| ผู้เขียน | ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ซีพีเอฟประกาศปี 60 โต 5 แสนล้าน หลังซื้อกิจการกลุ่มเบลลิซิโอ มูลค่า 1.075 พันล้านเหรียญสหรัฐ ชี้เป็นการซื้อธุรกิจอาหารในสหรัฐเป็นครั้งแรกของบริษัท
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2559 บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF คาดว่า ปีนี้จะมียอดรายได้ 4.5 แสนล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 5 แสนล้านบาทในปี 2560 ล่าสุดประกาศว่าได้ซื้อกิจการบริษัท เบลลิซิโอ ฟู้ด อิงก์ (Bellisio) จากบริษัท เซ็นเตอร์ พาร์ตเนอร์ส แมเนจเมนต์ แอลแอลซี (Centre Partners) ตามเงื่อนไขที่ได้รับการเห็นชอบแล้วจากคณะกรรมาธิการการค้า และกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ โดย CPF จะถือหุ้น 100% คิดเป็นมูลค่า 1.075 พันล้านเหรียญสหรัฐ การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นการรวมกันระหว่างบริษัทอาหารแช่แข็งที่ใหญ่ ที่สุด และเติบโตเร็วที่สุดของสหรัฐ กับบริษัทผู้ผลิตอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย ซึ่งเบลลิซิโอ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งแบบ Single Serve ตราสินค้ามิเชลินาส์ (Michelina”s), แอตคินส์ (Atkins) บอสตัน มาร์เก็ต (Boston Market), ชิลลีส์ (Chilli”s), อีตทิงเวลล์ (Eathingwell) และอีต (Eat !) และเป็นผู้ผลิตร่วมสินค้าแบรนด์ของลูกค้า (Private Label) และผู้ประกอบการธุรกิจอาหารต่าง ๆ
ขณะที่ซีพีเอฟ เป็นผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีฟาร์มปศุสัตว์ (หมู ไก่เนื้อ ไก่ไข่ และเป็ด) สัตว์น้ำ (กุ้งและปลา) และทำธุรกิจครบวงจรเกี่ยวเนื่องกับอาหารสัตว์, พันธุ์สัตว์, ฟาร์มปศุสัตว์, การแปรรูปเนื้อสัตว์, อาหารกึ่งสำเร็จรูป และเนื้อสัตว์ปรุงสำเร็จ, ผลิตภัณฑ์อาหารและเนื้อสัตว์ ฯลฯ
นายโจแอล คอนเนอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเบลลิซิโอ กล่าวว่า เราตื่นเต้นและยินดีที่สุดกับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับซีพีเอฟในครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจและการเติบโตของเบลลิซิโอใน อนาคต ซีพีเอฟเป็นบริษัทที่มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่น ซึ่งเราสามารถแบ่งปันประสบการณ์ที่มีค่าในเรื่องของคุณภาพและนวัตกรรมด้วย กัน
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าวว่า การซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า CPF ได้ก้าวผ่านขึ้นมาเป็นผู้นำที่ใหญ่ที่สุดในการตลาดอาหารของโลก ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของบริษัทในการเดินหน้าสู่เป้าหมายธุรกิจการ เป็นครัวของโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
ทั้งนี้ นายโจแอลและทีมคณะทำงานได้สร้างเบลลิซิโอ จะดำเนินธุรกิจร่วมกัน เพื่อให้ธุรกิจเบลลิซิโอขึ้นมาให้เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าที่ได้รับความนิยม และเราทั้งสองจะดำเนินธุรกิจร่วมกัน เพื่อให้ธุรกิจเบลลิซิโอเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งในการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะทำให้เราสามารถบุกตลาดอเมริกาเหนือ และสามารถสร้างสรรค์สินค้า เพื่อผู้บริโภคในสหรัฐ และยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นอีกด้วย
นายบรูฟ พอลแลน หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทเซ็นเตอร์ พาร์ตเนอร์ส กล่าวว่า พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลสัมฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความสำเร็จของเบลลิซิโอในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ทีมบริหารงานที่นำโดยนายโจแอล คอนเนอร์ เราเชื่อว่า CPF เป็นส่วนหนึ่งของเบลลิซิโอ ที่จะเติบโตไปด้วยกันในอนาคต
ทั้งนี้ ทีมบริหารเบลลิซิโอและพนักงานในปัจจุบัน และยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของตนต่อไป และขอยืนยันกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ทุกรายว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม โดยเมืองมินนิอาโพลิสยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทที่บริหารจัดการ ธุรกิจในภูมิภาคด้วย
