มะขามหวาน “ประกายทองและสีชมพู” แบรนด์ “คุณติ๋วมะขามหวาน” ผลไม้ดีและเด่น ประจำเมืองเพชรบูรณ์

“ประกายทอง” เป็นชื่อพันธุ์มะขามหวานที่โด่งดังของเพชรบูรณ์ มีแหล่งกำเนิดที่อำเภอชนแดน ความอร่อยเลื่องชื่อจนถูกนำมาตั้งเป็นคำขวัญประจำจังหวัด

ความจริงมะขามหวานที่เพชรบูรณ์มีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีจุดเด่นต่างกัน แต่เหตุผลที่ประกายทองเป็นมะขามหวานที่ได้รับนิยมมากที่สุดในบรรดาพันธุ์มะขามหวานพันธุ์อื่น เพราะคุณลักษณะโดดเด่นที่มีฝักยาว ขนาดใหญ่โค้งงอไม่มีเหลี่ยม เมื่อฝักสุกเปลือกจะบางเป็นสีน้ำตาล เนื้อหนา และมีรสฉ่ำเป็นทรายออกมีสีน้ำผึ้ง เมล็ดเล็ก จึงเหมาะใช้ปลูกเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม มะขามหวานพันธุ์อื่นก็ยังได้รับความนิยมไม่แพ้ประกายทองเช่นกัน

ประกายทองมีฝักใหญ่ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก แห้ง หวาน และหอม

สวนมะขามหวานแบรนด์ “คุณติ๋วมะขามหวาน” ตั้งอยู่เลขที่ 7 หมู่ที่ 8 ตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ 084-665-0368 ยึดอาชีพปลูกมะขามหวานบนพื้นที่จำนวน 10 ไร่ มีพันธุ์ประกายทอง 8 ไร่ และสีชมพู 2 ไร่ ทั้งหมดมีอายุต้นกว่า 30 ปี โดยประกายทองปลูกเพื่อขายฝัก ส่วนสีชมพูสำหรับไว้แปรรูป มีตลาดขายส่งและปลีกทั่วประเทศในแบบขายตรงและออนไลน์

เปรียบเทียบขนาดฝักระหว่างประกายทองกับสีชมพู

คุณสมจิตร ชัยหอมนวล หรือ คุณติ๋ว เจ้าของสวนบอกเหตุผลที่เลือกปลูกมะขามหวานเฉพาะสองพันธุ์นี้ว่า จุดเด่นของพันธุ์ประกายทองมีลักษณะฝักใหญ่ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก แห้ง หวาน และหอม มีเยื่อหุ้มเมล็ดนุ่ม ส่วนพันธุ์สีชมพูมีลักษณะฝักตรง เนื้อน้อยกว่าประกายทอง หวานอมเปรี้ยว เยื่อหุ้มเมล็ดนุ่มเช่นกัน ดังนั้น ในด้านการประกอบอาชีพจึงเลือกประกายทองสำหรับขายฝักและสีชมพูสำหรับใช้แปรรูป

คุณสมจิตร ชัยหอมนวล หรือ คุณติ๋ว กับผลผลิตประกายทองที่เตรียมคัดออเดอร์

คุณติ๋ว บอกว่า ในพื้นที่ 1 ไร่ปลูกมะขามได้ 14-16 ต้น ระยะปลูก 6 คูณ 6 เมตร มะขามหวานขยายพันธุ์ด้วยวิธีทาบกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 45 วัน แล้วตัดมาชำต่ออีก 15 วัน หลังจากต้นฟื้นแข็งแรงจึงย้ายมาลงปลูกในแปลง จะปลูกในช่วงก่อนเข้าฤดูฝนเล็กน้อย เพราะเป็นการปลูกแบบธรรมชาติโดยใช้น้ำฝนเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ มะขามเป็นไม้ยืนต้นทนแล้ง จึงไม่จำเป็นต้องวางระบบน้ำ ยกเว้นไม่ควรขาดน้ำในช่วงที่มีดอกเท่านั้น

