สหกรณ์ผลไม้ 5 แห่งจับมือเจรจาธุรกิจกับอินเดีย เตรียมส่งออกผลไม้ไทยเปิดตลาดเอเชียใต้

สหกรณ์ชาวสวนผลไม้ 5 แห่งจับมือเจรจาธุรกิจกับอินเดีย เตรียมส่งออกผลไม้ไทยเปิดตลาดเอเชียใต้ รับอินเดียสนใจเงาะ เป็นพิเศษ  ต้องการสั่งซื้อวันละ 500 กิโลกรัม เบื้องต้นสหกรณ์ขอเจรจารายละเอียดเรื่องราคาและการขนส่งให้ชัดเจน ก่อนลงนามสัญญาซื้อ-ขายระหว่างกันต่อไป

นายอาทิตย์ สุกเหลือ สหกรณ์จังหวัดตราด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา สหกรณ์จังหวัดตราด พร้อมด้วยสหกรณ์จากจังหวัดจันทบุรี เชียงใหม่ ลำพูน และชุมพร ได้จับคู่เจรจาธุรกิจ  (Business Matching) กับผู้นำเข้าส่งออกสินค้าของประเทศอินเดีย จำนวน 12 ราย จาก 3 เมืองใหญ่ของอินเดีย โดยในงานดังกล่าวมีนายฉัตรชัย  ศักดิ์ศิลปะชัย  รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการเจรจาธุรกิจ เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดสินค้าเกษตร ตามโครงการส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดสินค้าเกษตรของไทย พร้อมทั้งยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับการจัดงานดังกล่าว ถือเป็นการเปิดตลาดการส่งออกผลไม้ของไทยที่มีศักยภาพ  โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงของไทย เช่น มังคุด เงาะ  ทุเรียน สับปะรดตราดสีทอง ลำไย แก้วมังกร และผลไม้อบแห้ง ซึ่งเป็นผลไม้ที่ทางอินเดียสนใจเข้ามาร่วมมือทำตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะเงาะของสหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด จำกัด ที่สหกรณ์ได้รวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ ทางผู้นำเข้าของอินเดียมีความต้องการเงาะของไทยประมาณวันละ  500 กิโลกรัม และต้องการให้ไทยส่งออกเงาะไปยังอินเดีย 2 วันครั้ง ครั้งละ 1 ตัน

อย่างไรก็ตามในการเจรจาธุรกิจร่วมกันครั้งนี้ ทั้งไทยและอินเดียได้เห็นชอบร่วมกันเกี่ยวกับปริมาณความต้องการผลไม้ไว้เบื้องต้นก่อน โดยที่ยังไม่มีการส่งออกผลไม้ไปในทันที เพราะต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดด้านการขนส่ง  และการบริหารจัดการอื่นๆ ให้ชัดเจน เช่น เรื่องราคา ช่องทางการขนส่ง รวมไปถึงวิธีการทำตลาดในระยะยาว คาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีข้อสรุปร่วมกัน ก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญาการซื้อ-ขายและการส่งออกอย่างเป็นทางการต่อไป

นายอาทิตย์ กล่าวว่า การเจรจาธุรกิจในครั้งจะประสบผลสำเร็จได้ด้วยความต้องการที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย อีกทั้งเป็นช่องทางในการขยายตลาดผลไม้ของจังหวัดตราด ในช่วงฤดูการผลิตที่จะออกสู่ตลาดมากในเดือน เมษายน – มิถุนายน 2561 ซึ่งจะทำให้เกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ สามารถผลิตและคัดเลือกผลไม้ที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคส่งไปจำหน่าย และได้ราคาที่เป็นธรรม เป็นที่พอใจของเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ ได้มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคต โดยที่ผลไม้ของไทยหลายชนิด ทางสหกรณ์มีความพร้อมที่จะทำหน้าที่ในการรวบรวมผลผลิตและทำตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ คาดว่าการหารือร่วมกับผู้นำเข้าสินค้าของอินเดียในครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญของการขยายตลาดผลไม้ไทยไปสู่ประเทศอินเดียได้ในที่สุด