ปลูกตะไคร้หยวก เป็นพืชแซมในสวนไม้ผล ปลูกเอง ขายเอง และรับซื้อ ทำรายได้งาม ผลผลิตต่อไร่สูง โรคน้อย ดูแลง่าย

“ตะไคร้” หนึ่งในพืชสวนครัวที่มักจะต้องมีปลูกกันทุกบ้าน ตะไคร้ จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ลดระดับคลอเลสเตอรอล ฯลฯ ตะไคร้นำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารนานาชนิด ทั้งพวกต้มยำ ยำ แกง เป็นส่วนผสมในน้ำพริกหรือพริกแกงต่างๆ ปัจจุบัน การบริโภคหรือการนำตะไคร้ไปใช้หลากหลายขึ้น ทั้งธุรกิจสปา มีการนำไปทำลูกประคบ ผลิตชาจากต้นและใบตะไคร้ สกัดน้ำมันหอมระเหย ฯลฯ นอกจากนั้น ถ้ามีตลาดรับซื้อจากโรงงานอุตสาหกรรมพริกแกง น้ำพริก ตั้งแต่อุตสาหกรรมในครัวเรือนถึงโรงงานขนาดใหญ่ ปริมาณของการใช้ตะไคร้จึงเกิดความต้องการอย่างต่อเนื่อง อาชีพการปลูกตะไคร้จึงมีการขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้นตามความต้องการของตลาด

คุณกุหลาบ ทรายแก้ว กับกอตะไคร้หยวก อายุ 4 เดือน
คุณกุหลาบ ทรายแก้ว กับกอตะไคร้หยวก อายุ 4 เดือน

คุณกุหลาบ ทรายแก้ว อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 9 ตำบลเทพนคร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โทร. (089) 437-7797 เป็นเกษตรกรอีกรายหนึ่งที่ปลูกตะไคร้มานานกว่า 10 ปี ในพื้นที่กว่า 4 ไร่

ปลูกตะไคร้ เป็นพืชแซมทำรายได้

คุณกุหลาบ เล่าว่า การปลูกตะไคร้ของที่นี่ จะปลูก “ตะไคร้หยวก” คือลำต้นอวบอ้วน เนื้อมาก มีกลิ่นฉุนพอประมาณ ผลผลิตต่อไร่สูง ประมาณ 4-5 ตัน ใช้เวลาปลูกจนเก็บเกี่ยวได้ ประมาณ 7 เดือน และโดยพื้นที่แถบนี้มักจะปลูกตะไคร้แซมตามร่องแปลงพื้นที่ว่างของสวนหรือปลูกพร้อมกับไม้ผลหลักที่ต้องรอเวลากว่า 2-3 ปี จะให้ผลผลิตได้ โดยจะปลูกตะไคร้แซมลงไปให้เป็นรายได้ในระยะสั้นก่อน คุณกุหลาบ กล่าวว่า ตะไคร้มีจุดเด่นที่ มีการดูแลน้อย โรคแมลงไม่ค่อยมี ปุ๋ยใส่น้อย ตะไคร้ปลูกง่าย แต่ต้องรู้เทคนิค การลงทุนปลูกตะไคร้ การปลูกตะไคร้ไม่ต้องลงทุนมาก ตอนแรกลงทุนต้นพันธุ์ตะไคร้ โดยต้นพันธุ์สามารถซื้อตะไคร้ที่เขาขายตามตลาดมาก็ได้ นำมาแช่น้ำให้ออกราก (ใช้เวลาประมาณ 3 วัน) แล้วนำลงปลูก ไม่ต้องลงทุนเพิ่มอีก เพราะสามารถตัดได้ตลอด รายได้หลักหมื่นบาทต่อไร่ ผลตอบแทนก็พออยู่ได้สบาย  

การปลูกตะไคร้

เตรียมหน้าดินให้พร้อม กำจัดหญ้าและวัชพืชให้หมด และขุดหลุมพรวนดินให้ลึก ประมาณ 10-20 เซนติเมตร เป็นรัศมีวงกลม 30 เซนติเมตร ถ้าปลูกน้อยใช้แรงงานคน หรือใช้รถไถไถพรวนดินเช่นเดียวกับการปลูกพืชไร่ทั่วไป จากนั้นก็ยกร่อง ระยะห่างระหว่างร่อง ประมาณ 1 เมตร เมื่อเตรียมดินพร้อมแล้วให้นำต้นพันธุ์ตะไคร้ที่มีรากเดินสมบูรณ์ดีแล้วลงปลูก โดยใช้วิธีการปลูกแบบต้นเดี่ยว ระยะห่างระหว่างต้น 1×1 เมตร ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก รองก้นหลุมก่อนปลูกด้วยก็ได้ถ้าหาได้ง่าย ส่วนวิธีทำต้นพันธุ์ตะไคร้ให้เกิดรากก่อนปลูกนั้น มีวิธีง่ายๆ คือ นำหัวตะไคร้มาตัดใบออกให้หมด จากนั้นนำมามัดรวมกันเป็นฟ่อน ขนาดพอขนย้ายสะดวก นำไปแช่น้ำปริมาณแค่พอท่วมหัวตะไคร้ จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ร่มรำไร ประมาณ 5-7 วัน ตะไคร้ก็จะแตกรากออกมาใหม่ ซึ่งเหมาะต่อการนำไปปลูก

ตะไคร้ที่ปลูกแซมในสวนฝรั่ง ใช้ระยะปลูก 1x1 เมตร
ตะไคร้ที่ปลูกแซมในสวนฝรั่ง ใช้ระยะปลูก 1×1 เมตร

การปลูกตะไคร้ที่ถูกต้อง จะต้องปักต้นลงดินให้มีลักษณะเอียง 45 องศา โดยปักให้รอบเป็นวงกลมบริเวณขอบหลุมปลูก หลุมละ 4-6 ต้น ที่คุณกุหลาบปลูกตะไคร้หลายๆ ต้น ต่อหลุม เพราะมีต้นพันธุ์เองอยู่แล้ว แต่บางท่านที่ต้องซื้อพันธุ์มาปลูกก็อาจจะปรับให้เหลือสัก 3 ต้น ต่อหลุม ก็ใช้ได้ หลายท่านที่เคยปลูกตะไคร้เอง อาจจะเคยปักต้นตะไคร้ลงกับดินตรงๆ บริเวณกลางหลุมเลย ตามธรรมชาติของการเจริญเติบโตของตะไคร้ก็จะแตกกอจากตรงกลางหลุม แล้วขยายกอตะไคร้ออกไปหาขอบหลุมปลูก เมื่อตะไคร้แก่และสามารถเลือกเอาไปทำอาหารได้ ตะไคร้แก่ก็จะต้องอยู่กลางๆ กอ เวลาเราจะเก็บตะไคร้เพียง 2-3 ต้น ก็ต้องเก็บจากตรงกลางกอก่อน ทำให้การเก็บตะไคร้ยาก เพราะใบตะไคร้จะบาดแขนบาดมือคนเก็บ แถมยังทำให้ต้นตะไคร้ใกล้เคียงบอบช้ำจากการดึงต้นตะไคร้อีก แต่วิธีปลูกที่ถูกต้องคือ การปักต้นตะไคร้ให้เฉียง 45 องศา บริเวณขอบหลุมปลูก การแตกกอของตะไคร้ก็จะแตกจากขอบหลุมไปยังกลางกอ ทำให้การเก็บตะไคร้บริเวณขอบหลุมหรือริมกอก็ย่อมง่ายกว่า เป็นเคล็ดลับเล็กๆ ที่บางท่านอาจจะยังไม่รู้

หลังตัดใบ ลอกกาบ ก่อนนำไปล้างทำความสะอาด
หลังตัดใบ ลอกกาบ ก่อนนำไปล้างทำความสะอาด

ปกติแล้วแปลงที่จะปลูกพืชจะต้องไถพรวนดินให้เรียบร้อย จากนั้นก็เตรียมหลุมโดยพรวนดินเป็นวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร หากมีปุ๋ยคอกก็สามารถใส่พร้อมกับการพรวนดินได้เลย ระยะห่างที่เหมาะสมคือ 1×1 เมตร หากปลูกระยะชิดกว่านี้ลำต้นตะไคร้จะไม่ค่อยอวบอ้วน ต้นจะผอมสูง ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ราว 1,600 กอ แต่จำนวนกอตะไคร้อาจจะน้อยลง หากปลูกตะไคร้เป็นพืชแซม เช่น คุณกุหลาบ จะปลูกตะไคร้แซมกับการปลูกฝรั่งแป้นสีทอง เมื่อฝรั่งเริ่มให้ผลผลิตได้ ตะไคร้สามารถขุดขายได้และก็ค่อยๆ ปลูกใหม่ ให้กอตะไคร้หนีออกห่างจากต้นฝรั่งออกมา แต่ตอนนี้ฝรั่งได้ถูกรื้อออกไปเป็นบางส่วน เพื่อนำพื้นที่มาปลูกตะไคร้เพิ่มขึ้น

 

เตรียมต้นพันธุ์ก่อนปลูก

เลือกกอตะไคร้ที่มีอายุเกิน 8 เดือน ขึ้นไป เพราะถือว่าตะไคร้แก่พอที่จะนำไปขยายพันธุ์ปลูกต่อได้ ใช้จอบขุดยกทั้งกอ แล้วนำมาแยกต้นออกจากกัน ใช้มีดตัดส่วนรากและใบทิ้ง ก็สามารถนำไปปลูกในแปลงที่เตรียมหลุมปลูกไว้แล้วได้เลย หรืออีกวิธีคือมัดต้นพันธุ์ตะไคร้เป็นกำพอที่จะตั้งได้ นำไปแช่น้ำ ปริมาณ 5 เซนติเมตร ประมาณ 5-7 วัน สังเกตว่ารากตะไคร้จะงอกออกมา เมื่อรากที่งอกออกมาแก่เต็มที่ คือมีสีเหลืองเข้มก็ให้นำไปปลูกได้ การปลูกก็ให้ปักต้นพันธุ์เอียง 45 องศา ปักลึก ประมาณ 5 เซนติเมตร นิยมปักต้นพันธุ์ 4 ต้น ต่อหลุม ปักเป็นลักษณะ 4 ทิศ เพื่อให้เป็นพุ่มวงกลม

 

ดูแลตะไคร้อย่างไรให้งาม

“ตะไคร้ มีนิสัยชอบน้ำ” สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตะไคร้หัวใหญ่ได้น้ำหนักนั้น ขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างต้นและระบบน้ำเป็นสำคัญ เพราะตะไคร้เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ดังนั้น พื้นที่ปลูกจะต้องเป็นพื้นที่ที่มีระบบน้ำชลประทาน ตะไคร้หากขาดน้ำหลายๆ วัน ใบตะไคร้ก็จะแสดงอาการเหี่ยวสลดอย่างเห็นได้ชัด การให้น้ำในพื้นที่นี้ ในฤดูแล้งนิยมสูบน้ำ ปล่อยน้ำเข้าแปลงปลูกตะไคร้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ตามความเหมาะสม และสังเกตสภาพต้นตะไคร้ประกอบ แต่ในบางพื้นที่ก็จะวางระบบน้ำเพื่อให้เกิดความสะดวกและยังส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตด้วย หากปลูกตะไคร้ใหม่แนะนำควรจะต้องปลูกในช่วงฤดูฝน เพื่อไม่ต้องมีภาระในการให้น้ำและต้นตะไคร้จะแตกกอเร็ว ตะไคร้จะงามมากในช่วงฤดูฝน

 

การใส่ปุ๋ยและการกำจัดวัชพืช

จะเน้นการให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น สูตร 15-15-15, 16-16-16 ใส่ยืนพื้น โดยใส่ครั้งแรกหลังจากปลูกตะไคร้ลงดินแล้ว 1 เดือน และจะให้ทุกๆ 3 เดือน โดยดูจากความสมบูรณ์ของกอตะไคร้เป็นหลัก แต่เท่าที่สังเกตหากใส่ปุ๋ยบ่อยมากเท่าไหร่ ต้นตะไคร้ก็จะโตเร็ว วิธีดังกล่าวมักจะใช้เร่งต้นตะไคร้ให้เจริญเติบโต ขายในช่วงที่มีราคาแพง หรือช่วงฤดูแล้งของทุกปี หรือหากจะเร่งการเจริญเติบโตในบางระยะ ก็อาจจะเสริมด้วย ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ใส่ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ การใส่ปุ๋ย ตะไคร้จะให้โดยวิธีการหว่านเหมือนกับหว่านปุ๋ยในนาข้าว อัตราการใช้ ในพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะใช้ปุ๋ยเคมี ประมาณ 25 กิโลกรัม ต่อการให้ 1 ครั้ง การใส่ปุ๋ยทุกครั้งจะต้องให้น้ำตาม เพื่อให้ปุ๋ยละลายให้หมด

การใส่ปุ๋ย จะเน้นใส่สูตรเสมอเพียงสูตรเดียว
การใส่ปุ๋ย จะเน้นใส่สูตรเสมอเพียงสูตรเดียว

ส่วนการกำจัดวัชพืช มักจะทำในช่วงแรกๆ ของการปลูก ก็สามารถกำจัดวัชพืชได้ ทั้งใช้แรงงานคนหรือใช้ยาฆ่าหญ้า ตามแนวทางของแต่ละสวน เพราะตะไคร้ช่วงแรกถ้ามีหญ้าหรือวัชพืชขึ้นคลุม มักจะไม่ค่อยเจริญเติบโตหรือตาย แต่เมื่อต้นตะไคร้โตมีใบคลุมดิน ปัญหาวัชพืชก็จะน้อยหรือหมดไป เนื่องจากใบตะไคร้จะคลุมดิน ทำให้วัชพืชไม่ค่อยขึ้น

 

ขุดตะไคร้ขายได้  ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี

ในช่วงเวลานี้เกษตรกรก็จะต้องขุดตะไคร้ทยอยขายเรื่อยๆ หากอายุของกอตะไคร้เกินกว่านี้ ลำต้นก็จะเริ่มฝ่อเสียไป การขุดเพื่อจำหน่ายก็ทำเช่นเดียวกับการเตรียมต้นพันธุ์คือ ขุดตะไคร้ทั้งกอ โดยน้ำหนักที่ได้ตะไคร้ต่อกอ จะประมาณ 6-10 กิโลกรัม ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการดูแล จากนั้นนำมาตัดแต่งรากและใบออก ล้างต้นให้สะอาด ใช้มีดตัดให้ต้นตะไคร้มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร มัดเป็นกำๆ ใส่กระสอบหรือใส่ถุงพลาสติก บรรจุน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะนำส่งขายแบบไหน เช่น ตลาดทั่วไป ก็ใส่ถุงขนาดบรรจุ 10 กิโลกรัม แต่หากเป็นโรงงานน้ำพริก พริกแกง ก็จะชั่งขึ้นรถเป็นกำๆ เลย
เวลาไปส่งก็ชั่งให้ตามที่สั่ง สำหรับปริมาณผลผลิตนั้น หากเกษตรกรดูแลจัดการแปลงปลูกให้ดี ตะไคร้ 1 ไร่ สามารถให้ผลผลิตได้สูง 4,000 กิโลกรัม โดยมีราคารับซื้อหน้าสวน อยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท (ตะไคร้ในฤดู) และหากเป็นตะไคร้นอกฤดู ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน จะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 20 บาท เป็นอย่างต่ำ ทั้งนี้หากต้องการให้ตะไคร้ที่ปลูกได้ราคาสูง ควรจะเริ่มปลูกตั้งแต่ก่อนฤดูฝนตกชุก ซึ่งจะไปเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ตะไคร้มีราคาแพงได้พอดิบพอดี

เมื่อขุดตะไคร้ จะต้องตัดใบทิ้ง ดึงกาบใบแห้งออก
เมื่อขุดตะไคร้ จะต้องตัดใบทิ้ง ดึงกาบใบแห้งออก

ปลูกเอง ขายเอง และรับซื้อ

คุณกุหลาบ นอกจากปลูกเองแล้ว ก็ยังส่งขายลูกค้าเองด้วย โดยจะนำตะไคร้ไปขายทุกๆ 5 วัน ในเขตจังหวัดตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ ฯลฯ ดังนั้น ทุกๆ สัปดาห์จะต้องมีตะไคร้ส่งครั้งละไม่ต่ำกว่า 300-500 กิโลกรัม ต่อเที่ยว แต่หากช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และฤดูแล้ง ความต้องการใช้ตะไคร้มากขึ้น ต่อเที่ยวจะส่งตะไคร้ถึง 600 กิโลกรัม ทีเดียว ราคาตะไคร้จะยืนพื้นเฉลี่ยที่ 5-8 บาท ต่อกิโลกรัม ในช่วงฤดูฝน เพราะตะไคร้ในฤดูฝนจะมีมาก แต่ในฤดูแล้งตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน และช่วงเทศกาล ราคาจะอยู่ที่ 8-10 บาท ต่อกิโลกรัม เหตุเพราะตะไคร้เป็นพืชอาศัยน้ำในแหล่งที่น้ำไม่สมบูรณ์ ก็จะปลูกตะไคร้ได้ไม่ดี หรือจะไม่มีตะไคร้ออกขาย หรือปีไหนน้ำท่วมราคาอาจจะสูงขึ้น 12-20 บาท การส่งตะไคร้แก่ลูกค้า คุณกุหลาบก็จะวนส่งลูกค้าตามจังหวัดต่างๆ ตามออเดอร์ที่สั่งไว้ พร้อมกับผักอื่นๆ เช่น ข่า กระชาย ฯลฯ ก็จะมีทั้งโรงงานพริกแกง พ่อค้าขายตะไคร้สด เมื่อมีการใช้ตะไคร้ทุกสัปดาห์

 “ตะไคร้” อาจจะไม่มีราคาซื้อขายที่สูงมาก เมื่อเทียบกับไม้ผลหรือพืชผักชนิดอื่น แต่ตะไคร้มีการจัดการที่ง่าย ไม่ค่อยมีโรคและแมลงศัตรูทำลาย มีการลงทุนที่ต่ำเมื่อเทียบกับพืชบางชนิด จึงทำให้เกษตรกรมีผลกำไรที่ดีหลายหมื่นบาทต่อไร่ทีเดียว เป็นพืชที่มีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำพริก ทำให้มีการใช้ทั้งปีและใช้ในปริมาณที่มาก ตอนนี้คุณกุหลาบและครอบครัวได้เปลี่ยนพื้นที่สวนฝรั่ง มาปลูกตะไคร้หยวกแบบเต็มพื้นที่ และได้โควต้าจากโรงงานเพื่อส่งตะไคร้เข้าโรงงานน้ำพริก ตอนนี้ก็ได้รวมกลุ่มเพื่อนเกษตรกรที่ปลูกตะไคร้ด้วยกันวางแผนผลิตเพื่อป้อนตะไคร้เข้าโรงงาน ซึ่งรับซื้อในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้

 

หลังตัดใบ ลอกกาบ ก่อนนำไปล้างทำความสะอาด
หลังตัดใบ ลอกกาบ ก่อนนำไปล้างทำความสะอาด
12
ล้างตะไคร้จนสะอาดก่อนการบรรจุลงถุง
7
การบรรจุ ขึ้นอยู่กับพ่อค้าต้องการแบบไหน
13
บรรจุ ถุงละ 10 กิโลกรัม เตรียมส่งจำหน่าย
2
ตะไคร้หยวก น้ำหนักต่อไร่สูง ต้นอ้วน ปลูกเพียง 6-7 เดือน เท่านั้น