สาวสมุทรสาคร เลี้ยงด้วงสาคูแปรรูปพร้อมกิน 10 กะละมัง 45 วัน จับขายสร้างรายได้

ด้วง เป็นแมลงที่กินได้มาแรง ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงสร้างรายได้กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสามารถเพาะเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตเร็ว ใช้เวลาเลี้ยงเพียง 40-45 วัน จับขายได้ ถือเป็นแมลงเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ทั้งในการเพาะเลี้ยงเพื่อสร้างอาชีพเสริมหรือทำเป็นอาชีพหลัก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่ไม่สะดวกในการซื้อด้วงสดมาทำกินเอง จนได้มีเกษตรกรสาวปิ๊งไอเดียแปรรูปด้วงขึ้นมา ให้กินง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการนำมาแปรรูปเป็น “ด้วงลวกฟรีซ” ผู้บริโภคสามารถซื้อเก็บแช่ตู้เย็นไว้ได้ เมื่อถึงเวลาอยากกินก็สามารถนำออกมาทำเมนูต่างๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเมนูคั่วเกลือ ย่าง หรือทำผัดกะเพรา ทำลาบ ก็ได้ทั้งนั้น ถือเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบกินด้วงแต่ไม่สะดวกซื้อแบบสดมาทำเอง

คุณวรินดา โตมอญ หรือ พี่เดือน

คุณวรินดา โตมอญ หรือ พี่เดือน อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 1 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร จากแม่ค้าขายของออนไลน์ หันมาทดลองเลี้ยงและแปรรูปด้วงสาคูสร้างมูลค่า สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ และวางแผนการตลาดในอนาคตว่าอย่างน้อยจะต้องมีผลผลิตให้ออกมาขายได้ทุกวัน หากเลี้ยงน้อยจับขายวันละ 1-2 กิโลกรัม ก็สร้างรายได้วันละ 400-500 บาท แต่หากเลี้ยงเป็นจำนวนมากกว่านั้นรายได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณการเลี้ยง

น้องด้วงที่ได้อายุ แล้วกำลังจะจับล้างท้องด้วยฟักทอง

เริ่มต้นเพาะเลี้ยง “ด้วงสาคู”
10 กะละมัง สร้างรายได้เสริม

เจ้าของบอกว่า สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงให้เริ่มต้นง่ายๆ จากชุดทดลองเลี้ยงก่อน เพื่อศึกษาธรรมชาติ ศึกษาปัญหา รวมถึงการเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาควบคู่กันไป ถ้าหากทำแล้วดีในอนาคตก็สามารถขยายปริมาณการเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้น หรืออาจจะพัฒนาไปเพาะเลี้ยงสายพันธุ์อื่นเพิ่มเติมก็ทำได้ ยกตัวอย่างที่ฟาร์มเริ่มต้นเลี้ยงจากพันธุ์ที่ง่ายก่อน คือด้วงสาคูสายป่า หลังจากนั้น เมื่อเกิดความชำนาญก็ได้มีการพัฒนาเลี้ยงสายพันธุ์ที่ยากขึ้นมาคือ สายพันธุ์จัมโบ้ มีจุดเด่นตรงที่ขนาดตัวจะใหญ่กว่าสายป่า โตเร็ว ช่วยลดจำนวนปริมาณตัวลง จากด้วงสายป่าต้องจับประมาณ 170-200 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ลดเหลือลงมา 120-150 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม ถือว่ามีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ผู้เลี้ยงสามารถเลือกเลี้ยงได้ตามความเหมาะสมและความต้องการของตลาดในแต่ละพื้นที่ได้เลย

ใส่คลุกลงไปกับอาหาร

ปัจจุบันที่ฟาร์มมีการเพาะเลี้ยงด้วงเพียง 10 กะละมัง ในกะละมังขนาด 19 นิ้ว จะปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงไปจำนวน 5 คู่ โดยขั้นตอนการเลี้ยงให้คำนึงถึงองค์ประกอบหลักสำคัญคือ น้ำ อากาศ ความชื้น ต้องเหมาะสมเพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของด้วงทั้งหมด ซึ่งผู้เลี้ยงจะต้องอดทนค่อยๆ เรียนรู้ปัญหาที่เกิด ควบคู่กับการเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาไปพร้อมกัน

