ชาวไร่อ้อยขอเพิ่มตันละ50บาทเสนอ 54 รง.ทั่วปท.กู้แบงก์

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 และหัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยแนวทางการช่วยเหลือค่าอ้อยสำหรับฤดูการผลิตปี 2560/61 เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้เงินค่าอ้อยเพิ่มจาก 880 บาทต่อตันอ้อยสำหรับพื้นที่ปลูกทั่วไปและ 830 บาท

สำหรับอ้อยเขต 5 เป็น 900 บาทต่อตันอ้อยทั่วประเทศ ว่า ในการประชุมคณะกรรมการทำงานพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ฤดูการผลิตปี 2560/61ที่มีนายอภิจิณ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน และมีตัวแทนชาวไร่อ้อย ตัวแทนโรงงาน ตัวแทนจากสมาคมธนาคารไทย และตัวแทนส่วนราชการร่วมด้วย

โดยในที่ประชุมมีการเสนอแนวทางช่วยเหลือหลายแนวทาง ซึ่งในส่วนของทางชาวไร่อ้อยได้เสนอให้ทางโรงงานน้ำตาลช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ด้วยการให้โรงงานน้ำตาลทั้ง 54 แห่งทั่วประเทศทำเรื่องขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมเพื่อนำมาจ่ายเพิ่มค่าอ้อยให้ชาวไร่อ้อยในอัตรา 50 บาทต่อตันอ้อย

ซึ่งปีนี้ประเมินภาพรวมว่าจะมีผลผลิตอ้อยรวมประมาณ 103 ล้านตันอ้อย วงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งแต่ละโรงงานมีสถานภาพทางธุรกิจกับทางธนาคารพาณิชย์ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ที่จะได้หรือไม่ต่างกันไปด้วย

นายนราธิปกล่าวว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการเสนอแนวทางช่วยเหลือชาวไร่อ้อยอีกหลายแนวทาง ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดในภาพรวมจะมีการสรุปเพื่อเสนอนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) พิจารณาในการประชุมกลางเดือนมกราคมนี้

ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้มีข้อสรุปอย่างชัดเจนว่า แนวทางช่วยเหลือที่ได้รับการเห็นชอบจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากแนวทางที่ชาวไร่อ้อยเสนอได้รับการตอบสนอง ชาวไร่อ้อยคาดหวังว่า จะได้รับเงินเพิ่มค่าอ้อยในงวดวันที่ 31 มกราคม 2561 ซึ่งเม็ดเงินจะได้รับในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่า แนวทางการเพิ่มราคาค่าอ้อยตามที่ชาวไร่เสนอให้โรงงานน้ำตาลทรายกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์นั้น เป็นแนวทางที่กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่แล้ว เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านต้นทุนการผลิตของชาวไร่ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 900 บาทต่อตันอ้อย และไม่ผิดกฎขององค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ)

Advertisement

ซึ่งในการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นนั้นภาครัฐต้องกำหนดราคาที่ต่ำไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะหากราคาขั้นต้นสูงแต่ราคาอ้อยขั้นปลายต่ำรัฐจะต้องหาเงินมาชดเชยชาวไร่กลายเป็นปัญหาตามมาอีก ทั้งนี้เมื่อโรงงานกู้เงินให้ชาวไร่แล้ว วิธีการชำระคืนคือ โรงงานจะหักเงินจากราคาขั้นอ้อยขั้นปลายที่สูงกว่ามาคืนธนาคาร ซึ่งจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด