ราคาข้าวสารผันผวนหนัก ตลาดตื่นหลังผู้ส่งออกไทยชวดประมูลข้าวบังกลาเทศ

ราคาข้าวสารผันผวนหนัก ต้นสัปดาห์ร่วงอีกรอบเหลือตันละ 11,400 บาท ตลาดตื่นไทยพลาดออร์เดอร์ประมูลข้าวบังกลาเทศให้โอแล่ม 50,000 ตัน  ด้านสมาคมผู้ส่งออกฯมั่นใจส่งออก ก.ค.ยังได้ 900,000 ตัน หลังครึ่งปีแรกทะลุ 5.4 ล้านตัน “เอเซีย โกลเด้นไรซ์” ครองเบอร์ 1

 แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวเปิดเผยกับ ?ประชาชาติธุรกิจ? ถึงสถานการณ์ราคาข้าวสารได้ปรับลดลงอีกครั้ง โดยล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ผู้ส่งออกเปิดราคารับซื้อข้าวขาว 5% จากโรงสีเหลือตันละ 11,400-11,600 บาท จากที่เคยปรับลดลงมาระลอกหนึ่งก่อนหน้านี้มาอยู่ที่ตันละ 12,000 บาท จากราคาที่เคยสูงถึงตันละ 14,000-14,500 บาท

ผู้ส่งออกข้าวหลายรายได้ให้เหตุผลว่า ผู้ซื้อในต่างประเทศมองผลผลิตข้าวเดือนหน้าของไทยยังมีปริมาณมาก ประกอบกับผลการประมูลข้าวฟิลิปปินส์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏ ไทยชนะประมูลเพียง 25,000 ตัน ขณะที่เวียดนามชนะไปถึง 175,000 ตัน และการประมูลซื้อข้าวนึ่งจากเอกชนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาของบังกลาเทศ 50,000 ตัน ทางบริษัทโอแล่ม เทรดเดอร์ข้าวก็เป็นผู้ชนะไปอีก นอกจากนี้รัฐบาลก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G)

ให้กับบังกลาเทศได้ ทั้งหมดนี้จึงส่งผลทางจิตวิทยาทำให้ตลาดเห็นว่า ข้างยังไม่มีออร์เดอร์รองรับ ส่งผลให้โรงสีหลายแห่งที่ไปแข่งขายราคาลดลงไว้ล่วงหน้าได้รับผลกระทบ

แต่อีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า สาเหตุที่ราคาข้าวลดลงเป็นเพราะ การระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลถูกระงับจึงยังมีแรงกดทับต่อราคาข้าวในตลาด ส่วนการชนะประมูลข้าวบังกลาเทศของโอแล่มนั้น ไม่ได้มีผลกับไทยเพราะบริษัทธนสรรฯผู้ส่งออกไทยเป็นซัพพลายเออร์ข้าวให้โอแล่ม ซึ่งจะมีการส่งมอบข้าวกันในเดือนหน้า

ล่าสุดจากสถิติการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีแรกปรากฏ กลุ่มเอเซีย โกลเด้นไรซ์ ยังคงครองอันดับ 1 รองลงมาได้แก่ กลุ่มนครหลวงค้าข้าว และธนสรรไรซ์ ส่งออกมาเป็นอันดับ 3 (ตารางประกอบ)

ด้าน ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึง การส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม-มิถุนายน) มีปริมาณ 5,422,861 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 8.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีการส่งออก 5,009,872 ตัน มูลค่า 80,048 ล้านบาท (2,307 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีมูลค่า 78,106 ล้านบาท (2,207 ล้านเหรียญ) โดยไทยส่งออกข้าว เป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ อินเดีย 5.30 ล้านตัน, เวียดนาม 3.19 ล้านตัน, ปากีสถาน 1.41 ล้านตัน และสหรัฐ 1.88 ล้านตัน

โดยชนิดข้าวขาว 2,653,066 ตัน เพิ่มขึ้น 2.2% ข้าวหอมมะลิ 1,189,713 ตัน ลดลง 1.5% ข้าวนึ่ง 1,218,598 ตัน เพิ่มขึ้น 24.6% ข้าวเหนียว 250,660 ตันเพิ่มขึ้น 58.6% และข้าวหอมไทย 110,823 ตัน เพิ่มขึ้น 63.5% โดยตลาดหลัก ได้แก่ เบนิน 782,189 ตัน เพิ่มขึ้น 53.2% จีน 681,345 ตัน เพิ่ม 46.0% แอฟริกาใต้ 308,304 ตัน เพิ่ม 7.1% เป็นต้น

สำหรับการส่งออกข้าวในเดือนมิถุนายน 2560 มีปริมาณ 1,037,779 ตัน เพิ่มขึ้น 37.5% จากเดือนก่อน ด้านมูลค่า 14,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.5% เนื่องจากมีการส่งมอบข้าวตลาดแอฟริกาใต้ เบนิน อิหร่าน จีน และมาเลเซีย ส่งผลให้ยอดส่งออกข้าวขาว 553,250 ตัน เพิ่มขึ้น 47.7% จากเดือนก่อน ขณะที่ข้าวนึ่งมีปริมาณ 260,763 ตัน เพิ่มขึ้น 66.9% จากเดือนก่อน ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ 189,680 ตัน เพิ่มขึ้น 2.5% ไปยังสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ อิหร่าน

ส่วนปลายข้าวหอมมะลิส่งไปยังประเทศไอวอรีโคสต์ เซเนกัล เดือนนี้คาดว่าจะส่งออกได้ 800,000-900,000 ตัน เนื่องจากยังมีสัญญาส่งมอบข้าวขาวและข้าวนึ่งไปจนถึงช่วงปลายเดือนนี้ และทิศทางตลาดโลกยังคงมีดีขึ้นจากที่หลายประเทศต้องการนำข้าวมากขึ้น เช่น บังกลาเทศ, ศรีลังกา

อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านแรงงานทำให้การขนถ่ายสินค้าล่าช้ากว่ากำหนดนานถึง 1 เดือน ส่งผลให้ผู้ซื้อหันไปซื้อข้าวจากเวียดนาม อินเดีย นอกจากนี้การที่ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางที่ ?แข็งค่าขึ้น? ส่งผลให้ราคาข้าวไทยแพง แข่งขันได้ลดลง

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