หนาวมาเยือน โอกาสทอง ชาวบ้านแปรรูปไส้เดือนส่งนอกทำเงิน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้ภายหลังจากสภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง มีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยที่ประมาณ 15-16 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยหนาว แต่สำหรับชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม หรือที่เรียกกันว่าหมู่บ้านอาชีพแปลก ถือเป็นโอกาสทองของชาวบ้านให้มีรายได้จากการทำอาชีพแปลก แปรรูปไส้เดือนมาตากแห้ง ส่งขายต่างประเทศ ปลายทางคือ จีน ไต้หวัน ถือเป็นหมู่บ้านแห่งเดียวในโลกที่มีอาชีพแปลกหมุนเวียนตลอดทั้งปีตามฤดูกาล คือ ฤดูแล้งจะทำการแปรรูปตุ๊กแก ฤดูฝนจะแปรรูปปลิง และในฤดูหนาวจะแปรรูปไส้เดือน ทำมานานกว่า 30 ปี ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนสะพัดจากการทำอาชีพปริศนาปีละหลาย 10 ล้านบาท

เช่นเดียวกัน ในปีนี้ภายหลังเข้าสู่ฤดูหนาวเป็นโอกาสทองของชาวบ้านในพื้นที่บ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ต่างเร่งทำเงิน ด้วยการไปหาไส้เดือน รวมถึงรับซื้อมาจากชาวบ้าน เนื่องจากในช่วงฤดูหนาว โดยธรรมชาติไส้เดือน ช่วงเช้าหรือสภาพอากาศหนาว มีหมอกชื้น จะมีการเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่ในที่ชุ่มชื้น ทำให้ชาวบ้านไปเก็บไส้เดือนมาส่งขายในราคากิโลกรัมละประมาณ 30 บาท ก่อนนำไปแปรรูป ชำแหละทำความสะอาด และนำไปตากแห้ง ส่งขายต่างประเทศ กิโลกรัมละประมาณ 280-300 บาท หากครอบครัวไหนขยัน จะสามารถทำเงินได้เดือนละ 20,000-30,000 บาท ซึ่งจะมีพ่อค้ามารับออเดอร์ ส่งต่อไปขายปลายทาง ประเทศจีน ประเทศไต้หวัน เพื่อนำไปปรุงเป็นยาจีนชูกำลังตามความเชื่อ และมีออเดอร์รับไม่อั้น ทำให้ช่วงฤดูหนาวทุกปี ชาวบ้านจะมีรายได้จากการแปรรูปไส้เดือนจำนวนมาก

 

นายเหลี่ยม ปาทา อายุ 56 ปี กำนันตำบลนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับอาชีพแปรรูปไส้เดือนส่งออกของชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เป็นอาชีพแปลก ทำมานานกว่า 30 ปี เริ่มจากมีพ่อค้าชาวจีน ไต้หวัน มารู้จักกับพ่อค้าในหมู่บ้าน และมีการส่งเสริมให้ทำอาชีพแปลกตามฤดูกาลมาต่อเนื่อง หมุนเวียนไปตามฤดูกาล มีหน้าฝนแปรรูปปลิง หน้าร้อนแปรรูปตุ๊กแก และหน้าหนาวแปรรูปไส้เดือน แต่สำหรับฤดูหนาว ชาวบ้านตาลประมาณ 200 หลังคาเรือน จะเร่งทำเงิน จากการแปรรูปไส้เดือน ก่อนนำไปตากแห้ง และส่งขายให้กับพ่อค้าแบบครบวงจร มีทั้งไปหาเก็บไส้เดือน รวมถึงรับซื้อมาจากหลายจังหวัดของภาคอีสาน ราคากิโลกรัมละประมาณ 30 บาท แต่เมื่อนำมาแปรรูปแล้วตากแห้ง จะขายในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างดี มีงานทำตลอดทั้งปี ไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น ครอบครัวไหนขยัน มีรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท และกลายเป็นอาชีพเสริมที่มีการจ้างงานตลอดปี