นำอินทผลัมที่เป็นวัตถุดิบหลักของที่สวนนำมาต่อยอดพัฒนาทำน้ำปลาร้าให้ต่างไปจากเดิม ด้วยการนำอินทผลัมไปผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อให้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการนำมาทำเป็นส่วนผสมหลักในน้ำปลาร้า ช่วยสร้างคุณค่าของน้ำปลาร้าให้มีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นขึ้นได้ในแง่ของประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น และสามารถหยิบจับมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูมากขึ้น ไม่เพียงเฉพาะแค่ส้มตำเท่านั้น

คุณมงคล สว่างอารมณ์ หรือ พี่หมี

คุณมงคล สว่างอารมณ์ หรือ พี่หมี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 20 ตำบลเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท เกษตรรักษ์ดิน จำกัด เล่าถึงที่มาของไอเดียการผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าอินทผลัมว่า เริ่มต้นจากที่ทางบริษัทของตนเองได้ส่งเสริมให้มีการปลูกอินทผลัมทั่วประเทศ และมีการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรกลับคืนมาในราคาที่ทำสัญญากันไว้ จากนั้นเมื่อได้ผลผลิตมาจากเกษตรกรที่ถูกรวบรวมมาเพื่อนำมาแปรรูปทำเป็นเครื่องดื่มในกลุ่มแอลกอฮอล์ส่งขายตลาดต่างประเทศ รวมถึงการนำมาทำเป็นกาแฟอินทผลัม เจาะกลุ่มตลาดคนรักสุขภาพ แต่ด้วยคุณภาพของสินค้าอยู่ในระดับพรีเมียม ค่อนข้างมีราคาสูง เมื่อต้องมาประสบเข้ากับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้มีปัญหาด้านการส่งออก และมีปัญหาในเรื่องของกำลังซื้อเข้ามา ทำให้ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด จึงได้มีการตั้งโจทย์ว่าจะพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาในคอนเซ็ปต์ คือต้องเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทย จนเกิดเป็นไอเดียในการผลิตน้ำปลาร้าขึ้นมา แต่เนื่องจากสินค้าที่เป็นกลุ่มน้ำปลาร้ามีอยู่ในท้องตลาดเยอะมากมายหลายแบรนด์แล้ว แต่ยังไม่มีแบรนด์ไหนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะออกมา ทางบริษัทจึงมองเห็นโอกาสที่จะสร้างสินค้าพื้นฐานให้มีความแตกต่างและมีภาพลักษณ์สินค้าที่ดูน่าใช้มากขึ้น ในขณะที่ยังคงให้อยู่ในระดับที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถจับต้องได้ จึงเป็นที่มาของไอเดียการผลิตน้ำปลาร้าอินทผลัมขึ้นมา

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าอินทผลัม

“อินทผลัม” จากผลไม้
สู่วัตถุดิบหลักทำน้ำปลาร้า

เจ้าของบอกว่า เนื่องจากที่สวนมีวัตถุดิบคือ อินทผลัม ที่เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์มากมาย เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ประกอบกับอาหารภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็นต้ม ยำ ตำ แกง เรียกได้ว่าจะเป็นอาหารประจำชาติไปแล้ว เพราะมีการบริโภคกันทั่วทุกภาคทั่วประเทศ โดยทุกๆ เมนูของอาหารอีสานจะมีปลาร้าหรือน้ำปลาร้าเป็นส่วนประกอบเสมอ จึงมองว่าหากสามารถสร้างคุณค่าของน้ำปลาร้าให้มีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นขึ้นได้ในแง่ของประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ ตลาดจะตอบรับได้เป็นอย่างดี

จึงได้มีการพัฒนาน้ำปลาร้า เมนูพื้นบ้านภาคอีสาน ให้โดดเด่นและมีประโยชน์จากอินทผลัมที่ปลูกและดูแลจากเกษตรกรไทย โดยที่ทุกๆ สวนจะได้รับการรับรอง การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร (GAP พืชอาหาร) จากกรมวิชาการเกษตร และนำอินทผลัมมาแปรรูป เพื่อให้เป็นวัตถุดิบตั้งต้น 3 อย่าง คือ

  1. ไซเดอร์อินทผลัม ที่เกิดขึ้นจากกรรมวิธีการหมักแบบธรรมชาติ
  2. ผงอินทผลัมฟรีซดราย รักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้สูงสุด
  3. อินทผลัมผลสด บดละเอียดแปรรูปเป็นน้ำอินทผลัม
ทำกับเมนูอะไรก็อร่อย

และสำหรับปลาร้า จะเลือกปลาทะเลที่ให้รสชาติสม่ำเสมอ และมีปริมาณมากพอสำหรับการผลิตเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งปลาน้ำจืดจะมีรสชาติที่ไม่สม่ำเสมอแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ตามประเภทของปลา (ปลากินสัตว์กับปลากินพืช) และมีพยาธิมากกว่าปลาทะเล

จากนั้นเมื่อมีวัตถุดิบหลัก ทั้งอินทผลัมและปลาร้า ที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นทาง กระบวนการผลิต จึงเลือกการผลิตและบรรจุแบบพาสเจอไรซ์ และการปรุงที่จะรักษาคุณค่าและประโยชน์ไว้อย่างสูงสุด ด้วยการ…

  1. ไม่ใส่กรดมะนาว เพราะใช้ไซเดอร์อินทผลัม
  2. ไม่มีสารกันบูด เพราะผลิตและบรรจุแบบพาสเจอไรซ์
  3. ไม่มีสารแต่งสี เพราะใช้น้ำอินทผลัมที่มีสีน้ำตาลนวลสวยงาม

จนสุดท้ายได้ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป และหวังว่าผู้บริโภคทุกระดับสามารถเข้าถึงและบริโภคปลาร้าอินทผลัมที่สะอาดถูกหลักอนามัยและมีคุณประโยชน์ต่างๆ มากมายจากอินทผลัม

จุดเด่นน้ำปลาร้าอินทผลัม คือการนำเอาอินทผลัมที่เป็นผลไม้ประโยชน์สูงมาผสมผสานเข้ากับปลาร้าได้อย่างลงตัว จนเกิดเป็นน้ำปลาร้าที่มีรสชาติกลมกล่อม ต่างจากน้ำปลาร้าทั่วไป สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่เพียงแต่เฉพาะส้มตำเท่านั้น ด้วยการนำอินทผลัมที่ผ่านการหมักแบบธรรมชาติจะได้ไซเดอร์ออกมา แทนการใส่กรดน้ำส้ม และใช้ผงอินทผลัมฟรีซดราย และอินทผลัมผลสด ที่ผ่านการบดละเอียดแปรรูปเป็นน้ำอินทผลัม มาเป็นส่วนประกอบแทนน้ำ เพื่อทดแทนความหวานจากน้ำตาล ทำให้รสชาติมีความกลมกล่อม ไม่หวานหรือเปรี้ยวโดดจนเกินไป

อินทผลัมสายพันธุ์สยามเอส 1 สีเหลือง

“สยามเอส1” สายพันธุ์หลัก
ในการแปรรูปน้ำปลาร้า

พี่หมี อธิบายถึงสายพันธุ์ที่ใช้นำมาแปรรูปเป็นน้ำปลาร้าว่า เป็นอินทผลัมสายพันธุ์ “สยามเอส 1” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา โดย รศ.ดร. ธัทธรรม พิลาแดง ผู้ก่อตั้ง บริษัท เกษตรรักษ์ดิน จำกัด โดยสายพันธุ์นี้มีจุดเด่นที่ปลูกในประเทศได้ผลผลิตดี รสชาติดี และต้านทานโรคได้ดี ได้รับการปรับปรุงให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิประเทศได้ดี

อินทผลัมสายพันธุ์สยามเอส 1 สีแดง

เริ่มต้นการตลาดไปได้ด้วยดี
ลูกค้าเก่า กลับมาซื้อซ้ำ

พี่หมี บอกว่า สถานการณ์การตลาดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน ผลตอบรับของลูกค้าเป็นไปได้ด้วยดีผลิตไม่ทันขาย โดยมีวิธีการกระจายสินค้าในระบบตัวแทนรถเร่ และผ่านช่องทางโซเชียล ขายในราคาขวดละ 35 บาท ขนาด 400 มิลลิลิตร เป็นระดับราคาทั่วไป มีลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี สามารถสร้างรายได้เกินครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดในบริษัท ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับตนเอง และเกษตรกรท่านอื่นๆ ที่ต้องประสบปัญหาแบบเดียวกับตนเองก็สามารถทดลองหาวิธีเอาตัวรอดแบบนี้ได้ เพราะอย่างไรไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น อย่างไรก็ต้องมีการกินการใช้ เพียงแต่ว่าจะเลือกทำอะไรที่สร้างความแตกต่างให้คนเลือกของเรา แต่หากถามในเรื่องของความคุ้มค่านั้นในเมื่ออินทผลัมมีราคาสูง แต่ทางเราโชคดีตรงที่มีคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่ง เพราะฉะนั้น ราคาอินทผลัมของเราที่นำมาทำจะไม่ใช่กิโลกรัมละ 400-700 บาท จึงสามารถนำมาทำแบบนี้ได้โดยที่ยังเห็นกำไร โดยตั้งเป้าหมายในการผลิตต่อปี 1 ล้านโหล และในอนาคตมีการวางแผนไว้ว่า จะมีโครงการจะส่งเสริมปลูกอินทผลัมเพื่อนำมาแปรรูปทำน้ำตาล เพื่อตีตลาดในต่างประเทศ เพราะข้อดีที่จะได้จากน้ำตาลอินทผลัมที่เป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว คือจะไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย กลุ่มผู้ป่วยความดันสามารถรับประทานได้ แต่ค่อนข้างมีต้นทุนวิจัยค่อนข้างสูง จึงต้องทำอย่างไรให้ราคาลดลงมาเหลือในราคาที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถจับต้องได้” คุณมงคล กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจอยากปรึกษาเทคนิคการปลูก การแปรรูป หรือร่วมธุรกิจกับ คุณมงคล สว่างอารมณ์ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 098-248-4683, 092-817-2444

ทำกับเมนูอะไรก็อร่อย