ค้าภายใน สุ่มตรวจ-งัด กม.สกัดลักลอบนำเข้าหอม/กระเทียม

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนำเจ้าหน้าที่ค้าภายในจังหวัด และกรมศุลกากร ออกสุ่มตรวจแหล่งจำหน่ายกระเทียมขนาดใหญ่ ในบริเวณตลาดไท รังสิต เพื่อควบคุมให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พบว่า มีผู้ค้ากระเทียมไม่น้อยกว่า 5 ราย ไม่แจ้งปริมาณการครอบครอง และไม่มีบัญชีการซื้อและขาย ซึ่งต้องทำเป็นรายวัน

จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยโทษหากไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุม จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกิน วันละ 2,000 บาท จนกว่าจะดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการไม่แจ้งการขออนุญาตขนย้ายโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ได้ร่วมกับกรมศุลกากร ตั้งด่านตรวจสอบการลักลอบนำเข้ากระเทียม หอมหัวใหญ่ และหอมแดง อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องปรามช่วยให้เกษตรกรในประเทศจำหน่ายได้ในราคาเหมาะสม ทั้งนี้ ได้จัดชุดสายตรวจเพื่อตรวจสอบในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เน้นหนักภาคเหนือและภาคกลาง และในวันที่ 9 มีนาคมนี้ นายสนธิรัตน สนธิจิรวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำคณะลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกระเทียมรายใหญ่ มีผลผลิตรวมกันมากกว่า 30,000 ตัน จากผลผลิตเฉลี่ยปีละ 70,000 ตัน เพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกร รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเตรียมความพร้อมรองรับมาตรการเชื่อมโยงผลผลิตกระเทียม โดยเบื้องต้นกำลังประสานห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ให้เข้าไปรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกร เพื่อนำไปเก็บสต๊อกชะลอการจำหน่ายผลผลิตในช่วงที่ปริมาณผลผลิตมากกว่าความต้องการใช้

ทั้งนี้ ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่ควบคุมการขนย้ายกระเทียมนำเข้าจากต่างประเทศที่มีปริมาณตั้งแต่ 400 กิโลกรัมขึ้นไป รวมทั้งผู้นำเข้าและผู้ครอบครอง ตั้งแต่ 2,000 ตันขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณ ชนิด ขนาด สถานที่จัดเก็บ ปริมาณการจำหน่าย และปริมาณคงเหลือ ต้องขออนุญาตในการขนย้าย และการครอบครอง ในพื้นที่จังหวัด 52 จังหวัด เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับปริมาณ และการจำหน่ายกระเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาถูก โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตกระเทียม รวมไปถึงหอมหัวใหญ่ และหอมแดงของภาคเหนือ กำลังออกสู่ตลาดจำนวนมากตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ประกอบกับผลผลิตของต่างประเทศก็ออกสู่ตลาดมากเช่นกัน เพื่อป้องกันผลผลิตจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายแข่งขันกับผลผลิตภายในประเทศอีกด้วย