ปี60 ชาวอเมริกันนิยมปลูกผักบนหลังคาร้าน -ปลูกในอาคารด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  ในปี 2560 พฤติกรรมชาวอเมริกันเริ่มหันมาสนใจปลูกพืชผักสดเพื่อทำอาหารในครัวเรือนมากขึ้น  เช่น ปลูกผักสดบนหลังคาร้าน หรือปลูกในอาคารด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ส่วนร้านอาหารฟาสฟู้ดก็เน้นใช้พืชผักที่มีความสดและคุณภาพดี รวมทั้งเลือกใช้ส่วนผสมวัตถุดิบอาหารแบบธรรมชาติ หรือวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการกับเศษอาหาร การใช้ผัก ผลไม้ที่หาได้จากฟาร์มท้องถิ่น การใช้อาหารทะเลและเนื้อสัตว์ในท้องถิ่น และลดจำนวนขยะที่เกิดจากเศษอาหาร ซึ่งเมนูอาหารยังนิยมใช้เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบ ควบคู่กับผักสดเพื่อสุขภาพ และเครื่องสมุนไพรพื้นเมือง นิยมเมนูอาหารจานด่วนอาหารข้างทางหรือนำไปทำเองมากขึ้น

นอกจากนี้  จากผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคตามร้านอาหารทั่วโลก ในส่วนของสหรัฐฯ พบว่า กลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯที่เป็นกลุ่มมิลเลียนเนียล( Millennials) และกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย (Generation Y) ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี กำลังเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่สุดของประเทศ หรือมีจำนวนประมาณ 75.4 ล้านคน มากกว่ากลุ่มเบบี้บูมเมอร์( Baby Boomers ) อายุระหว่าง 51-69 ปี ที่มีจำนวน 74.9 ล้านคน ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคเจเนอเรชั่นเอ็ก( Generation X) อายุระหว่าง 35-50 ปี เป็นอันดับ 3 แต่ภายในปี 2571 จะขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 ดังนั้น พฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มมิลเลียนเนียล จะเป็นกลุ่มสำคัญต่อตลาดธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร

“ กลุ่มมิลเลียนเนียล เด่นชัดเรื่องกระแสรักษ์โลก บริโภคแบบยั่งยืนหรือการใช้วัตถุดิบใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้องการทดลองอาหารใหม่ๆและอาหารต่างชาติเพิ่มขึ้น หากร้านอาหารไทยไม่ปรับตัวหรือพัฒนาเมนูอาหารไม่ได้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคคนกลุ่มนี้ จะกระทบต่อการทำธุรกิจร้านอาหารไทยในสหรัฐฯและส่งผลต่อเนื่องถึงการขยายโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกด้วย ” นางอภิรดี กล่าว

นางอภิรดี กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ลงพื้นที่ไปให้คำแนะนำแก่ร้านอาหารไทย และผลักดันให้มีการพัฒนาเมนูอาหาร และประยุกต์การทำอาหารไทยให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการของตลาด เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารไทยในสหรัฐฯเดินหน้าต่อไปได้ และยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสหรัฐฯ เพราะสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที