เด็กอุทัยธานี เก่ง เพาะพันธุ์กบ ขายพันธุ์ปลา รายได้เดือนละหมื่น เลี้ยงครอบครัว

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เด็กนักเรียนคนหนึ่ง จะแบ่งเวลามาทำเกษตร เพื่อให้มีรายได้นำมาจุนเจือครอบครัว และยังต้องทำหน้าที่นักเรียนที่ดี เพื่อให้ได้ศึกษาต่อยังสาขาวิชาที่ต้องการ ก่อนจบออกมาทำงานที่รัก

นายกฤตเมธ โกดี หรือ น้องฟิวส์

แต่ นายกฤตเมธ โกดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอุทัยวิทยาคม เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ก็ทำได้

นายกฤตเมธ หรือ น้องฟิวส์ มีแววเป็นเด็กรักเกษตรมาตั้งแต่เล็ก เริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาก็สนใจการปลูกพืชผัก เมื่อขึ้นระดับชั้นมัธยมศึกษาก็เริ่มหาเลี้ยงสัตว์และเพาะพันธุ์สัตว์ที่จับต้องได้ เพื่อขาย สร้างรายได้ให้กับครอบครัว

ให้อาหาร

ครอบครัวของน้องฟิวส์ มีฐานะยากจน พ่อและแม่เป็นข้าราชการ แต่ก็มีหนี้สินจำนวนมาก ทำให้น้องฟิวส์ ไม่ได้รับการโอบอุ้มดูแลที่ดีนัก อุปกรณ์การเรียน หรือการสนับสนุนส่งเสริมการเรียนที่นอกเหนือจากโรงเรียนจัดการศึกษาให้จึงไม่มีเหมือนเด็กอื่น ทำให้น้องฟิวส์มองภาพการดำเนินชีวิตของตนในอนาคตเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงมองหาหนทางช่วยเหลือครอบครัวด้วยการสร้างรายได้

คัดไซซ์ลูกกบ

น้องฟิวส์ เริ่มสร้างรายได้ให้กับตนเอง ไม่ให้เป็นภาระของครอบครัว ด้วยการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามจำหน่าย ปลูกพืชผักไว้รับประทานเองภายในบ้าน ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลง แต่รายได้ที่เข้ามาก็ยังไม่เพียงพอ ด้วยวัยกระตือรือร้นเรียนรู้สิ่งใหม่เพิ่มเติมอยู่เสมอ ทำให้น้องฟิวส์ เลือกเลิกเพาะเลี้ยงปลาสวยงามจำหน่าย แต่เลือกการเพาะเลี้ยงกบแทน เนื่องจากมองเห็นรายได้ที่มากกว่า

6 ปีก่อน น้องฟิวส์ เริ่มต้นเลี้ยงปลาสวยงาม และปลูกพืชผัก แต่เมื่อรายได้ไม่เพียงพอ จึงเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงกบ โดยระยะแรกเริ่มเลี้ยงจากกบเล็กให้โต เพื่อขายเนื้อกบ แต่เพราะไม่มีประสบการณ์ ทำให้การเลี้ยงกบเพื่อขายเนื้อของน้องฟิวส์ประสบภาวะขาดทุนย่อยยับ

เพาะพันธุ์ผักไว้รับประทานเองในครัวเรือน

“ผมไม่ได้ย่อท้อหรอกครับ ล้มแล้วก็เริ่มต้นใหม่ได้ ผมใช้เงินเท่าที่มีอยู่ ยืมพี่ป้าน้าอามาบ้าง เอามารวมๆ กันแล้วซื้อพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์กบ ตั้งใจจะเอามาเพาะ ช่วง 1-2 ปีแรก ล้มๆ ลุกๆ ได้บ้าง ขาดทุนบ้าง แต่ผมก็พยายามศึกษาหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเข้าไปขอซื้อพันธุ์กบที่ฟาร์มใหญ่ในจังหวัดอุทัยธานี เจ้าของฟาร์มใจดี นอกจากลดราคาให้ ยังสอนผมทุกๆ ขั้นตอน ให้ผมเข้าไปเรียนรู้ในฟาร์มได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จนผมนำมาทำเองแล้วประสบความสำเร็จ”

พันธุ์ปลาที่เตรียมนำไปส่งลูกค้า

บริเวณบ้านไม่ได้มีพื้นที่มากนัก แต่น้องฟิวส์ ก็แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนสำหรับเลี้ยงกบ

บ่อปูนขนาด 5 บ่อ แบ่งเป็นบ่อเพาะพันธุ์ บ่อพัก และบ่อที่เป็นกระชังน้ำอีก 8 กระชัง บ่อดินอีกจำนวนหนึ่ง น้องฟิวส์ บอกว่า การที่ต้องทำบ่อไว้หลายประเภทและหลายขนาด ก็เพื่อลดอัตราการสูญเสียลูกกบลงให้มากที่สุด เนื่องจากกบแต่ละวัยมีพัฒนาการที่แตกต่างกันมาก ซึ่งได้ผลดี

ผักสวนครัวที่ปลูกไว้ หากมีมากก็นำไปจำหน่าย

น้องฟิวส์ เล่าถึงการเจริญเติบโตของกบ ว่า ช่วงของการเพาะกบ เมื่อเพาะได้กบจะอยู่ในบ่อปูน นาน 4 วัน เมื่อขนาดกบไม่ลอดตากระชัง จึงตักนำไปปล่อยลงกระชังน้ำ โดยลูกกบอีกระยะที่เริ่มเจริญเติบโตขึ้นเป็นลูกอ๊อด ควรตักไว้เลี้ยงในบ่อดิน เพื่อไม่ให้ลูกอ๊อดเห็นตัวกัน หากเห็นตัวจะกินกันเอง เกิดการสูญเสีย ในบ่อดินจะทำให้ลูกอ๊อดมองไม่เห็นกัน อีกทั้งยังมีแพลงตอนในดินที่ลูกอ๊อดกินเป็นอาหารได้ เมื่อลูกกบมีอายุได้ 18 วัน จะเริ่มมีขาหลังงอกออกมาก ให้ตักลูกกบขึ้นมาพักที่บ่อปูนอีกรอบ เติมน้ำให้สูงจากพื้น 45 เซนติเมตร ระยะที่ลูกกบมีอายุ 18 วัน จะผุดขึ้นลงจากพื้นถึงผิวน้ำ หากระดับน้ำสูงจากพื้นมาก จะทำให้ระยะเวลาการงอกขาของลูกกบมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ระดับน้ำสูงจากพื้น 45 เซนติเมตร จึงเป็นระดับที่พอดีต่อระยะเวลาการงอกขาของลูกกบ หลังจากนำลูกกบขึ้นบ่อปูนแล้ว ควรนำใบมะพร้าวสดเลาะปลายใบทิ้ง เพื่อให้ลูกกบที่เริ่มเป็นรูปร่างลูกกบเหยียบใบมะพร้าวสดขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่นำลูกกบขึ้นบ่อปูน ผู้เลี้ยงควรคัดขนาดลูกกบ โดยใช้ตาข่ายร่อน คัดขนาดให้กบที่มีขนาดเท่ากันอยู่ด้วยกัน ไม่อย่างนั้น กบที่ตัวใหญ่กว่าจะกินกบที่ตัวเล็กกว่า

ทุกที่สามารถปลูกได้

ปัจจุบัน น้องฟิวส์ มีพ่อแม่พันธุ์กบ จำนวน 100 คู่ และตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนพ่อแม่พันธุ์กบให้มากขึ้นถึง 1,000 คู่ เพื่อเพาะลูกอ๊อดจำหน่าย เพราะปัจจุบันยังขายเป็นกบเนื้อ และบางส่วนขายเป็นลูกอ๊อด ซึ่งประเมินจากความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ตลาดลูกอ๊อดยังขยายไปได้อีกมาก และมีเป้าหมายเลี้ยงกบในนาข้าวปีหน้า โดยจะอนุบาลลูกอ๊อดในนาข้าวไปพร้อมกัน

