ผู้เขียน | กาญจนา จินตกานนท์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อปลายเดือนกันยายน 2561 นี้ ได้ตามไปดูหน่วยงานภาครัฐร่วมเอกชน โดยพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด พัฒนาชุมชนอำเภอบ่อไร่ อำเภอบ่อไร่ เทศบาลตำบลบ่อพลอย ชุมชนท่องเที่ยวบ้านคลองขวาง บ้านหนองบอน และบ้านจัดสรร ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด สมาคมโรงแรมและรีสอร์ทจังหวัดตราด เปิดงาน “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ที่พิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณี ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด
คุณภาณุวัฒน์ พุทธเกสร นายอำเภอบ่อไร่ กล่าวว่า งานเปิดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หมู่ที่ 9 บ้านจัดสรร ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ ตามนโยบายของกรมพัฒนาชุมชน แต่ได้จัดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชนของหมู่บ้าน 4-5 หมู่บ้าน ในอำเภอบ่อไร่เข้าด้วยกัน เนื่องจากมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน และ หมู่ที่ 1 บ้านคลองขวาง ตำบลช้างทูนได้พัฒนาการท่องเที่ยวมา 6 ปีแล้ว และ ปี 2561 ได้พัฒนาเป็นหมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Village) เมื่อเป็นโอกาสมีการเปิดหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี หมู่ที่ 9 บ้านจัดสรร ตำบลบ่อพลอย ได้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวกว้างขวางขึ้น ทำให้ชุมชนแต่ละหมู่บ้านที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวกระตือรือร้นเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยว ซึ่งอำเภอบ่อไร่หลายๆ หมู่บ้าน มีเอกลักษณ์ ทั้งสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ อาหารถิ่น วิถีชีวิตล้วนแต่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้
“การเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวกันในพื้นที่อำเภอบ่อไร่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรตามรสนิยมและระยะเวลาที่เดินทางมา และเป็นโอกาสให้ชุมชนต่างๆ ได้สร้างงาน เป็นการกระจายรายได้ในหมู่บ้าน อนาคตหากสามารถพัฒนาคุณภาพด้านการท่องเที่ยวได้มาตรฐาน อำเภอบ่อไร่ร่วมกับท้องถิ่น มีโครงการร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราดเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากเกาะ-อำเภอบ่อไร่ บ่อไร่-เกาะ รวมทั้งนักท่องเที่ยวฝั่งกัมพูชาที่อยู่เขตชายแดนติดต่อกัน คาดว่าจะทำให้ชาวอำเภอบ่อไร่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้เสริมหรือรายได้หลักอย่างแน่นอน” คุณภาณุวัฒน์ กล่าว

เส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว เช็กอินจุดที่แรก… “พิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณี”
คุณภานุวัฒน์ ชี้แจงเส้นทางท่องเที่ยวอำเภอบ่อไร่ว่า ได้เชื่อมต่อกัน 4-5 หมู่บ้าน 5 ตำบล แบ่งเป็น 2 เส้นทางหลัก เส้นทางแรกเริ่มจากพิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณี ตำบลบ่อพลอย-อบต. ช้างทูน (หมู่ที่ 1 บ้านคลองขวาง หมู่ที่ 5 บ้านหนองไม้หอม) ตำบลช้างทูน ที่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมา 5-6 ปี ก่อนหน้านี้ และเป็นหมู่บ้าน OTOP Village ด้วยมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ในเรื่องของวิถีชีวิตชาวชองมีวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของตนเองที่ชวนให้ไปสัมผัส เช่น สปาสุ่มไก่ ที่ใช้สมุนไพรชาวชอง การนวดประคบ การร่อนพลอย โรงงานสกัดน้ำมันกฤษณา และเมนูอาหารท้องถิ่นชาวชองที่มีอัตลักษณ์ของตัวเอง เช่น แกงกล้วยพระ อีกเส้นทางจากพิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณีไปชมโบสถ์ดิน 1 ใน 9 แห่ง ของไทยที่ ตำบลด่านชุมพล แวะร่อนพลอยที่คลองแอ่ง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองบอน ที่รับรองว่านักแสวงโชคจะได้ลุ้นพลอยแดงและโกเมนอย่างแน่นอน ก่อนกลับแวะเที่ยวชมอุทยานฯ น้ำตกคลองแก้ว เล่นน้ำตกที่มีให้ปีนป่ายถึง 7 ชั้น ที่หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อพลอย และพลาดไม่ได้กับอาหารถิ่นเมนูเด็ดของที่บ้านจัดสรร หมู่ที่ 9 ตำบลบ่อพลอย ที่ต้องแจ้งล่วงหน้าไว้ รับประทานเมื่อมาถึงหรือก่อนเดินทางกลับ และหากใครต้องการซื้อผลิตภัณฑ์จักสานจากคลุ้ม แวะซื้อได้ที่บ้านคลองโอน หมู่ที่ 4 ตำบลนนทรีย์

คุณเสรี สำราญจิตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด กล่าวว่า เส้นทางท่องเที่ยวอำเภอบ่อไร่ ที่ออกแบบไว้ ไม่ว่าจะเริ่มต้นเส้นทางไปหมู่บ้าน OTOP Village หมู่ที่ 1 บ้านคลองขวาง ตำบลช้างทูน หรือเส้นทาง หมู่ที่ 9 บ้านจัดสรร ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ ควรเริ่มต้นที่ “พิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณี” ตั้งอยู่ หมู่ที่ 9 บ้านจัดสรร เพื่อให้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของการทำเหมืองพลอยของอำเภอบ่อไร่ที่เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุด รายได้ 1,000 ล้านบาท/วัน มาเมื่อ 45 ปีมาแล้ว (ตั้งแต่ ปี 2516-2540) ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งพื้นที่จัดนิทรรศการเป็นห้องๆ ห้องประวัติการทำพลอยตั้งแต่อดีตใช้มือขุดมาถึงการทำเหมืองพลอย ห้องจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งในอิริยาบถเสมือนจริง ซึ่งบางคนยังมีชีวิตอยู่ เริ่มตั้งแต่ การขุดหาพลอย การร่อนพลอย การคัดพลอย ตลาดค้าพลอย เด็กเดินพลอย และมีบู๊ธจำหน่ายพลอยและโกเมนของแท้ 100% และของที่ระลึก

โบสถ์ดิน ร่อนพลอย…น้ำตกคลองแก้ว
คุณเสรี กล่าวถึงเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงโบสถ์ดิน-ร่อนพลอย-น้ำตกคลองแก้ว ว่า หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณีแล้ว เดินทางไปประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อชม “โบสถ์ดิน” สถาปัตยกรรมสมัยไทยใหม่ ที่วัดทับทิมสยาม หมู่ที่ 7 ตำบลด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ ซึ่งเป็น 1 ใน 9 แห่ง ในประเทศไทย สร้างถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวโรกาสทรงเจริญพระชันษา 99 ปี เมื่อปี 2556 ฝีมือการออกแบบก่อสร้างของอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ใช้เทคนิคแบบบดอัด ใช้ดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ก่อสร้างทั้งหลัง ออกแบบเน้นความสะดวกสบายของผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม มีทางลาดรถเข็นขึ้นถึงภายในตัวโบสถ์ไหว้พระประธานได้ พื้นโบสถ์เจาะเป็นช่องให้นั่งหย่อนขา พร้อมเก้าอี้ทรงเตี้ยมีพนักพิง ให้ผู้สูงอายุนั่งสะดวกและไม่สูงเกินพระสงฆ์ ที่นี่ยังเป็นจุดที่ถ่ายรูปดวงอาทิตย์ขึ้น-ตก สวยงามมาก

“จากนั้นเดินทางกลับมาแวะจุดร่อนพลอย ที่คลองแอ่ง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ ที่นี่มีสายแร่เป็นแหล่งร่อนพลอยของชาวบ้านมาก่อน ปัจจุบันยังพอมีพลอยแดงเม็ดเล็กๆ และโกเมน ให้ ‘นักล่าพลอย’ ได้แสวงโชคโดยเฉพาะโกเมน ยืนยันว่ายังมีหลงเหลือให้นักแสวงโชคได้เป็นที่ระลึกแน่นอน ซึ่งในวันเปิดเส้นทาง คุณวิยะดา ซวง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด เห็นว่ากิจกรรมนี้สนุกสนาน ตื่นเต้น น่าสนใจมาก เพราะเป็นการเสี่ยงโชค และยังมีพลอยแดงหลงเหลืออยู่จริง จากนั้นแวะเที่ยวชมอุทยานฯ และเล่นน้ำตกคลองแก้ว ที่มีความสูงถึง 7 ชั้น ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อพลอย และอย่าลืมลิ้มลองเมนูอาหารพื้นบ้านจากชุมชนบ้านจัดสรร หมู่ที่ 9 ตำบลบ่อพลอย เช่น แกงอุ๊บหมู น้ำพริกกะปิระกำกับผักพื้นบ้าน ไก่ต้มกระวาน ที่หารับประทานได้ที่อำเภอบ่อไร่เท่านั้น รับรองว่าอิ่มอร่อยแน่นอน” คุณเสรี กล่าว

สปาสุ่มไก่ แกงไก่กล้วยพระ วิถีชีวิตชาวชอง…ที่ อบต. ช้างทูน
คุณสมชาย เปรื่องเวช ประธานกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน นิเวศพิพิธภัณฑ์ชอง บ้านช้างทูน และรองประธานหมู่บ้านโอท็อป วิลเลจ หมู่ที่ 1 บ้านคลองขวาง เล่าว่า หมู่ที่ 1 บ้านคลองขวาง และ หมู่ที่ 5 บ้านหนองไม้หอม ส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชาวชองซัมเร มีวัฒนธรรมประเพณีเป็นของตนเอง เมื่อ ปี 2555 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด ได้ช่วยพัฒนาเป็น “นิเวศพิพิธภัณฑ์ (Eco- Museum)” เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวอนุรักษ์ธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนชาวชอง มีเส้นทางให้นักท่องเที่ยวเลือกแบบอาหารบุฟเฟ่ต์ คือการอบสมุนไพรสปาสุ่มไก่ การนวดคลายเส้น การนวดประคบ การร่อนพลอยที่คลองแอ่ง บ้านหนองไม้หอม ชมโรงงานกลั่นน้ำมันกฤษณา ที่พลาดไม่ได้คือ การลิ้มลองอาหารพื้นถิ่นของชาวชอง เช่น แกงไก่กล้วยพระข้าวเหนียวมูน แกงสำรอง แกงกระวาน ไก่ต้มกระวาน วุ้นหมาน้อย โดยเฉพาะแกงไก่กล้วยพระข้าวเหนียวมูนถือว่าเป็นไฮไลต์ต้องมารับประทานที่นี่เท่านั้น
“ตั้งต้นจากลิ้มรสเมนูอาหารถิ่นชาวชอง ที่ อบต. ช้างทูน หรือเดินทางไปพิพิธภัณฑ์เมืองอัญมณีก่อน จากนั้นนั่งซาเล้งแรนเจอร์ไปร่อนพลอยที่คลองแอ่ง ตำบลหนองบอน กลับมานวดคลายเส้น นวดประคบ หรือทำสปาสุ่มไก่ แล้วทิ้งให้ผิวหนังซึมซับสมุนไพร กลับไปอาบน้ำที่บ้านหรือที่พัก สมุนไพรที่ใช้ เป็นสมุนไพรธรรมชาติของชาวชองใช้เป็นยาในวิถีชีวิต การทำสปาสุ่มไก่ มี 4 กลุ่ม คือ

- ใบชองระอา
- 2. ใบมะขาม ส้มป่อย
- 3. พิมเสนการบูร
- 4. เถาวัลย์เปรียงและน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ การอบจะใช้ไอน้ำจากหม้อต้มสมุนไพรที่ปลอดภัย มีระบบการควบคุมอุณหภูมิ ความร้อนประมาณ 40 องศาเซลเซียส ใบชองระอาชาวชองถือว่าเป็นสมุนไพรที่ใช้รักษาแทบทุกโรค และสกัดใช้ทำยาเหลือง ลูกประคบ น้ำมันนวด เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของหมู่บ้านด้วย” คุณสมชาย กล่าว

ท้ายสุด คุณภานุวัฒน์ พุทธเกสร ยืนยันถึงศักยภาพการท่องเที่ยวของพื้นที่อำเภอบ่อไร่ว่ายังพัฒนาด้านท่องเที่ยวได้อีกมาก และ ปี 2562 วิสาหกิจชุมชนบ้านนนทรีย์ ตำบลนนทรีย์ เตรียมเปิดแหล่งท่องเที่ยวสดใหม่ที่อ่างเก็บน้ำคลองโสนและน้ำตกใกล้เคียงโดยการล่องแพ รับรองว่าเป็นบรรยากาศที่สวยงามมากๆ เป็นอันซีนของอำเภอบ่อไร่ ตามสโลแกน … “บ่อไร่บ้านฉัน ไม่ไกล ไม่ไป ไม่รู้”… การท่องเที่ยวเส้นทางอำเภอบ่อไร่ เพื่อความสะดวก สอบถามล่วงหน้า นายอำเภอบ่อไร่ โทร. 081-867-1409 และ คุณสมชาย เปรื่องเวช โทร. 090-124-9068