“ช่วงเริ่มปลูกรองก้อนหลุมด้วยปุ๋ยคอกเล็กน้อยและหญ้าแห้ง ขุดหลุมลึกประมาณ 1 ศอก โดยระยะเริ่มปลูกไปจนถึง 5 ปี ควรเติมปุ๋ยคอกเป็นระยะ ต้นละ 1-2 กิโลกรัมโรยรอบต้น ขณะเดียวกัน ช่วงต้นมะขามอยู่ระหว่างเจริญเติบโตนี้สามารถปลูกพืชอย่างข้าวโพดหรือถั่วแซมระหว่างแถวเพื่อเป็นรายได้ ทั้งนี้ การให้ปุ๋ยกับพืชแซมอาจเพิ่มจำนวนอีกเล็กน้อยเพื่อแซมให้กับต้นมะขามไปด้วย”

พันธุ์สีชมพูเก็บมาแล้วเตรียมเข้ากระบวนการแปรรูป

มะขามหวานเริ่มมีผลผลิตในปีที่ 5 ยังมีไม่มากนักประมาณต้นละ 5-10 กิโลกรัม ทั้งยังไม่ค่อยสมบูรณ์ดี จะขายหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ปลูก แต่ควรบำรุงต้นต่อไปจนถึงประมาณ 7-8 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่พร้อมให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและดก

“ควรเริ่มบำรุงดอกอย่างจริงจังเมื่อต้นอายุ 7-8 ปี ช่วงมีดอกต้องเอาใจใส่ดูแลเรื่องแมลงศัตรู โดยเฉพาะหนอนกระทู้ที่มักเข้ามาทำลายดอก ดังนั้น ก่อนเข้าช่วงเริ่มมีดอกครั้งแรกควรใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ร่วมกับการฉีดฮอร์โมนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เกษตรและทางร้านจำหน่ายปุ๋ยยาที่มีความเชี่ยวชาญ”

แพ็กเกรด A

มะขามหวานเริ่มมีดอกประมาณช่วงปลายเมษายน มีอายุเก็บเกี่ยวผลผลิต 9 เดือน สามารถเก็บผลผลิตได้ 3-4 ครั้งต่อรอบผลผลิต จนสิ้นฤดูประมาณเดือนมีนาคม แล้วจึงเริ่มตัดแต่งกิ่งบำรุงต้นเพื่อเตรียมผลผลิตในรอบต่อไป สำหรับต้นที่มีความสมบูรณ์สามารถให้ผลผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัมต่อต้น แล้วหากสวนไหนดูแลความสมบูรณ์ของต้นเป็นอย่างดี จะมีผลผลิตดกทุกปีอย่างสม่ำเสมอ

การขายมะขามหวานสวนคุณติ๋วจะเก็บขายให้กับคนมารับซื้อที่สวน ผลผลิตบางส่วนมีขายทางออนไลน์ ส่วนพันธุ์สีชมพูจะเก็บผลผลิตเข้าห้องเย็นเพื่อแปรรูปสำหรับไว้ขายตลอดปี

มะขามคลุก ยังครองความนิยมตลอด

เมื่อถึงช่วงเก็บผลผลิตจะจ้างแรงงานมาเฉพาะเก็บเท่านั้น โดยให้ค่าตอบแทนกิโลกรัมละ 10 บาท จะต้องใช้บันไดปีนเก็บทีละฝักอย่างระมัดระวัง ผู้รับซื้อจะนำไปแพ็กใส่ถุงขายตามร้านในจังหวัดและจังหวัดอื่น หรือบางรายส่งมะขามหวานไปขายประเทศเพื่อนบ้าน อย่างลาว เขมร ขนาดผลประกายทองที่สมบูรณ์ประมาณ 15-16 ฝักต่อกิโลกรัม ส่วนสีชมพูประมาณ 20 ฝักต่อกิโลกรัม

คุณติ๋ว ชี้ว่า แม้ประกายทองมีข้อดีเรื่องเนื้อผลมาก แต่เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราได้ง่ายหากได้รับความชื้นสูง ทำให้ยากต่อการป้องกันเชื้อรา ดังนั้น มะขามพันธุ์นี้จึงเหมาะปลูกในพื้นที่อย่างจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเคยมีการนำไปปลูกทางภาคเหนือพบว่าไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากพบมีเชื้อราเกิดในผล เพราะทางภาคเหนือเป็นพื้นที่มีความชื้นสูง

มะขามข้อเดี่ยว เนื้อล้วน หวานอมเปรี้ยว

ส่วนกระบวนการแปรรูปพันธุ์สีชมพู เริ่มจาก 1. นำมาตากแดดทั้งเปลือกให้แห้งอีกรอบเพื่อไล่ความชื้นให้หมด 2. ปอกเปลือกแล้วดึงซังออก 3. ผ่าแล้วนำเมล็ดออก 4. นำไปอบ 5. บรรจุใส่แพ็ก สำหรับสินค้ามะขามหวานที่แปรรูป ได้แก่ 1. แบบดั้งเดิมที่มีรสเปรี้ยวหวานเล็กน้อย 2. แบบคลุก 3 รส (เผ็ด เค็ม หวาน) และ 3. คลุกบ๊วย

ผลมะขามที่จำหน่ายมีหลายแบบโดยกำหนดตามข้อผลตั้งแต่ 1-3 ข้อ ไปจนถึงแบบเกรด A คุณติ๋ว เล่าว่า ผลมะขามแบบข้อเดี่ยวเมื่อก่อนมีเยอะมากเก็บไปขายให้ใครก็ไม่สนใจ จึงลองมาคัดความสมบูรณ์แล้วบรรจุใส่แพ็กเกจสวย สะอาด นำไปขายทางออนไลน์ราคากระปุกละ 50 บาท ขนาด 200 กรัม (เนื้อล้วน) ปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างดีที่จังหวัดขอนแก่น สั่งซื้อกันเป็นร้อยกระปุก

สวนมะขามหวานคุณติ๋ว

เรื่องการตลาดคุณติ๋วมองว่า ถ้าต้องการให้สินค้าขายดีควรได้รับการการันตีคุณภาพจากหน่วยงานที่ได้มาตรฐาน ดังนั้น จึงได้นำมะขามหวานในสวนส่งประกวดเพื่อชิงรางวัลมาตั้งแต่ปี 2560 ก็ไม่ประสบผล แต่ไม่ลดละหรือท้อแท้ กลับไปพัฒนาปรับปรุงคุณภาพ จนเมื่อปี 2563 ได้ส่งพันธุ์สีชมพูเข้าประกวดได้รางวัลที่ 3 ระดับจังหวัด และปี 2564 ส่งอีก คราวนี้ส่งทั้งประกายทองและสีชมพูเข้าประกวดได้รางวัลชนะเลิศทั้งคู่ พร้อมกันนี้ พันธุ์สีชมพูยังได้รางวัลยอดเยี่ยมถ้วยพระราชทานอีก 1 รางวัล จึงทำให้ในปี 2564 สวนมะขามคุณติ๋วกวาดรางวัลประกวดมะขามไปถึง 3 รางวัลเลยเชียว

พันธุ์สีชมพูแกะเปลือกเตรียมเก็บเข้าห้องเย็นเพื่อทยอยนำออกมาแปรรูปขายตลอดทั้งปี

สวนมะขามหวานคุณติ๋ว จำหน่ายมะขามแบบฝักและแปรรูปมาอย่างยาวนาน จนได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมากทั้งแบบขายตรงและออนไลน์ สวนแห่งนี้ยังกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยการชักชวนผู้สูงอายุมาช่วยงานบางประเภทที่ทำไม่ยาก อาทิ การแกะเปลือกมะขาม ช่วยให้บรรดาผู้สูงอายุมีกิจกรรมทำกันทุกวัน มาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานทำให้ไม่เหงา ช่วยให้พวกเขามีความสุขแทนการอยู่เฉยๆ ทั้งยังสร้างรายได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรบกวนลูกหลาน

คุณติ๋วกับออเดอร์มะขามที่เตรียมส่งลูกค้า

“อยากเชิญชวนผู้อ่านมาเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง หลายสไตล์ตามรสนิยม แต่ที่สำคัญอย่าลืมแวะอุดหนุนมะขามที่สวนคุณติ๋วด้วยแล้วกัน โทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลข 084-665-0368” คุณติ๋ว กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณ : สำนักงานเกษตรอำเภอชนแดน