กบ เป็นรายได้หลักของน้องฟิวส์ ตอนนี้ ส่วนปลา เป็นรายได้รอง

น้องฟิวส์ เล่าว่า การขายพันธุ์ปลานั้น น้องฟิวส์ไม่ได้เป็นผู้เพาะพันธุ์ปลาเอง แต่ทำหน้าที่เหมือนเป็นตลาดกลางให้กับผู้ซื้อปลาที่ต้องการปลาหลากหลาย ปลาคุณภาพ และราคาย่อมเยา น้องฟิวส์ทำหน้าที่นี้ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมา มีลูกค้าสนใจซื้อพันธุ์ปลาจากน้องฟิวส์จำนวนมาก ส่งครั้งละหลายพันตัวถึงหลายแสนตัว ปลาที่น้องฟิวส์นำมาจำหน่ายจะเน้นไปที่พันธุ์ปลาหายาก เช่น ปลาบู่ทราย ปลาหมอตาล ปลาคล้าว ปลาสลิด ปลาแรด ปลาบึก เป็นต้น หรือหากลูกค้าต้องการพันธุ์ปลาที่แปลกแตกต่างก็สามารถสั่งได้ และน้องฟิวส์รับประกันเคลมลูกปลาให้หากเกิดปัญหาระหว่างขนส่งให้สูญเสีย

เมื่อถามว่า น้องฟิวส์แบ่งเวลาการทำงานและการเรียนอย่างไร น้องฟิวส์ บอกว่า วันธรรมดาตอนเช้าต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้ามืด จัดการธุระในฟาร์มเท่าที่ทำได้ จากนั้นไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนก็เข้าฟาร์มเพื่อจัดการธุระภายในฟาร์มให้เรียบร้อย

“ถ้ามีการบ้านก็ไปทำตอนดึกครับ แล้วก็ต้องทำอาหารให้พ่อกับแม่และตัวเองในตอนเย็นทุกวันด้วย เวลาค่อนข้างมีจำกัด หลังๆ จึงต้องให้พี่ป้าน้าอาที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วย แล้วแบ่งรายได้ให้กับทุกคน แต่ตัวผมเป็นหลัก ส่วนการเรียนเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00”

ปัจจุบัน น้องฟิวส์อยู่ระหว่างการรอผลการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยเกษตรอุทัยธานี ในสาขาวิชาพืชศาสตร์ น้องฟิวส์ ให้เหตุผลว่า ที่เลือกสาขาวิชานี้ เพราะการเลี้ยงสัตว์พอมีความรู้เลี้ยงตัวได้มากแล้ว จึงต้องการเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับพืช ซึ่งไม่ค่อยได้สัมผัส เพื่อให้การเรียนรู้ครบทุกด้านในตัวเอง และอนาคตอยากทำงานเป็นนักวิชาการที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับผู้สนใจด้วย

ความขยันขันแข็ง ทำให้น้องฟิวส์มีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการบริหารจัดการเวลา และไม่ได้ออกไปใช้เวลาเช่นวัยรุ่นหนุ่มคนอื่น แต่น้องฟิวส์ก็ภาคภูมิใจ ที่เป็นผู้ที่สร้างรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวได้

ผู้ใหญ่ใจดีที่ต้องการสนับสนุนความสามารถของน้องฟิวส์ และแนวทางการทำเกษตรของเยาวชนคนนี้ สามารถติดต่อได้ที่ นายกฤตเมธ โกดี บ้านหนองตางู หมู่ที่ 3 ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี หรือโทรศัพท์ (061) 361-3477 และ (095) 358-4926

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2563