ได้กินฟักทอง สีก็จะคล้ายกับสีฟักทอง

สำหรับการลงทุนครั้งแรก ราคาพ่อแม่พันธุ์ขายกันอยู่ที่คู่ละประมาณ 10 บาท และให้เรียนรู้สูตรอาหาร จากชุดทดลองที่ซื้อมา ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะถ้าหากซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเลี้ยงเองเลยจะยากไปสำหรับมือใหม่ ด้วยยังไม่ชำนาญในสูตรอาหาร รวมถึงยังกะปริมาณการอาหารในแต่มื้อยังไม่นิ่ง ในบางครั้งอาจจะให้มากหรือน้อยเกินไป โดยชุดทดลองมีราคาอยู่ที่หลักร้อยต่อ 1 ชุด แต่ต้องซื้อกะละมังเพิ่มเอง และอุปกรณ์อื่นๆ จิปาถะในช่วงเริ่มต้น หากอดทนผ่านช่วงเริ่มต้นไปได้ รับรองได้ว่าการเพาะเลี้ยงด้วงถือเป็นอาชีพเสริมที่ดีอีกช่องทางหนึ่ง ลงทุนครั้งเดียวสร้างรายได้ได้นาน สามารถผลิตพ่อแม่พันธุ์ไว้สำหรับการเพาะเลี้ยงครั้งถัดไปได้ ช่วยลดต้นทุนในการซื้อพ่อแม่พันธุ์ทุกครั้ง อาจจะต้องเสียเวลาช่วง 2 เดือนแรกในการผลิตพ่อแม่พันธุ์ แล้วหลังจากนั้นก็สามารถวางแผนการเพาะเลี้ยงล่วงหน้าได้ เช่น อาจจะวางแผนในการเพาะเลี้ยงวันละ 2 กะละมัง ก็เท่ากับว่าในเดือนต่อไปจะมีด้วงจับขายได้ทุกวัน

แช่น้ำทำความสะอาด “คายขี้”

ขั้นตอนการแปรรูปด้วงลวกฟรีซ

Advertisement

พี่เดือน บอกว่า วิธีการแปรรูปด้วงลวกฟรีซ ถือเป็นการสร้างมูลค่า และถือเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ได้อีกช่องทางหนึ่ง เพราะผลิตภัณฑ์แปรรูปด้วงลวกฟรีซนี้ ทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชอบความสะดวกสบาย

ล้างท้อง-คายขี้ ได้ตัวด้วงสีเหลืองสวย

“การนำมาบริโภค ก่อนนำมาปรุงอาหาร จะต้องนำตัวหนอนมาล้างน้ำและแช่เกลือทิ้งไว้ 10-30 นาที เพื่อล้างสิ่งสกปรกทั้งภายในและภายนอกตัวหนอนออก แล้วจึงนำมาลวกน้ำร้อนก่อนนำไปผัด โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน ให้น้ำมันสีดำๆ ในตัวหนอนด้วงออกให้หมด จนกว่าน้ำมันจากตัวหนอนด้วงเป็นสีใส แล้วนำไปล้างน้ำอีกครั้ง จึงค่อยนำไปปรุงอาหารได้ตามใจชอบ ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก กว่าจะได้กินก็เสียเวลาไปมากพอสมควร แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ด้วงลวกฟรีซของพี่ เมื่อลูกค้าซื้อไปแล้วสามารถเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นได้เลย พอถึงเวลาอยากกินก็หยิบออกมาประกอบอาหารในเมนูต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องนำมาล้างท้องทำความสะอาดก่อน เพราะที่ฟาร์มพี่ทำให้ครบหมดแล้ว”

Advertisement
เมนู “ด้วงคั่วเกลือ”

โดยขั้นตอนการแปรรูปด้วงลวกฟรีซ เริ่มจาก

  1. นำด้วงที่โตเต็มวัยอายุประมาณ 40-45 วัน มาล้างท้อง คือการนำเอาผลไม้ที่หาได้ตามฤดูกาลมาให้ อย่างเช่น การนำเอาฟักทองมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปคลุกกับอาหารที่เป็นอาหารใหม่ แล้วนำตัวด้วงลงไปเลี้ยงทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน ด้วงจะเริ่มอิ่มอาหาร แล้วลำตัวและสีของด้วงจะออกมาสวย ไม่มีกลิ่นสาบ เพราะได้กินอาหารใหม่ที่ผสมผลไม้ลงไป
  2. จากนั้นจับด้วงที่ผ่านการล้างท้องมาแล้วขึ้นมาล้างในน้ำสะอาด 1-3 ครั้งเพื่อทำการคายขี้ โดยในการแช่น้ำแต่ละครั้งให้สังเกตว่าน้ำที่อยู่ในกะละมังยังมีล่องลอยของสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในน้ำหรือไม่ ถ้ายังมีอยู่ก็ให้เปลี่ยนน้ำล้างจนกว่าน้ำจะใส ไม่มีล่องลอยของสิ่งสกปรก
  3. หลังจากทำการคายขี้เสร็จแล้ว นำตัวด้วงที่ได้ไปน็อกในน้ำแข็ง โดยช่วงเวลาก่อนที่จะทำการน็อกให้ดูว่าด้วงนิ่งสนิทดีทุกตัวก่อน หลังจากการน็อกน้ำแข็งเสร็จเตรียมต้มน้ำในอุณหภูมิกลางถึงอ่อน แล้วนำด้วงลงไปลวกใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที จากนั้นคนให้มีความร้อนทั่วถึง เมื่อลวกจนครบเวลาให้นำด้วงไปน็อกในน้ำแข็งอีกครั้งเป็นอันเสร็จขั้นตอน
  4. จากนั้นนำมาสู่ขั้นตอนการซีลสุญญากาศ สามารถเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นได้นาน โดยจะแพ็กขายถุงละครึ่งกิโลกรัม ขายในราคา 125 บาท เพื่อให้สะดวกในการนำมาประกอบอาหารในแต่ละครั้ง และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากด้วงสดที่ส่งลูกค้ากิโลกรัมละ 200 บาท และด้วงลวกฟรีซในราคา 250 บาท ราคาต่างกันแค่ 50 บาท ช่วยประหยัดเวลาเป็นทางเลือกที่ดีให้ลูกค้า
ผลิตภัณฑ์แปรรูป “ด้วงลวกฟรีซ”

การตลาด ตอนนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นตลาดเป็นไปได้ดี มีลูกค้าอยู่รอบตัว เป็นคนรู้จักบ้าง คนบ้านใกล้เรือนเคียงบ้าง ซึ่งหลายคนก็ให้ผลตอบรับมาว่านำไปทำอาหารต่อได้ง่าย ไม่ว่าจะทอด จะย่าง หรือทำลาบ ทำผัดกะเพราก็ง่าย แถมรสชาติออกมาก็ดี ไม่มีกลิ่นสาบ ซึ่งการแปรรูปในครั้งนี้นอกเหนือจากการเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าแล้ว ยังช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เคยกลัวกับการที่ต้องกินด้วง แต่พอนำมาแปรรูปแล้วก็ลดความกลัวลงไปได้ ยิ่งถ้าหากนำไปทอดแล้วนำผงชีสมาโรย รับรองได้เลยว่าจะอร่อยจนหยุดไม่อยู่ ด้วยรสชาติมันและหวานติดปลายลิ้น

ซึ่งในอนาคตวางแผนที่จะขยายการเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับตลาดอาหารแช่แข็ง โดยเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับการตลาดกับญาติที่ทำธุรกิจห้องเย็นแล้วว่า ถ้าหากที่ฟาร์มทำการขยายการเพาะเลี้ยงจนสามารถผลิตด้วงในปริมาณที่เขาต้องการได้ ก็สามารถมาพูดคุยการตลาดกันต่อได้เลย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ทำอยู่มีความน่าสนใจมาก แต่ยังผลิตได้น้อยเกินไป ทำให้ต่อรองกับคู่ค้ายาก

เมนูย่างก็ทำได้

มือใหม่หัดเลี้ยงเน้นที่ความใส่ใจ

“สำหรับคุณที่สนใจจะเลี้ยงด้วงแล้วยังติดกับคำที่ไปดูตามสื่อต่างๆ ว่าการเพาะเลี้ยงด้วงง่าย ไม่ต้องใช้เวลาเยอะก็ทำได้ ข้อนี้ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการเลี้ยงด้วงสำหรับพี่ต้องมีเวลาใส่ใจดูแล เพื่อให้เรามีเวลาที่จะผลิตสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ถ้าหากคุณไม่ใส่ใจ ให้แต่อาหารอย่างเดียว ไม่ดูแลเรื่องมดแมลง ไม่รักษาความสะอาด สิ่งที่ได้มาด้วงอาจจะมีกลิ่นสาบ ไส้อาจจะดำ ก็ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจ ซื้อครั้งเดียวลูกค้าก็หายไปแล้ว เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นควรมีเวลาดูแลเขานิดหนึ่ง อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน เริ่มจากชุดทดลองก่อน แล้วก็มาดูว่าที่บ้านเรา สถานที่เราเลี้ยงเจอปัญหาอะไร หรือพูดง่ายๆ ว่าคนเลี้ยงต้องเจอปัญหาเองก่อน เพื่อจะได้เจอวิธีแก้ปัญหา เพราะบางคนไม่เคยเลี้ยงมาก่อนเลยแต่เริ่มลงทุนเยอะก็อาจจะสูญเสียเงินลงทุนก้อนนั้นไปแบบง่ายๆ ถ้าดูแลไม่ทั่วถึง เพราะฉะนั้น ในเดือนแรกให้เริ่มเลี้ยง 3-4 ชุดพอแล้ว เลี้ยงให้ขายได้สัก 1 กิโลกรัมก็ยังดี นั่นแปลว่าเราผ่านอุปสรรคมาได้ขั้นหนึ่งแล้ว จากนั้นเมื่อเลี้ยงสำเร็จก็ให้ทดลองนำมาทอดกินเองว่าด้วงของเรามีกลิ่นสาบไหม ถ้ามีต้องแก้ตรงไหน สาเหตุเกิดจากอะไร ถ้ารู้แล้วก็สามารถเลี้ยงเพิ่มได้ คือแก้ไขให้ดีก่อนแล้วค่อยลงทุนเพิ่ม” พี่เดือน กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 099-391-4294